ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 119
สตรีผู้นี้หวดแซ่ม้า จงใจยกมือขึ้นให้เหมือนกำลังจะหวดไปที่บนตัวจื่ออานยังไงยังงั้น บนหน้าผุดรอยยิ้มร้ายกาจขึ้นมา
ทว่าจื่ออานนิ่งสงบไม่เคลื่อนไหว นางอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างเบื่อหน่าย “ไม่เห็นจะสนุกเลยสักนิดเดียว”
อ๋องอันที่เห็นจื่ออาน ก็เบี่ยงตัวลงจากม้า “เจ้ามาแล้วเหรอ? ”
จื่ออานโค้งตัว “คับนับท่านอ๋อง”
“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?” คนเฝ้าประตูก้าวเข้ามาดึงม้า อ๋องอันตบหลังมันให้เขาพามันไป แล้วก็พูดกับสตรีคนนั้น “เจ้าเข้าไปก่อน เดี๋ยวข้าตามเข้าไป”
สตรีนางนี้กล่าวอย่างแง่งอน “เร็ว ๆ นะ ถ้าช้าล่ะก็ข้าจะฆ่าเจ้า”
อ๋องชินอันมองไปที่นาง “พอได้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าตามไป จะกล้าให้กู่หน่ายนายของพวกเรารออยู่ลำพังได้อย่างไร?”
สตรีนางนี้หายใจแรง หันหลังแล้วเดินเข้าไป
อ๋องอันยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง แล้วกล่าวกับจื่ออาน “พาม้าไปผูกไว้ให้ดี เข้าไปข้างในกันเถอะ”
จื่ออานเจอกับตัวละครที่เหมือนกับนักรบ ในใจรู้สึกหวั่นเกรง ทำตามที่เขาพูดจื่ออานผูกม้าไว้ที่หน้าประตู ตามอ๋องอันเข้าไปด้านใน
องครักษ์ของอ๋องอันกล่าวต้อนรับ”ท่านอ๋องกลับมาแล้ว?”
“ต้าจิน สั่งคนให้ไปต้มชาหลงจิ่งมาให้คุณหนูใหญ่หน่อย” อ๋องอันก้าวเท้ายาว ๆ เข้าไปด้านใน ปากก็สั่งไปพลาง
“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์รับคำสั่ง เพียงว่าใบหน้ากลับดูประหลาดใจเล็กน้อย
จื่ออานเหลือบมองใบหน้าขององครักษ์ ในใจก็แอบสงสัย เขาประหลาดใจอะไร?
แน่นอนว่าจื่ออานไม่รู้ว่า สองสามปีมานี้อ๋องอันไม่รับแขกเลย กล่าวคือมีคนมาหาก็ไม่ได้ให้เตรียมชาให้ จากคำพูดของอ๋องอัน ถ้าเกิดเลี้ยงชา นั่นจะทำให้คน ๆ นี้คิดว่าตนเองเป็นคนสำคัญ และจะมารบกวนบ่อย ๆ
เข้ามาที่ห้องโถงใหญ่ อ๋องอันนั่งที่เก้าอี้นั่งไม้โบราณ ถอดแหวนออกจากนิ้วแล้วค่อย ๆ เช็ด เขาไม่ได้มองไปที่จื่ออาน และกล่าว “มีเรื่องอะไรเหรอ?”
จื่ออานลังเลเล็กน้อย ยังไม่รู้เลยว่าควรพูดดีไหม อ๋องอันก็พูดขึ้นมาอีก “ไม่ต้องพูดอ้อมค้อม ให้พูดเนื้อหาสำคัญ”
เมื่อจื่ออานได้ยินคำพูดของเขา นางก็เงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่อ๋องอัน “ท่านอ๋อง ที่หม่อมฉันมาที่นี่ก็เพราะมีเรื่องจะขอร้องเพคะ”
“ประโยคนี้มันอ้อมค้อม พูดสิ่งที่ต้องการมาตรง ๆ” อ๋องอันกล่าวเบา ๆ
“…”
จื่ออานมองไปที่เขาแล้วกล่าว “น้องชายของหม่อมฉันเซี่ยหลิน เขาถูกฆ่าในวัง ตอนนี้ร่างของเขาก็ยังอยู่ในวัง ซึ่งอยู่ที่พระตำหนักร้างที่อยู่ตรงข้ามกับพระตำหนักซีเวย ไม่ทราบว่าท่านอ๋องจะเข้าวังไปนำร่างของน้องชายหม่อมฉันออกมาได้หรือไม่?”
“ข้าช่วยเจ้า จะมีประโยชน์อันใด? ” อ๋องอันเงยหน้าขึ้นมาในทันที นัยน์ตาราวกับดาบคมที่ทิ่มแทงออกมา เขาไม่ได้สนใจการตายของเซี่ยหลินเลยสักนิดเดียว
จื่ออานงุนงงเล็กน้อย แบมือออกทั้งสองข้าง “หม่อมฉันไม่มีอะไรเลย”
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ นางไม่มีอะไรจะให้เขา
อ๋องอันพูดอืมแล้วถาม “ทำไมถึงได้ตาย?”
องครักษ์นำชามาให้แล้วยืนอยู่ข้าง ๆ
จื่อกล่าวสรุปย่อ ๆ “ถูกองครักษ์ในวังฆ่าผิดตัว”
อ๋องชินอันยิ้มเย้ยหยัน “ตอนนี้ในวังสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบแล้วเหรอ? ฝ่าบาททรงประชวร วังหลังก็วุ่นวายสินะ”
จื่ออานไม่พูดอะไร เพียงแต่มองไปที่เขาด้วยดวงตาที่กระตือรือร้น
อ๋องอันดื่มชาไปอึกนึง แล้วกล่าว “ได้ ครั้งนี้ข้าจะช่วยเจ้า เจ้ากลับไปเถิด”
เขายกมือขึ้น เรียกองค์รักษ์ “ต้าจิน เตรียมรถม้า”
องครักษ์ลังเลเล็กน้อยแล้วกล่าว “ท่านอ๋อง นี่คือเรื่องของจวนมหาเสนาบดี ท่านยื่นมือไปข้องเกี่ยวมันจะดูไม่ดีนะพ่ะย่ะค่ะ”
อ่องอันยืนขึ้น มึนงงเล็กน้อย เขามองไปที่องครักษ์ “เรื่องของครอบครัวผู้อื่นข้าไม่ควรยุ่งเกี่ยว ใช่หรือไม่?”
องครักษ์ตอบ “ใช่ พ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งมหาเสนาบดีเซี่ยเพิ่งจะมาชวนท่านทะเลาะไปไม่ไม่นานมานี้ หากท่านยื่นมือเข้าไปข้องเกี่ยวในเวลานี้ คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีพ่ะย่ะค่ะ” จากคำพูดขององครักษ์ เรื่องนี้ไม่ควรไปเกี่ยวข้องด้วยสักนิดเดียว”
อ๋องอันพยักหน้า “มีเหตุผล จริง ๆ แล้วข้าไม่ควรยุ่งเกี่ยว ตอนนี้บุตรชายของพวกเขาก็ตายแล้ว หากข้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว จะต้องทำให้พวกเขาสงสัยอย่างแน่นอน”
“ใช่ พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์ถอนหายใจ แม้ว่าจะไม่ได้กลัวมหาเสนาบดีเซี่ย แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่จำเป็น
จื่ออานรีบร้อนพูด เนื่องจากได้ยินที่อ๋องอันพูดกับองครักษ์ “เจ้ายังไม่ไปเตรียมรถม้าอีกเหรอ?”