นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 735-3 น้ำลึก ชีวิตของข้ามีค่าเช่นนั้นหรือ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 735-3 น้ำลึก ชีวิตของข้ามีค่าเช่นนั้นหรือ

แค่อาวุธลับเพียงชิ้นเดียวถึงกับต้องฆ่าคน?

เหตุผลนี้มีแค่เฟิ่งชิงเฉินเท่านั้นที่คิดได้ ใบหน้าของมือสังหารเต็มไปด้วยความดูถูก ยิ้มและกล่าวออกมาว่า “ได้ยินมาว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนฉลาด มีไหวพริบ ตอนแรกเห็นเจ้าปลอมตัว ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนเช่นนั้น แต่ตอนนี้ดูแล้วมันก็ไม่เท่าไหร่”

มันก็ไม่เท่าไหร่ น้ำเสียงที่พูดออกมาตอนท้ายประโยคคำนี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายดูถูกเฟิ่งชิงเฉินมากแค่ไหน

เอ่อ……มือที่จับปืนของเฟิ่งชิงเฉินสั่น “งั้นทำไม่เจ้าต้องฆ่าข้าด้วย? เจ้ากับข้าไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน ฆ่าข้าแล้วเจ้าจะได้อะไร? อีกฝ่ายจ่ายให้เจ้าเท่าไหร่ หากเจ้าไม่ฆ่าข้า ข้าจะให้มากกว่านั้นสองเท่า”

จากความคิดของเฟิ่งชิงเฉิน มือสังหารก็เหมือนกับทหารรับจ้างที่ทำงานเพื่อแลกเงิน

“เจ้าจะจ่ายเป็นสองเท่า? เจ้าจ่ายไหวอย่างนั้นหรือ? เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ารู้หรือเปล่าว่าค่าหัวของเจ้ามีค่าเท่าไหร่?” มือสังหารโยนกระสุนปืนขึ้นไปด้านบน กระสุนปืนพุ่งขึ้นไปด้วยความรวดเร็ว และตกลงมาบนฝ่ามือของมือสังหาร มือสังหารกำมือแน่น แสดงออกถึงความต้องการฆ่า ทำให้ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินหนาวสั่นไปทั้งตัว

“มีค่าเท่าไหร่?” เฟิ่งชิงเฉินถามออกไปด้วยความสงสัย นางสงสัยว่าชีวิตของตนจะมีค่าสักแค่ไหน คนที่นางมีเรื่องด้วย ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องจ้างมือสังหารเพื่อมากำจัดนางเช่นนี้

นี่เป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

“ขนาดเจ้าเองยังไม่รู้ว่าชีวิตของเจ้ามีค่าแค่ไหน แต่เจ้ากลับกล้าพูดว่าจะจ่ายเป็นสองเท่า เจ้าช่างโอหังเหลือเกิน เฟิ่งชิงเฉิน ภาพวาดของเจ้าถูกส่งไปยังมือสังหารทั่วโลกแล้ว และค่าหัวของเจ้าก็มีค่าสูงที่สุดในรอบหนึ่งร้อยปีของโลกแห่งมือสังหาร”

“ค่าหัวที่แพงที่สุดในรอบหนึ่งร้อยปีงั้นหรือ ใครกันที่ให้ค่าข้ามากถึงขนาดนั้น” ดวงตาของเฟิ่งชิงเฉินเบิกกว้าง นางคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าใครจะยอมลงทุนถึงขนาดนี้เพื่อแลกกับการเอาชีวิตของนาง ช่างเปล่าประโยชน์เหลือเกิน

“ใช่ อีกฝ่ายให้ความสำคัญในตัวเจ้ามาก แค่ยินดีลงมือก็จะได้รับไปก่อนสองพัน ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ เงินจำนวนนี้ไม่จำเป็นต้องคืน และหากนำศพของเจ้ากลับไปได้ก็จะได้เพิ่มอีกสองแสน” ในตอนที่มือสังหารกล่าวออกมา เขาก็จ้องมองเพื่อตรวจสอบเฟิ่งชิงเฉินอย่างต่อเนื่อง ราวกับต้องการเห็นว่าสิ่งใดในตัวของเฟิ่งชิงเฉินมีค่าถึงสองแสน

น่าเสียดายที่มือสังหารต้องผิดหวัง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มองไม่ออกว่าเฟิ่งชิงเฉินมีค่าตรงไหน จากสภาพของเฟิ่งชิงเฉิน ขอแค่เขาต้องการ จะให้ฆ่าวันละสิบรอบก็ไม่ใช่เรื่องยาก

“สองแสนมันก็ไม่ได้มากมายอะไร ดูจากสภาพแล้วมือสังหารน่าจะกำลังขาดเงิน” ดวงตาของเฟิ่งชิงเฉินดูถูกเหยียดหยามราวกับล้อเลียนเครื่องแต่งกายที่ต่ำต้อยของมือสังหาร

ที่จริงเฟิ่งชิงเฉินเองก็อยากรู้ว่าใครกันที่วางจนมาตั้งค่าหัวตนเองในราคาสองแสน แม้จำนวนสองแสนจะไม่ได้มากมายอะไร แต่มันก็ไม่น้อย แต่นางรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะถามคำถามแบบนี้

“ขาดเงินงั้นหรือ? ข้าลืมบอกไป สองแสนที่ว่ามันคือสองแสนแผ่นทอง ไม่ใช่แผ่นเงิน” มือสังหารเงยหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง มองลงมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยความดูถูก

ขาดแคลนเรื่องเงิน มือสังหารระดับสูงที่ไหนเขาขาดแคลนเรื่องเงินกัน และหากจำนวนตัวเลยมันไม่มากจนน่าตกใจ มันจะไปดึงดูดความสนใจของพวกเขาและทำให้โลกของมือสังหารแตกตื่นได้หรือไม่

“แผ่นทอง?” เสียงของเฟิ่งชิงเฉินดังขึ้นอย่างกะทันหัน “เจ้าบ้านั่นมันจะว่างเกินไปหรือเปล่า ถึงกับนำสองแสนแผ่นทองมาแลกกับชีวิตข้า? ไม่สนใจว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ ขอแค่รับให้ความร่วมมือก็รับไปก่อนสองพันแผ่นทอง นี่จะรวยเกินไปหรือเปล่า ขนาดข้าเองยังใจสั่น” ปืนที่เฟิ่งชิงเฉินถืออยู่ในมือสั่นไหวอีกครั้ง

สองแสนแผ่นทองเป็นตัวเลขที่สามารถเปลี่ยนคนให้กลายเป็นปีศาจได้อย่างแน่นอน หากเป็นปัจจุบันสอนแสนแผ่นทองก็น่าจะประมาณสองหมื่นล้าน ในการเผชิญหน้ากับเงินจำนวนมากขนาดนี้ ใครมันจะไปทนไหว

เอาเถอะ หากชีวิตที่ต้องการไม่ใช่ชีวิตของตนเอง เฟิ่งชิงเฉินเองก็คงอยากเข้าร่วมงานนี้ด้วย สังหารคนเพียงคนเดียวก็ได้รับเงินตั้งสองแสนแผ่นเงิน ไม่ว่าจะมองยังไงก็คุ้มค่า ทำงานเพียงนิดเดียวแต่กลับได้สิ่งตอบแทนอย่างมหาศาล แถมหลังจากนี้ก็ไม่จำเป็นต้องจับมีดไปฆ่าใครอีก

เฟิ่งชิงเฉินสามารถจินตนาการได้ว่ามีมือสังหารมากมายแค่ไหนที่ต้องการจะเอาชีวิตนาง และมีกลุ่มมือสังหารมากมายแค่ไหนที่ส่งยอดฝีมือมาสังหารนาง นางกลายเป็น……ศัตรูกับมือสังหารทั้งโลก

อีกฝ่ายสุดยอดมาก แถมยังใจกว้างอีกต่างหาก !

“ก็ไม่แปลกที่เจ้าจะรู้สึกสะเทือนใจ ด้วยสถานะที่ปกติแต่กลับมีค่าหัวสูงคนทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่าอ่านผิด ทำให้โลกของมือสังหารต้องสั่นสะเทือน เจ้ารู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นมีค่าหัวเท่าไหร่?” ในที่สุดมือสังหารก็หันดาบออกจากเฟิ่งชิงเฉิน ชี้ไปที่หลานอีหลินซึ่งนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรแล้วกล่าวออกมาว่า “ทายาทของตระกูลหลาน มีค่าหัวแค่เพียงสองพัน แถมยังเป็นแค่แผ่นเงิน ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยังว่าเจ้ามีมูลค่ามากมายแค่ไหน”

มีค่ามากจนทำให้โลกของมือสังหารต้องสั่นคลอน เฟิ่งชิงเฉินบอกว่าแม้แต่ตนเองยังใจสั่น และสามารถเข้าใจได้ หากมีคนยอมจ่ายสองแสนแผ่นทองเผื่อแลกกับชีวิตเจ้า บางทีเจ้าอาจจะเต็มใจยอมรับมันเพราะว่าชีวิตนี้เจ้าอาจจะไม่สามารถหาเงินมากขนาดนี้ได้

“นางคือทายาทของตระกูลหลาน? แซ่หลานแล้วจำเป็นต้องเป็นคนตระกูลหลานของราชวงศ์ก่อนงั้นหรือ?” ดาบถูกหันไปทางอื่น เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ตื่นตระหนกอีกต่อไป นางแอบขยับขาเงียบๆ และยืนให้มั่นคงอีกครั้ง ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของนางรู้สึกชา หากเป็นเช่นนี้ถึงเวลาคงวิ่งหนีไปไหนไม่ไหว

“แซ่หลานไม่จำเป็นต้องเป็นคนตระกูลหลานของราชวงศ์ก่อน แต่สร้อยหยกที่อกของนางเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลหลานแห่งราชวงศ์ก่อน แต่แค่ผู้หญิงคนนี้ดูโง่ไปหน่อย เผยหยกที่เป็นสิ่งยืนยันตัวตนออกมา นางไม่รู้ว่าของสิ่งนี้จะนำมาซึ่งหายนะหรืออย่างไร?” มือสังหารราวกับไม่เข้าใจในการกระทำอันซื่อบื้อของหลานอีหลิน เห็นเขากำลังเอียงศีรษะเพื่อใช้ความคิด เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่พูดอะไรออกมา และรอหาจังหวะวิ่งหนีเอาตัวรอด

เฟิ่งชิงเฉินแอบก้าวถอยหลัง มือสังหารดูเหมือนจะรู้การเคลื่อนไหวของนาแล้ว กวัดแกว่งดาบ ปลายดาบชี้ไปยังเฟิ่งชิงเฉินอีกครั้งราวกับเวทมนตร์ จิตสังหารอันเยือกเย็นของมือสังหารแผ่ซ่านมายังร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินแข็งทื่อไม่กล้าเคลื่อนไหว

โชคร้าย มันถูกทำลายแล้ว เฟิ่งชิงเฉินแสร้งทำเป็นตกใจ

“เฟิ่งชิงเฉิน อย่าคิดหนีเลยดีกว่า ข้าโจ่วอันเมื่อคิดจะฆ่าคนแล้วยังไม่เคยมีใครหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว” คนที่หนีไปได้ก็มีแต่คนที่เขาไม่คิดจะฆ่า

“แต่เจ้าก็ไม่คิดจะสังหารข้าไม่ใช่หรือไง?” เฟิ่งชิงเฉินรวบรวมความกล้าในคาดเดา หากชายที่ชื่อโจ่วอันต้องการสังหารนาง คงไม่ยืนพูดจาไร้สาระกับนางอยู่ตรงนี้ มือสังหารมักจะลงมืออย่างละเอียดรอบคอบ เหมือนกับตอนที่ตระกูลชุยส่งมือสังหารมา เขาไม่พูดอะไรสักคำ ลงมือในทันทีเมื่อมีโอกาส

“ใช่ ก็จริงอยู่ที่ข้าไม่ได้อยากจะฆ่าเจ้า ตอนนี้ข้าให้โอกาสเจ้า มอบอาวุธลับในมือและชีวิตของผู้หญิงคนนั้นมาเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า” โจ่วอันชี้ไปที่หลานอีหลินและพูดออกมา ดูจากท่าทางแล้วเขาไม่ได้อยากกลับไปมือเปล่า ฆ่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ก็ฆ่าหลานอีหลินแทน มันก็ได้รับรางวัลเหมือนกัน

สิ่งอื่นนางสามารถแลกได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ เฟิ่งชิงเฉินส่ายหน้า “ต้องขอโทษด้วย ของในมือข้าไม่สามารถมอบให้เจ้าได้ ชีวิตของนางเองก็เช่นกัน ก็อยากที่เจ้าพูด คนที่อยากสังหารข้ามีอยู่มากมาย นี่คือสิ่งที่มีไว้เพื่อปกป้องชีวิตของข้า จะมอบให้กับคนอื่นได้อย่างไรกัน”

เฟิ่งชิงเฉินกุมปืนไว้แน่น สายตาเฉียบคม เล็งไปที่หน้าผากของโจ่วอัน ร่างกายของนางนิ่งไม่เคลื่อนไหว นิ่งจนแม้แต่เสียงหัวใจเต้นยังไม่มี มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองไปยังเป้าหมาย

นี่คือสิ่งที่มือปืนระยะไกลที่กำลังเล็งเป้าหมายเท่านั้นถึงจะทำได้ แม้ในมือของเฟิ่งชิงเฉินจะไม่ใช่ปืนที่ใช้ยิงระยะไกล แต่ในตอนนี้นางเปรียบเสมือนนักแม่นปืนที่เก่งกาจ จ้องมองไปยังเป้าอย่างไม่ลดละ แม้ฟ้าถล่มดินทลายนางก็ไม่มีทางเคลื่อนไหว

ร่องรอยของความสับสนปรากฏขึ้นในดวงตาของโจ่วอัน ราวกับไม่ค่อยเข้าใจว่าไอสังหารเช่นนี้แผ่ออกมาจากร่างของเด็กสาวคนหนึ่งได้อย่างไร แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย

โจ่วอันพยักหน้า “เจ้าสมกับราคาสองแสนแผ่นทองเสียจริง ศัตรูของเจ้าฉลาดมาก เฟิ่งชิงเฉิน ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับในข้อเสนอของข้า งั้น……ข้าจะสังหารเจ้าก่อน จากนั้นค่อยชิงอาวุธลับนั้นมา”

ในฐานะคนบ้าอาวุธ ต่อให้ไม่มีสองแสนแผ่นทองมาล่อตาล่อใจเขาก็จะสังหารเฟิ่งชิงเฉินอยู่ดี อาวุธลับชิ้นนั้นทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาอยากจะได้มันจนใจจะขาด

ลมโชย เคลื่อนไหว……

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท