ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 173

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 173

เสนาบดีกรมมหาดไทยกล่าว “ตอนนี้หวงไท่โฮ่วปฏิเสธที่จะพบพวกเรา และไม่มีพระราชเสาวนีย์ให้องค์รัชทายาทดูแลปกครองบ้านเมือง ทั้งยังไม่ได้บอกว่าพระองค์จะเป็นผู้ปกครองเอง แล้วมันจะเป็นเรื่องดีได้เช่นไร? พวกเรามัวเสียเวลาอยู่อย่างนี้ก็ไม่ใช่ทางออก ในทางกลับกันจะเป็นการเปิดโอกาสให้มู่หรงชวนแว้งกลับมากัดพวกเราได้”

ใบหน้าของเหลียงไท่ฟู่มืดหม่น เขาไม่ได้พูดอะไร ในดวงตาฉายแววความเย็นชา ดูเหมือนว่าภายในใจเขาจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

หวงไท่โฮ่วนั่งอยู่บนที่นั่งสูงมองดูอ๋องหนานหวายที่สองสามปีมานี้ไม่ได้พบเจอกันเลย ในใจนางย่อมรู้สึกตื้นตันเป็นธรรมดา

“ลุกขึ้น ให้แม่ดูเจ้าชัด ๆ หน่อยซิ”

อ๋องหนานหวายก้าวไปข้างหน้า คุกเข่าลงอีกครั้ง ซบลงบนเข่าของหวงไท่โฮ่วร้องไห้อย่างขมขื่น

“ลูกอกตัญูที่ไม่ได้อยู่ถวายการรับใช้เสด็จแม่ แถมยังต้องให้ท่านคอยเป็นห่วงอีก” อ๋องหนานหวายร้องไห้อย่างหนัก น้ำตาเปรอะเปื้อนกระโปรงของหวงไท่โฮ่ว

หวงไท่โฮ่วอดที่จะรู้สึกเป็นทุกข์ไม่ได้ นางก็หลั่งน้ำตาออกมา “เจ้าอยู่ที่แดนใต้ตัวคนเดียว ลำบากเจ้าแล้ว”

“ไม่เลยพ่ะย่ะค่ะ นั่นเป็นสิ่งที่ลูกสมควรได้รับแล้ว ในตอนนั้นลูกยังอ่อนเยาว์นัก จองหองและมักใหญ่ใฝ่สูง เสด็จพ่อทรงทำถูกแล้วที่เนรเทศให้ลูกไปที่แดนใต้ สองสามปีมานี้ลูกไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องความผิดพลาดของตนเองเลย ทั้งยังได้ติดต่อกับผู้มีความรู้ที่แดนใต้ ทำให้เข้าใจเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ลูกผิดไปแล้วจริง ๆ เพียงแต่ลูกอยู่แดนใต้ ไม่รู้เลยว่าฝ่าบาท…” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ น้ำตาบุรุษก็ไหลลงมาเรื่อย ๆ แลดูโศกเศร้ามาก

หวงไท่โฮ่วโอบกอดเขาแล้วถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า “ชะตาบ้านเมืองไม่ดี ชะตาบ้านเมืองช่างไม่ดีเสียเลย!”

ฝ่าบาทประชวรหนัก อาเจี๋ยทำหน้าที่ปกครองดูแลแทน แต่กลับเกิดเรื่องเช่นนี้เสียได้ ปีนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ซุนกงกงเห็นว่าทั้งสองคนกำลังร้องไห้ด้วยกัน เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและกล่าว”ท่านอ๋อง กุ้ยไท่เฟยก็ได้รับบาดเจ็บเมื่อสองสามวันก่อน อีกทั้งเรื่องของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิทำให้พระนางเสียใจมาก แทบยืนไม่ไหว ท่านควรออกจากวังไปอยู่ดูแลนางโดยเร็ว เพื่อไม่ให้นางคิดมากจนเกินไป”

หวงไท่โฮ่วผละออกจากเขาและเช็ดที่หางตา “ใช่ เจ้ารีบไปอยู่ดูแลกุ้ยไท่เฟย นางต้องสูญเสียบุตรในวัยชราประสบกับความเจ็บปวดแสนสาหัส จำเป็นต้องมีคนที่รักคอยอยู่เคียงข้าง เจ้ารีบไปเถิด”

อ๋องหนานหวายโขกหัวอย่างแรงที่พื้นสองสามครั้งเสียงดัง ปัง ปัง ปัง หวงไท่โฮ่วรีบยกมือขึ้น “พอแล้ว เจ้าควรถนอมตัวให้ดี”

อ๋องหนานหวายกล่าว “ให้ลูกโขกอีกสักสองสามครั้งเถิด สองสามปีมานี้ลูกคิดถึงเสด็จแม่และทุกคน ทุก ๆ เทศกาล ลูกหันหน้ามาทางทิศของเมืองหลวงแล้วโขกศีรษะ เพียงแต่ท่านมองไม่เห็น”

หวงไท่โฮ่วใจอ่อนลง เดิมทีเรื่องที่เขากลับมาเมืองหลวงนางก็รู้สึกระแวดระวังและกังวล แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ แล้วนางก็พูดโพล่งออกมา “ลูกเอ๋ย แม่เต็มใจให้ลูกไปอยู่แดนใต้เสียที่ไหน? กลับมาครั้งนี้ อยู่เป็นเพื่อนแม่นาน ๆ หน่อย และอยู่เป็นเพื่อนเสด็จแม่ของเจ้าให้นานด้วย เรื่องกลับไปแดนใต้ตอนนี้ยังไม่ต้องไปพูดถึงมัน”

อ๋องหนานหวายส่ายหัว “ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ หลังจากเสร็จเรื่องงานศพของเสด็จพี่ ลูกก็จะกลับไป ถ้าเสด็จแม่คิดถึงลูก ลูกจะกลับเมืองหลวงมาเยี่ยมเสด็จแม่เอง”

หวงไท่โฮ่วกล่าวอย่างสงสาร “ลูกคนนี้รู้ความขึ้นเยอะ แม่เองก็วางใจได้แล้ว งั้นเจ้ากลับไป ส่วนเรื่องอื่น ๆ ไว้ค่อยคุยกันภายหลัง”

ซุนกงกงที่ฟังอยู่ด้านข้าง ก็ส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ หวงไท่โฮ่วยังคงใจอ่อนอยู่เสมอ

หลังจากที่อ๋องหนานหวายจากไป หวงไท่โฮ่วก็ปาดน้ำตาและกล่าว “ตอนนี้เด็กคนนี้ทั้งตัวดำและผอมแห้ง ดูเหมือนว่าเขาจะลำบากมากตอนที่อยู่ที่แดนใต้”

ซุนกงกงกล่าว “ใช่พ่ะย่ะค่ะ ดินแดนทางใต้อยู่ใกล้ทะเล แดดแรงมาก และลมทะเลก็ทำร้ายผิวหนังด้วย ท่านอ๋องเป็นคนเมืองหลวง ไม่คุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศและอาหารการกิน แน่นอนว่าจะต้องผอมลงอยู่แล้ว”

“อ๋องหนานหวายเปลี่ยนไปมาก เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลอีกแล้ว” หวงไท่โฮ่วกล่าว

ซุนกงกงกล่าวอย่างเฉยเมย “ไท่โฮ่วพ่ะย่ะค่ะ จากดินแดนทางใต้ข้ามน้ำข้ามทะเลมายังแผ่นดินใหญ่ แล้วก็เดินทางจากแผ่นดินใหญ่มายังเมืองหลวง อ๋องหนานหวายกลับมาถึงได้รวดเร็วเช่นนี้ จินตนาการได้เลยว่า ใจจริงนั้น ทำให้คน…”

เขาหยุดพูด ไม่ได้พูดให้กระจ่างนัก หวังว่าหวงไท่โฮ่วจะเข้าใจได้เอง

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท