นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 820 ที่รัก รอข้าก่อน……
ชวบ……
เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจความลับบนร่างกายของนางเลยแม้แต่น้อย เดินขึ้นมาจากบ่อน้ำพุอย่างไม่เขินอาย ร่างกายอันเปลือยเปล่าของนางปรากฏอยู่ด้านหน้าของเสด็จอาเก้า
หยดน้ำไหลผ่านผิวหนังอันล้ำค่า ทำให้ผู้คนรู้สึกปากแห้ง โดยที่ไม่ทันรู้ตัว สายตาของเสด็จอาเก้าจับจ้องไปยังเรือนร่างของนางโดยไม่สามารถย้อนกลับมาได้
ไม่ต้องพูดถึงรอยแผลเป็นด้านหลัง ผิวหนังของเฟิ่งชิงเฉินช่างเรียบเนียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาที่เรียวยาว ทุกย่างก้าวมีสิ่งล่อใจที่อันตรายถึงชีวิต
เสด็จอาเก้ารู้สึกร้อนไปทั้งตัว เขานึกถึงภาพที่ขาของเฟิ่งชิงเฉินพันรอบเอวหรือคอของเขา นึกถึงภาพตัวเองควบม้าเข้าไปในร่างของนาง……
แบบนี้มันรู้สึกดีแทบตาย!
ไม่มีไขมันบนหลังของเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนเว้าส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบ บั้นท้ายกลมกลึง สะโพกทุกส่วนของนางเป็นที่โปรดปรานของเสด็จอาเก้า ต่างจากผู้หญิงสมัยนี้ที่มีรูปร่างผอมแห้ง รูปร่างของเฟิ่งชิงเฉินแทบจะสมบูรณ์แบบ ไม่มีท่าทางของความเป็นผู้ใหญ่
เสด็จอาเก้าเม้มริมฝีปาก ดวงตาของเขาเปล่งประกาย เขาเป็นคนตาถึงอย่างที่คิด ลูกสาวขุนนางผู้อ่อนแอจากตระกูลใหญ่เหล่านั้น จะเอาอะไรมาเทียบกับชิงเฉิน แน่นอนว่าตาถึงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาลงมืออย่างรวดเร็ว
เสด็จอาเก้าไม่ปกปิดสายตาอันหิวโหยของเขา มีหรือที่เฟิ่งชิงเฉินจะไม่รู้เรื่องนี้ มุมปากของเฟิ่งชิงเฉินเผยให้เห็นรอยยิ้ม นางจงใจเดินช้าลง แต่ละก้าวบิดเอวและขา ทำให้พื้นที่ลับของนางปรากฏออกมา ทำให้ผู้คนอยากเอื้อมมือไปสัมผัสคริสตัล ราวกับข้าต้องการเก็บเจ้าไว้ในกำมือ แต่เจ้ากลับยิ่งห่างข้าออกไป……
ช่างน่าเย้ายวนเหลือเกิน เพียงแค่มองจากด้านหลังก็ทำให้เขาแข็งอีกครั้ง และเขาแทบรอไม่ไหวที่จะก้าวไปข้างหน้าแล้วเหวี่ยงเฟิ่งชิงเฉินลงกับพื้น
อึก……เสด็จอาเก้ากลืนน้ำลาย เขารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจงใจดึงดูดเขา และก็บังเอิญที่ตนเองดันไปติดกับ ทำให้เป้าหมายของเฟิ่งชิงเฉินสำเร็จ เพียงแค่การกระทำสองอย่างนี้ ทำให้เขาตกหลุมพรางและต้องการทำมันอีกครั้ง
เสด็จอาเก้าหลับตาลง ลูบคาง เขาคิดว่าเขาควรจะขึ้นไปจัดการกับด้านบนหรือว่าควรพานางลงมาในบ่อน้ำพุดี?
อันหนึ่งบนพื้น อันหนึ่งในน้ำ เมื่อสักครู่ลองได้สัมผัสความรู้สึกบนพื้นไปแล้ว ตอนนี้ในน้ำน่าจะดีกว่า แม้ว่ามันจะลื่น แต่มันก็เป็นแบบทดสอบพลังเอวที่ดี และเขาก็มั่นใจว่าหากเป็นเฟิ่งชิงเฉิน เขาจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน เขายังคำภาพอนาจารในทุกอิริยาบถได้ดี ท่าเหล่านั้นสามารถทำกันในน้ำได้หรือไม่
บางทีอาจจะต้องลองดู เสด็จอาเก้าตัดสินใจ ลืมตาขึ้นพร้อมควักมือเรียกเฟิ่งชิงเฉิน “ชิงเฉิน มาทางนี้”
“ที่รักไม่ต้องรีบร้อน……” เฟิ่งชิงเฉินหันกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ทำเอาเสด็จอาเก้าตกใจจนแทบกระโดดขึ้นจากน้ำ
เฟิ่งชิงเฉินถูกผีเข้าอย่างนั้นหรือ?
วินาทีถัดมา เสด็จอาเก้าพบว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ถูกผีเข้า นางแค่ต้องการอำนาจในการควบคุม
ไม่ปล่อยให้เสด็จอาเก้ารอนาน เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามาพร้อมกับถาดผลไม้ เดินบนพื้นหยกอย่างไม่มีเสียง ส่วนบนของเฟิ่งชิงเฉินเปลือยเปล่า ภูเขาทั้งสองลูกกวัดแกว่งไปตามการเคลื่อนไหวของนาง ส่วนล่างมีผ้าขนหนูหนึ่งผืนพันไว้ ซึ่งสามารถนำมันออกได้โดยการใช้แรงดึงเพียงเล็กน้อย
วิธีนี้ดูดึงดูดผู้คนมากกว่าการไม่ใส่อะไรเลย เสด็จอาเก้ามั่นใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่นางฟ้าจิ้งจอก แต่นางก็ไม่ต่างอะไรกับนางฟ้าจิ้งจอก สามารถทำให้เขารู้สึกกดดันโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่น และยังทำให้เขาต้องการรุกนางอย่างหนัก
ตอนแรกเสด็จอาเก้านั่งพิงอยู่ข้างบ่อน้ำ ปล่อยให้น้ำในบ่อหยกปกคลุมร่างของเขา แต่เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามาใกล้ ภายใต้ความไม่รู้ตัว เขาเดินไปถึงระยะที่ใกล้ที่สุดกับเฟิ่งชิงเฉิน และรอให้เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามา
ดวงตาของเสด็จอาเก้าสว่างไสว เขาจ้องมองเฟิ่งชิงเฉินโดยไม่กะพริบ ราวกับว่าเขากำลังรอให้เหยื่อโจมตี และเมื่อเฟิ่งชิงเฉินเข้ามาใกล้ เขาก็พร้อมที่จะกลืนมันในคราเดียว
รูม่านตาของเสด็จอาเก้าเต็มไปด้วยความหลงใหลและความปรารถนา ไม่มีแผนการใด ๆ ซ่อนอยู่ เวลานี้รูม่านตาของเสด็จอาเก้ามีเพียงความปรารถนาอันบริสุทธิ์ที่ต้องการแต่เฟิ่งชิงเฉิน
ฮึ่ม……เฟิ่งชิงเฉินสะบัดผมที่ตกอยู่ข้างหูของนางอย่างมีชัย เงยหน้าขึ้น จ้องมองอย่างเย่อหยิ่ง ขอแค่นางต้องการนางก็สามารถทำได้ ทำให้เสด็จอาเก้าอดรนทนไม่ไหว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก
ในตอนที่ห่างจากเสด็จอาเก้าไม่ถึงสิบก้าว เฟิ่งชิงเฉินหยุดฝีเท้าของนาง เปิดผ้าคลุมส่วนล่างของนางออก เลียริมฝีปากของนางเบา ๆ ด้วยลิ้นเล็ก ๆ ราวกับต้องการให้อีกฝ่ายลิ้มรสของมัน
ใบหน้าของเสด็จอาเก้ากลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว ผิวหนังซึ่งสัมผัสกับผิวน้ำสั่นไหวเล็กน้อย ย้อมผิวน้ำให้กลายเป็นสีแดงเข้ม มันสามารถจินตนาการได้ว่า เวลานี้น้องชายซึ่งอยู่ใต้น้ำของเขาน่าหวาดกลัวเพียงใด
ไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้เพียงแค่การกระทำง่าย ๆ ไม่กี่อย่างก็สามารถทำให้เสด็จอาเก้าสูญเสียการควบคุม เห็นได้ชัดว่าหลังจากการต่อสู้อันดุเดือดเมื่อสักครู่ มันไม่สามารถทำให้เสด็จอาเก้าพอใจได้
เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ตรงนั้นไม่ยอมก้าวเข้ามา เสด็จอาเก้ารู้สึกร้อนรน สูดลมหายใจเข้า ระงับความปรารถนาที่ปั่นป่วนในใจของเขา เสด็จอาเก้าโบกมือเรียกเฟิ่งชิงเฉินเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง “ชิงเฉิน เจ้าบอกเองว่าจะให้รางวัลกับกษัตริย์ผู้นี้ด้วยตัวเอง เมื่อสักครู่กษัตริย์องค์นี้เป็นผู้ปรนนิบัติให้เจ้ามาโดยตลอด ตอนนี้ถึงคราวที่เจ้าควรปรนนิบัติกษัตริย์องค์นี้แล้ว”
เมื่อตื่นตระหนกและตื่นเต้น “กษัตริย์องค์นี้” คำเรียกตนเองดังกล่าวจะหลุดปากออกมา ทั้งที่ในเวลาแสดงความรัก เสด็จอาเก้าใช้คำนี้ออกมาน้อยมาก
แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้สนใจ เมื่อได้ยินคำพูดของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด นางตอบรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ก้าวผ่านบ่อหยกอย่างเชื่องช้า
อาหารมื้ออร่อยมาอยู่ตรงหน้า หัวใจของเสด็จอาเก้าเริ่มผันผวน หัวใจเต้นแรง ส่งเสียงดังจนน่ากลัว รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินจัดเจนขึ้น ยิ่งเสด็จอาเก้าหงุดหงิดมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
วันนี้นางจำเป็นต้องโต้กลับ นางต้องมอบอาหารมื้อใหญ่ให้กับเสด็จอาเก้า ทั้งสองต่างเป็นมือใหม่ ทำไมนางต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว วันนี้นางจะทรมานเสด็จอาเก้า
“ที่รัก อย่าใจร้อน รางวัลของเจ้า กำลังมาถึงแล้ว” เสน่ห์ของผู้หญิงเป็นสิ่งซึ่งไม่สามารถเรียนรู้ได้ แค่ยกมือขึ้นก็สามารถทำเสด็จอาเก้าหายใจเร็วขึ้น และก็ยิ่งทำให้เขาคาดหวังกับรางวัลของเฟิ่งชิงเฉินมากขึ้น
ภายใต้สัญญาณออกของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าเดินมายังบันไดของบ่อหยก เฟิ่งชิงเฉินนั่งอยู่บนบันได นำมือขวาจับศีรษะ พร้อมจุ่มร่างของตนเองลงน้ำโดยท่านั่งไขว่ห้าง ท่าทางนี้เต็มไปด้วยความลึกลับ ทำให้น้ำบริเวณนั้นกระเพื่อมออกเป็นวงกว้าง
“เข้ามา” เฟิ่งชิงเฉินกระดิกนิ้วของนาง ออร่าของราชินีเต็มเปี่ยม น้ำเสียงนั้นคือการออกคำสั่งอย่างแท้จริง ประกอบกับท่าทางแห่งความเย่อหยิ่ง เฟิ่งชิงเฉินกำลังออกคำสั่งกับเสด็จอาเก้า ซึ่งเป็นคำสั่งที่เขายากจะปฏิเสธ
เหมือนกับได้รับคำสั่งจากเทพโดยไม่รู้ตัว เสด็จอาเก้าไม่เพียงไม่รู้สึกโกรธที่เฟิ่งชิงเฉินออกคำสั่งกับเขา แต่เขายังรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุข ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำเช่นนี้กับเขา ชั่วขณะหนึ่งเขามีความรู้สึกหวังเป็นอย่างยิ่งในหัวใจ ว่าการที่ถูกเฟิ่งชิงเฉินครอบงำมันจะรู้สึกเช่นไร
คิดถึงตรงนี้ เลือดในร่างกายของเสด็จอาเก้าเดือดพล่าน เขาจะไปสนใจทัศนคติของเฟิ่งชิงเฉินได้อย่างไร
“นอนลง ขึ้นมาอีกหน่อย” เฟิ่งชิงเฉินขยับนิ้ว บอกให้เสด็จอาเก้านอนลงบนบันได หากทั้งสองคนอยู่ในน้ำ นางจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปโต้กลับ
เสด็จอาเก้าทำตามที่เฟิ่งชิงเฉินสั่งอย่างเป็นธรรมชาติ ต่างจากเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้านั่งอยู่บนบันไดหยก ขาทั้งสองข้างอยู่ในน้ำ แต่น้องชายของเขานั้น โผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมา
ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองเป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง ผิวสัมผัสกันเป็นครั้งคราว ร่างกายของทั้งสองมีความอ่อนไหวอย่างมากเนื่องจากความรัก เพียงสัมผัสเบา ๆ ก็เหมือนกับมีกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้ามา ทำให้ทั้งสองรู้สึกจั๊กจี้ และปล่อยให้มันสัมผัสกันอยู่เช่นนั้น
เสด็จอาเก้ายิ้มอย่างชั่วร้าย ปล่อยร่างกายของตนเองไปตามธรรมชาติ เพื่อให้เฟิ่งชิงเฉินชื่นชมในเรือนร่างของเขาได้มากพอ เฟิ่งชิงเฉินซึ่งเตรียมใจมาเป็นอย่างดี มีหรือจะหลบหนีในเวลานี้
บูชาร่างกายของเสด็จอาเก้าด้วยสายตา โดยเฉพาะตรงน้องชายของเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่บนผิวน้ำ เฟิ่งชิงเฉินมองมันอย่างใกล้ชิด หลับตาหรือทำอะไรสักอย่าง เพียงแค่มองออกไปอย่างใจเย็น แต่หัวใจของนางกลับเต้นรัว
บ้าที่สุด ขนาดของมันน่ากลัวเกินไปแล้ว ไม่แปลกเลยว่าทำไมข้าถึงรู้สึกเจ็บ แม้ไม่ได้วัด……แต่สิ่งที่ตาเห็น นางก็มั่นใจได้ว่าขนาดและความยาวของมันเกินกว่าที่เคยบันทึกไว้ในหนังสือ
เฟิ่งชิงเฉินอยากจะถามเสด็จอาเก้าออกไปว่า ปกติแล้วเขากินอะไรเพื่อนำมาปรับกับยาของนาง ไม่แน่ว่านางอาจจะทำเงินจากการขายยาประเภทนี้ได้
ความคิดเหล่านี้ของเฟิ่งชิงเฉินจะรอดพ้นจากสายตาของเสด็จอาเก้าไปได้อย่างไร รอยยิ้มบนใบหน้าของเสด็จอาเก้าชัดเจนมากขึ้น ความพึงพอใจของเฟิ่งชิงเฉินเป็นการยืนยันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา
แค๊ก แค๊ก เฟิ่งชิงเฉินรีบเก็บความคิดดังกล่าวของตนเอง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องไร้สาระ ไม่เห็นหรือว่าเสด็จอาเก้ากำลังใจร้อนและใกล้จะหมดความอดทน หากนางไม่ลงมือตอนนี้ ไม่แน่ว่าเสด็จอาเก้าอาจเป็นคนฉีกกระชากนางด้วยตนเอง
ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีโอกาสเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินไม่มีทางปล่อยให้มันหลุดมือไป นางจึงเลิกคิดเกี่ยวกับความน่ากลัวเกี่ยวกับขนาดของเสด็จอาเก้า
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มให้เสด็จอาเก้าอย่างมีเสน่ห์ นำผลไม้ชิ้นหนึ่งเข้าไปในปากของนาง แต่ไม่ได้กินมันเข้าไป นางลุกขึ้นมานั่งลงบนร่างของเสด็จอาเก้า โดยสะโพกของนางสัมผัสกับจุดนั้นของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินใช้บั้นท้ายถูไปมาโดยไม่ใส่ใจ แต่มันกลับทำให้เสด็จอาเก้าส่งเสียงแห่งความสุขออกมา
เสียงหัวเราะแห่งความภูมิใจของเฟิ่งชิงเฉินดังขึ้น ก้มหน้าลงจมริมฝีปากของเสด็จอาเก้า
เสด็จอาเก้าไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด และเขาก็ไม่มีความคิดที่จะปฏิเสธ การที่เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนเริ่ม สิ่งนี้ไม่ง่ายเลยกว่ามันจะเกิดขึ้น จึงไม่ต้องพูดถึงกลอุบายเล็กน้อยของเฟิ่งชิงเฉิน มันเอาชนะใจของเขาไปแล้ว
เสด็จอาเก้าอ้าปากอย่างร่วมมือ เฟิ่งชิงเฉินไม่พบอุปสรรคแต่อย่างใด ยื่นลิ้มออกมา นำผลไม้ในปากของนางป้อนใส่ปากของเสด็จอาเก้า ลิ้นของนางวงไปรอบปากของเสด็จอาเก้า ผลไม้ชิ้นนั้นก็เต้นรำอยู่ในปากของทั้งสอง
ตอนนี้ไม่มีใครสนใจผลไม้ ทั้งสองคนดูดและจูบอย่างรุนแรง มือของพวกเขาไม่ได้ผ่อนคลาย เคลื่อนไหวไปบนร่างกายของกันและกัน ทิ้งรอยไว้บนร่างกายของกันและกัน
ฝ่ามือขนาดใหญ่ของเสด็จอาเก้าเคลื่อนไหวไปตามส่วนโค้งด้านหลังของเฟิ่งชิงเฉิน ในที่สุดก็หยุดที่ส่วนที่ทั้งสองเชื่อมต่อกัน บีบบั้นท้ายของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าพยายามยกบั้นท้ายของเฟิ่งชิงเฉินขึ้นเพื่อให้นางนั่งได้อย่างมั่นคงบนขาของเขา
ในตอนนี้เขามีความปรารถนาอันแรงกล้า ปรารถนาที่จะเข้าไปปลดปล่อยตัวเองในร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน แต่น่าเสียดายที่เฟิ่งชิงเฉินไม่ให้ความร่วมมือ ในตอนที่เสด็จอาเก้าเคลื่อนไหว เฟิ่งชิงเฉินยืดขาทั้งสองข้างออกทันที จากนั้นงอขาของนาง ใช้เท่าทั้งสองข้างพยุงน้องชายของเสด็จอาเก้าไว้ และดำเนินวิธีการอันชั่วร้าย
ด้วยอุณหภูมิและการเคลื่อนไหว แม้ไม่ได้รู้สึกดีเหมือนการได้เข้าไป แต่มันก็เพียงพอจะทำให้เสด็จอาเก้าเสียสติ แน่นอนว่าเสด็จอาเก้าไม่ขัดขืนอีกต่อไป ปล่อยร่างกายของตนเองไปตามการเคลื่อนไหวของเฟิ่งชิงเฉิน
แต่แค่นี้มิอาจทำให้เขาพอใจได้ หากไม่ใช่ว่าปากของเขายังประกบกับปากของเฟิ่งชิงเฉินอยู่ เสด็จอาเก้าคงบอกกับเฟิ่งชิงเฉินว่าต้องการแน่นกว่านี้ เร็วกว่านี้……