นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 888 ทุบประตู ลุงหวังพาเสือเข้าบ้าน

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 888 ทุบประตู ลุงหวังพาเสือเข้าบ้าน

ลูกชายของเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่รู้ ในฐานะครอบครัวที่เป็นที่พึ่งพิง พวกเขาไม่คิดหาหนทางช่วยลูกชายของเขาไว้ กลับใช้โอกาสนี้กำจัดลูกชายของเขาและขับไล่ผู้ช่วยเหลือลูกชายออกจากตระกูล ไม่มีใครยอมรับได้แน่

บิดาของหวังจินหลิงตัวสั่นด้วยความโกรธ ชี้หน้าลุงหวังแล้วด่าทอ “ขับไล่เราออกจากตระกูลหวัง เจ้าเห็นคือใคร? มีสิทธิ์อะไรมากล่าวเช่นนี้ คนเดียวที่สามารถขับไล่เราออกจากตระกูลหวังได้คือหัวหน้าตระกูล นับประสาอะไรกับเจ้าไม่ใช่หัวหน้าตระกุลสักหน่อย แม้ว่าเจ้าจะเป็นหัวหน้าตระกูล เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ขับไล่เราออกจากตระกูลหวัง หากเจ้าไม่มีตราประทับ เจ้าก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้”

อย่างไรก็ตาม บิดาของหวังจิ่นหลิงก็เคยเป็นหัวหน้าตระกูลมาก่อน แม้ว่าเขาจะไม่มีอำนาจบัดนี้ แต่เขาก็ยังมีศักดิ์ศรี คำพูดของเขาทำให้ผู้สนับสนุนของหวังจิ่นหลิงมั่นใจ

“ใช่ เจ้าคิดว่าตนเป็นใคร? เจ้าไม่มีตำแหน่งใด เจ้ามีเจ้าสมบัติอะไรที่จะขับไล่เราออกจากตระกูล? เจ้าทั้งสามคนก็ถูกหัวหน้าตระกูลไล่ออกไปแล้ว หัวหน้าตระกูลได้ออกคำสั่งว่าห้ามย่างเท้าเข้ามาในตระกูลหวังอีก เจ้ากล้าดีอย่างไรที่ฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้าตระกูล บุกรุกเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ พวกเจ้าต่างหากที่ควรออกไป!”

“ถูกต้อง หวังซ่าน พวกเจ้าควรออกไปจากตระกูลหวังเสีย……” ชายชราผมขาวเครายาว ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของหวังจิ่นหลิง ปู่คนที่แปดของหวังจิ่นหลิงกล่าวอย่างหนักแน่น

ถึงกระนั้น สมาชิกในตระกูลหวังซึ่งมักจะน้อมรับทุกคำสั่งกลับนิ่งเงียบ ลุงเล็กจึงหัวเราะเสียงดัง “ท่านลึงแปด พอเถิด คิดว่านี่ยังคงที่ที่เจ้าสามารถเรียกลมเรียกฝนได้หรือ ที่นี่ล้วนเป็นคนของข้า ลุงแปด เจ้าควรหันมองตัวเอง หากมีเหตุผล พอก็จงออกไปจากตระกูลหวังเสีย เกรงว่า หากข้าไล่เจ้าออกไป เจ้าจะเป็นคนเสียหน้า”

ทันทีที่ลุงหวังกล่าวจบ บ่าวรับใช้ที่อยู่รอบข้างก็เข้ามาหาบิดาของหวังจิ่นหลิงและพรรคพวกของเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าดุร้าย พวกเขาพร้อมจะโจมตีเมื่อลุงหวังออกคำสั่ง

“เจ้าคนอกตัญญู เจ้าพาคนนอกมายังศาลบรรพบุรุษของตระกูลหวังเรา ตระกูลหวังของข้าจะมีลูกหลานนอกรีตเช่นเจ้าได้อย่างไร เพียงเพราะเจ้าต้องการที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลหวัง ฝันไปเถอะ ต่อให้ตายก็ไม่ปล่อยให้ตระกูลหวังตกอยู่ในมือของเจ้าแน่” ปู่แปดสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขาอายุมากแล้ว ดังนั้นเขาจึงมีอาการหายใจไม่ออกเล็กน้อย

“ลุงแปด อย่าโกรธไปเลย เชื่อในจิ่นหลิงเถิด จิ่นหลิงจะกลับมาแน่ เด็กคนนั้นให้ความสำคัญกับตระกูลหวังมากกว่าสิ่งอื่นใด” บิดาของหวังจิ่นหลิงรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบโยนเขา

“เจ้าพูดถูก เด็กคนนั้นจิ่นหลิงจะไม่ทิ้งบรรพบุรุษไว้เช่นนี้” ใบหน้าของปู่แปดดูผ่อนคลายลงเมื่อเขานึกถึงหวังจิ่นหลิง คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็พยักหน้าอย่างหนักแน่นเช่นกัน

ในเวลานี้ผู้ที่ยังคงยึดติดกับฝ่ายของหวังจิ่นหลิงยืนกรานว่าแม้วพวกเขาจะตาย แต่พวกเขาจะยอมรับลุงหวัง

ในเวลานี้หวังจิ่นหลิงยังคงมีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ภักดีในตระกูลหวัง น่าอิจฉาจริง ๆ ใบหน้าของลุงหวังบิดเบี้ยว ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความชั่วร้า เขาสั่งคนใช้ของเขาอย่างเฉียบขาดว่า “พวกเจ้าทำอะไรกันเล่า โยนพวกมันออกไปจากตระกูลหวัง คนในครอบครัวของพวกเขาด้วย ในฐานะที่ทุกคนล้วนเป็นคนตระกูลเดียวกัน ใครที่ไม่ขัดขืน ให้โอกาสเก็บข้าวเก็บของ แต่ใครที่ขัดขืนจงฆ่าทิ้งเสีย”

“สารเลว เนรคุณ แกฆ่าญาติของตนได้อย่างไร แกมันไม่ใช่มนุษย์”

ทันทีที่คำพูดของลุงหวังเปล่งออกมา ทุกคนก็โมโห บิดาของหวังจิ่นหลิงและพรรคพวกของเขาด่าทอลุงหวัง แต่ลุงหวังไม่สนใจ สั่งให้คนรับใช้กระทำเช่นนั้น

หากคนรับใช้เหล่านี้เป็นคนในตระกูลหวังจริงๆ ก็ไม่เท่าไร อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่ใจร้ายกับตระกูลหวัง เพราะถึงอย่างไรทุกคนก็เป็นญาติกัน แต่บ่าวรับใช้เหล่านี้ล้วนถูกลุงหวังขอมาจากจักรพรรดิ พวกเขาจะไม่แสดงความเมตตาต่อตระกูลหวังตามคำสั่งของจักรพรรดิ หากปัญหาของตระกูลหวังยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ตระกูลหวังก็จะล่มสลาย

ในไม่ช้า ห้องโถงของตระกูลหวังก็ตกอยู่ในความโกลาหล คนรับใช้ไล่ผุ้คนออกไปอย่างดุดัน ตนในตระกูลหวังไม่ให้ความร่วมมือ พวกเขาจึงทุบตี แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีอาวุธ แต่ก็มีเลือดนอง……

บิดาของหวังจิ่นหลิงและปู่แปดได้รับการปกป้องจากคนหนุ่มสาวหลายคน พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่พวกเขารู้สึกอายนักเมื่อถูกผลัก ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นคนจากตระกูลหวัง คนที่จักรพรรดิส่งมามิกล้าฆ่าพวกเขา อย่างมากก็ทำให้เจ็บ

“เจ้าจะไม่ทำสิ่งใดหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินกระซิบที่หูของเสด็จอาเก้า

“ข้าพาเจ้ามาดูฉากเด็ด ไม่ใช่มาเป็นวีรบุรุษ” เสียงของทั้งสองเบามาก พวกเขากล้าสนทนากันเฉพาะตอนที่คนกลุ่มนั้นกำลังต่อสู้ ในเวลานี้คนด้านล่างจะไม่สังเกตเห็นพวกเขา

เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้า คงไม่ฉลาดนักหากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลหวัง “แล้วหวังจิ่นหลิงเล่า? เหตุใดเขายังไม่มา เขาอยากเห็นบิดากับมารดาของเขาถูกไล่ออกจากตระกูลหวังหรือ?”

“ไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่หวังจิ่นหลิงยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะถูกขับออกไปในวันนี้ พวกเขาจะได้รับเชิญกลับมาในอนาคต แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิ ลุงของหวังจิ่นหลิงก็จะไม่สามารถนั่งอย่างมั่นคงในฐานะหัวหน้าตระกูลได้ คนในตระกูลจะไม่เชื่อฟังเขาแน่”

การต่อสู้เพื่อตำแหน่งหัวหน้าตระกูลหวังนั้นไม่ด้อยกว่าการต่อสู้เพื่อบัลลังก์ของแคว้นเล็กๆ เลย จะเป็นการดีกว่าหากหวังจิ่นหลิงตายแล้ว เพราะหากหวังจิ่นหลิงยังมีชีวิตอยู่ ลุงหวังก็ยากที่จะได้มา

“พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย เจ้าแน่ใจหรือว่าหวังจิ่นหลิงตายแล้ว?” เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่บิดาของหวังจิ่นหลิงซึ่งกำลังจะถูกผลักออกไป

“ยาที่พวกเขาให้หวังจิ่นหลิงเรียกว่าเป็นยาหลับลึก ไม่มีวิธีรักษาพิษนี้ คนที่โดนพิษก็เหมือนหลับไป หาสาเหตุไม่ได้ เขาจะตายไปพร้อมกับการนอนหลับในอีกสามวันต่อมาโดยไม่มีร่องรอยของความเจ็บปวดใด” เป็นเหตุผลที่ลุงหวังกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ หวังจิ่นหลิงไม่ปรากฏตัวในวันที่สี่ของการถูกพิษ ซึ่งหมายความว่าเขาต้องตายแน่นอน

“แล้วทำไมหวังจินหลิงถึงไม่เป็นไร?”

“เพราะการหลับลึกนี้ เป็นพิษที่ค้นพบโดยหุบเขาหมอเทวดา”

“บูม……” ทันทีที่เสด็จอาเก้ากล่าวจบก็มีเสียงดังมาจากประตูศาลบรรพบุรุษของตระกูลหวัง หลังจากเสียงดังนั้น ทุกคนในลานก็หยุดลง มองออกไปที่ประตูพร้อมเพรียงกัน

ในโลกนี้ ยังมีคนที่กล้าทุบทำลายประตูของตระกูลหวังอีกหรือ? อยากตายหรือไร?

“ปึง ปัง……”

ไม่ใช่เพียงการเคาะประตู แต่เป็นการกระแทกประตูอย่างแรง บิดาของหวังจิ่นหลิงและพรรคพวกของเขาซึ่งเสื้อผ้าเลอะเทอะด้วยเลือด ใบหน้ามีรอยฟกช้ำไม่มากก็น้อย สายตามองไปที่ประตูอย่างระแวดระวัง จากนั้นเดินปที่ประตูด้วยความระมัดระวัง

ปู่แปดผมสีขาวโพลนชี้ไปที่ลุงหวังด้วยสีหน้าหนักใจ “เจ้าคนทรยศ เจ้าทำอะไรลงไป? เจ้าล่อใครมาที่ตระกูลหวัง?”

ไม่มีใครในตระกูลหวังรู้จักคนรับใช้เหล่านี้ ปู่แปดมั่นใจมากว่าลุงหวังขอความช่วยเหลือจากคนนอก แต่การต่อสู้ภายในของตระกูลหวังจะปล่อยให้คนนอกเข้ามาแทรกแซงมิได้ เมื่อถึงเวลาคนพวกนี้จะถอยออกไปหรือไม่?

รับมานั้นง่ายกว่าส่งออกไป ลุงหวังกำลังล่อหมาป่าเข้ามาในบ้าน จักรพรรดิส่งคนเหล่านี้เข้าไปในตระกูลหวัง และไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยพวกเขาออกไปอีก

“ไม่ ข้าไม่รู้ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” ลุงหวังก็ตื่นตระหนกเช่นกัน นี่ไม่ใช่แผนของเขา และคนที่เคาะประตูข้างนอกก็ไม่ใช่คนของเขา

“ไม่ใช่คนของเจ้า แล้วคนๆ นั้นคือใคร?” บิดาของหวังจิ่นหลิงและปู่แปดมองหน้ากัน ความเคร่งขรึมและความกังวลในดวงตาของกันและกันปรากฏขึ้น

เมื่อเห็นสถานการณ์ คนรับใช้ที่ลุงหวังพามาก็ตั้งรับโจมตีไปที่ประตู

ผู้ที่มาในเวลานี้ย่อมเป็นศัตรูไม่ใช่มิตร

เสด็จอาเก้าและเฟิงชิงเฉินมองหน้ากันแล้วยิ้ม ในที่สุดฉากเด็ดก็มาถึงสักที พวกเขาถูกลมพัดหนาว แต่ไม่เสียเปล่าจริงๆ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท