นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 881 ขุดหลุมพรางให้เหยาหวากระโดด

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 881 ขุดหลุมพรางให้เหยาหวากระโดด

องค์จักรพรรดิใช้งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าเพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับขุนนาง เพื่อแสดงความเจริญรุ่งเรืองและความสงบสุขของแคว้น และเพื่อแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถของจักรพรรดิ แต่เสด็จอาเก้าและองค์รัชทายาททำเอะอะเช่นนี้ งานเลี้ยงส่งท้ายปียังมีความหมายใด?

ไม่ว่าจะมีความหมายหรือไม่ก็ตาม งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าก็ต้องดำเนินต่อไป อาหารอันโอชะถูกยกมาวางทีละอย่าง แต่ทุกคนกลับกินมันอย่างไร้รสชาติ

ตามที่เฟิ่งชิงเฉินคิดเอาไว้ เสด็จอาเก้าไม่มีความตื่นเต้นกับงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าในพระชายวังได้เลย ส่วนคนอื่น ๆ นอกจากองค์รัชทายาท ชิงอ๋องและตงหลิงจื่อลั่วแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีใครมีอารมณ์ที่จะกินอาหารเลย

หย่งอ๋องและโจวอ๋องถูกกักบริเวณ เพราะลี่วอ๋อง องค์รัชทายาทกระสับกระส่ายใจเพราะความเย่อหยิ่งของเขา จักรพรรดินีไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของพระนาวได้เพราะตงหลิงจื่อลั่วไม่ได้เดินทางมา นักขับร้องกำลังขับร้องบทเพลงและร่ายรำ แต่ทุกคนก็ไม่มีอารมณ์จะชื่นชม

ไม่เคยมีปีใดที่งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าจะเงียบเหงาเหมือนปีนี้ องค์จักรพรรดิกริ้วนัก

เจ้าลูกเวร! เจ้าลูกเวร!

จักรพรรดิแอบด่าองค์รัชทายาทอยู่ในใจ ความอ่อนใจเล็กน้อยที่เขาเพิ่งมีให้องค์รัชทายาทเหือดหายไปเพราะการกระทำขององค์รัชทายาทนี้ทันที จักรพรรดิเสียใจที่เขาไม่ได้ใช้กำลังอำนาจปลดรัชทายาทเมื่อเช้านี้

เมื่อรู้สึกถึงความโกรธของจักรพรรดิ องค์รัชทายาทจึงเลิกคิ้วขึ้นแล้วยืนตรงถือแก้วสุราว่า “ลูกขอดื่มเพื่อเป็นตัวแทนชาวตลหลิงทุกคน อวยพระพรให้เสด็จพ่อและตงหลิงยั่งยืนหมื่นปี” กล่าวจบก็ยกแก้วขึ้นดื่ม

ทุกคนล้วนชื่นชอบคำเยินยอ แม้ว่าจักรพรรดิจะไม่พอใจองค์รัชทายาท แต่พระองค์ก็ยังยกแก้วสุราขึ้นแตะริมฝีปาก “อืม”

การกระทำนี้เป็นการบอกเหล่าเสนาบดีว่าเขาไม่พึงพอใจองค์รัชทายาท เพราะหากเขาพึงพอใจละก็ จักรพรรดิคงยกดื่มหมดแก้ว หากเป็นในอดีตรัชทายาทคงตัวสั่นเทิ้ม ในใจนึกไปว่าเขาทำไม่ดีเรื่องใดยั่วให้เสด็จพ่อโมโห แต่เวลานี้เขากลับทำเป็นไม่เห็น เพราะไม่ว่าอย่างไร เสด็จพ่อก็ไม่ชอบเขาอยู่ดี

องค์รัชทายาทวางแก้วสุราลงแล้วกล่าวว่า “เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ลูกให้คนแต่งเพลงสรรเสริญตงหลิงเพื่อมอบแก่เสด็จพ่อ ลูกมั่นใจว่าเสด็จพ่อจะทรงโปรด”

หลังจากได้รับการอนุญาตจากจักรพรรดิ องค์รัชทายาทก็ตบพระหัตถ์ ดนตรีเริ่มขึ้น นางรำออกมาทีละคน

ระบำนี้ถูกจัดเตรียมโดยองค์รัชทายาทตั้งแต่เนิ่นๆ แม้ว่าตอนนี้องค์รัชทายาทจะไม่อยากประจบประแจงจักรพรรดิแต่เขาก็ได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว จะปล่อยให้สูญเปล่าได้อย่างไร?

ในตอนท้ายของการร่ายรำ แม้ว่ามันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก แต่ก็มีความหมายที่ดี จักรพรรดิท่าทีมีความสุขมากและปรบมืออย่างกึกก้อง

เมื่อเห็นดังนี้ หนานหลิงจิ่นสิงก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวว่าบุตรสาวตระกูลซูประสงค์จะแสดงการร่ายรำถวายแด่จักรพรรดิขอจักรพรรดิทรงอนุญาต

สตรีชั้นสูงจะไม่ค่อยเต้นรำต่อหน้าผู้คนนัก การที่ซูโหรวเต้นรำต่อหน้าสาธารณชน แน่นอนว่าถือเป็นการถวายเกียรติต่อจักรพรรดิ แล้วองค์จักรพรรดิจะไม่ชอบได้อย่างไร จึงโบกพระหัตถ์ตอบรับ “อืม”

ในที่สุด งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าก็ดำเนินไปในทิศทางที่ดี ความคับข้องใจในหัวใจของจักรพรรดิจางลงครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเขาต้องรอฝู่หลินกลับมารายงานความคืบหน้าของตระกูลหวังเสียก่อน

ซูโหรวลุกขึ้นคำนับจักรพรรดิ จากนั้นก็ลงไปจัดเตรียม ปล่อยให้องค์หญิงเหยาหวายิ้มอย่างมีความหมาย องค์หญิงเหยาหวาเย็นชาและมีลางสังหรณ์ที่น่ากลัวปรากฏขึ้นในใจของนาง แต่นางทำได้เพียงบังคับตัวเองให้อยู่ต่ออย่างใจเย็น เพื่อไม่แสดงความผิดปกติออกมาดึงดูดความสนใจ

องค์หญิงผู้สง่างามตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เหยาฮัวยังไม่รู้สำนึกตัว……

หลังจากที่ซูโหรวร่ายรำเสร็จ นางก็คุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดิอย่างนุ่มนวล ท่วงท่าที่มีเสน่ห์ของนาง ทำให้ชายคนใดก็ตามอยากกอดนางอย่างไร้เหตุผล

“ฝ่าบาทเพคะ……” ซูโหรวเอ่ยออกมาเบาๆ น้ำเสียงของนางแผ่วเบาดูยั่วยวน เผยให้เห็นความรักอันเร่าร้อน

“คุณหนูซู ลุกขึ้นเถิด” จักรพรรดิตรัสเบา ๆ พระพักตร์ของพระองค์อ่อนโยนลงเล็กน้อย ตรงกันข้าม ใบหน้าของจักรพรรดินีดูซีดเซียว

เป้าหมายของซูโหรวคือจักรพรรดิ ไม่น่าแปลกใจเลยที่นางจะเต็มใจฟังคำของหนานหลิงจิ่นสิง หากหนานหลิงจิ่นฝานรู้ว่าตัวหมากที่เขาเลือกจากตระกูลซู ได้เข้าร่วมเป็นพวกเดียวกับหนานหลิงจิ่นสิง จะเกิดอะไรขึ้น?

ในที่สุดงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่านี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นมาเล็กน้อย เสด็จอาเก้าโยกแก้วสุราของเขา แต่เขาไม่ได้ตั้งใจจะดื่ม เพียงเฝ้าดูเรื่องตรงหน้าเงียบ ๆ

เป้าหมายของซูโหรวคือจักรพรรดิ แน่นอนว่านางว่าง่ายต่อคำของจักรพรรดิ ซูโหรวยืนขึ้นอย่างอ่อนช้อย ในขณะนี้นางตระหนักว่าร่างกายของนางชุ่มไปด้วยเหงื่อ ชุดเต้นรำแนบแน่นกับร่างกายของนาง เผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่งดงามของนาง มีเพียงจักรพรรดิเท่านั้นที่มองเห็นฉากนี้

ซูโหรวหันหลังให้ผู้คนทั้งหลาน นางใช้ชุดคลุมปกปิดร่างกายอันบอบบางของนางไว้

สูงส่ง สูงส่งยิ่งนัก ไม่เสียแรงที่นางมาจากตระกูลซูอันสูงส่ง ซูโหรวคาดเดาความคิดของจักรพรรดิได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่นางยั่วยวนองค์จักรพรรดิ นางยังรักษาชื่อเสียงของตัวเองได้ด้วย

ผู้หญิงของจักรพรรดิจะแสดงเรือนร่างของตนต่อผู้อื่นได้อย่างไร จักรพรรดิปรารถนาเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า ดังนั้นจักรพรรดิชื่นชอบสตรีที่ตามใจเขา แต่แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้สตรีของเขาเผยเรือนร่างต่อหน้าผู้คน

ซูโหรวหอบเล็กน้อย หน้าอกอันแสนสมบูรณ์แบบของนางกระเพื่อมขึ้นลง แน่นอนว่ามีเพียงจักรพรรดิและจักรพรรดินีเท่านั้นที่ได้เห็นฉากนี้ ไม่ว่าจักรพรรดินีจะมีความรู้สึกอย่างไรต่อจักรพรรดิ แต่สตรีคนใดเล่าจะความสุขหากมีใครมายั่วยวนสามีของตน

จักรพรรดินีมีพระพักตร์ขุ่นมัว แต่ซูโหรวทำเหมือนไม่รู้เรื่อง นางคำนับองค์จักรพรรดิ พยายามทำให้พระองค์พอพระทัย

“ฝ่าบาทเพคะ ระบำที่โหรวเอ๋อร์ร่ายรำเมื่อครู่ เป็นการแสดงต่อหน้าราชวงศ์หนานหลิงเท่านั้น โดยทั่วไปจะมิแสดงแก่คนอื่นดู มีเพียงองค์หญิงแห่งหนานหลิงเท่านั้นที่จะเรียนรู้การร่ายรำนี้ได้ แต่เนื่องจากจักรพรรดินีทรงโปรดปรานโหรวเอ๋อร์ จึงได้มีโอกาสเรียนรู้ หม่อมฉันจึงขอถือโอกาสแสดงให้ดู หวังว่าชาวตงหลิงจะพึงพอใจ”

ถูกต้องแล้ว เมื่อครู่ซูโหรวร่ายรำอยู่บนเวทีใหญ่ ด้วยท่าทีการร่ายรำของนาง ประกอบกับจังหวะดนตรี ทำให้งานเลี้ยงดูครึกครื้นขึ้นทีเดียว

การเต้นรำอันงดงาม หญิงสาวที่สวยงามและความตั้งใจเช่นนี้ รวมกันดูสวยงามยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่จักรพรรดิจะพอใจ แต่ขุนนางทั้งหลายก็พอใจมากเช่นกัน นี่เป็นสัญญาณว่าหนานหลิงกำลังแสดงความอ่อนน้อมต่อตงหลิง

“เยี่ยม ๆ ขอบใจโหรวเอ๋อร์มาก” ใบหน้าของจักรพรรดิแดงก่ำ ดวงตาที่มองไปทางโหรวดูมีความหมายมากขึ้น

จักรพรรดิรู้ว่าหนานหลิงต้องการแต่งงานกับตงหลิง ก่อนหน้านี้ที่ซูหว่านดูหยิ่งยโสต่อเสด็จอาเก้า แต่ถูกเสด็จอาเก้าปฏิเสธ ต่อมาเมื่อนางอยากจะเข้าวัง แต่สตรีที่เสด็จอาเก้าไม่เอา จะให้เขารับมาได้อย่างไร

ซูโหรวแตกต่างออกไป นางทุ่มพลังทั้งหมดที่มีให้กับจักรพรรดิ พยายามที่จะชนะใจจักรพรรดิ และแม้กระทั่งแสดงการเต้นรำในที่สาธารณะ ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับจักรพรรดิอย่างมาก ไม่ช้าก็เร็ว ซูโหรวอาจได้ในสิ่งที่ต้องการ

ซูโหรวก้มศีรษะลงอย่างเขินอาย นางรู้ว่านางทำสำเร็จแล้ว และในไม่ช้านางก็จะกระโดดออกจากหลุมไฟของตระกูลซูได้ แม้ว่านางจะกระโดดลงไปในหลุมไฟอีกแห่ง แต่สำหรับซูโหรวแล้ว ไม่มีอะไรในโลกนี้น่ากลัวกว่าตระกูลซู

ซูโหรวถอนหายใจเบา ๆ ระงับความปิติในใจของนางแล้วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นลำคอขาวราวกับหิมะของนาง “ฝ่าบาทเพคะ โหรวเอ๋อร์ได้ถวายการร่ายรำของหนานหลิงต่อพระองค์ โหรวเอ๋อร์ได้ยินมาว่าราชวงศ์ซีหลิงมีทักษะการรำกระบี่ที่น่าทึ่ง ซึ่งมีเพียงองค์หญิงซีหลิงเท่านั้นที่จะได้เรียน มิทราบว่าโหรวเอ๋อร์จะมีเกียรติพอได้เห็นองค์หญิงซีหลิงร่ายรำแก่ตงหลิงชมหรือไม่”

ซูโหรวเน้นเป็นพิเศษกับคำว่า “เกียรติที่สุด” ทั้งสี่แคว้นล้วนรู้ดีว่าองค์หญิงเหยาหวาเป็นเจ้าหญิงที่มีเกียรติที่สุดในรุ่นของ ซีหลิง นี่ซูโหรวพยายามบังคับให้ซีหลิงเหยาหวาร่ายรำในที่สาธารณะ

บัดนี้องค์หญิงเหยาหวาก็เข้าใจลางสังหรณ์ของนางคือสิ่งใด……

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท