ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 179
เรื่องนี้ทำให้ฮองเฮาโกรธเคืองมาก “เฒ่าเจ้าเล่ห์นี่กินดีหมีหัวใจเสือไปหรืออย่างไร? กล้าใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้า? เซี่ยหว่านเอ๋อผู้นั้นมีดีอะไร? ข้าไม่อาจยกตำแหน่งพระชายาเอกขององค์รัชทายาทให้นางได้”
เหลียงไท่ฟู่มองไปฮองเฮาที่หน้าดำหน้าเขียว ก็กล่าวเบา ๆ “เจ้าจะกริ้วไปให้ได้อะไร? เราจำเป็นต้องดึงเฒ่าเจ้าเล่ห์เซี่ยหวายจุนผู้นี้เข้ามาเป็นพวกเดียวกับเรา ใครจะเป็นพระชายาเอกขององค์รัชทายาทก็ช่าง มันไม่มีอะไรต่างออกไป ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องสามารถช่วยองค์รัชทายาทได้”
“ท่านพ่อไม่รู้ว่ามารดาของเซี่ยหว่านเอ๋อเป็นคนที่น่ารังเกียจเช่นไร” ฮองเฮารู้สึกคลื่นไส้เมื่อนึกถึงหลิงหลงฟูเหริน จะให้แต่งกับบุตรสาวที่เกิดจากผู้หญิงเช่นนาง ฮองเฮาไม่ยินยอมเด็ดขาด
เหลียงไท่ฟู่ดุนางเบา ๆ “ฮองเฮามองการณ์ตื้นเขินจะทำการใหญ่ให้สำเร็จได้อย่างไร?
จริง ๆแล้วฮองเฮาก็รู้ว่าการสนับสนุนจากมหาเสนาบดีเซี่ยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในตอนนี้ แต่นางอารมณ์เสียและโกรธเฒ่าเจ้าเล่ห์เซี่ยหวายจุนก็เท่านั้นเอง
นางจิบชาอึกนึงและค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลง ตอนนี้ถ้าไม่ดึงมหาเสนาบดีเซี่ยเข้ามาเป็นฝ่ายเรา อ๋องหนานหวายก็จะชิงลงมือก่อน ถึงเวลานั้น ด้วยการสนับสนุนจากมหาเสนาบดี โอกาสชนะของเขาก็จะสูงขึ้นมาก
เธอกลั้นหายใจแล้วกล่าวออกไป “ท่านพ่อ บอกเซี่ยหวายจุนด้วยว่าข้าจะขอให้หวงไท่โห่วมีพระเสาวนีย์พระราชทานงานอภิเษกสมรสให้”
“เกรงว่าถ้ามีแต่คำพูดลอย ๆ เฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นี้จะไม่เชื่อ” เหลียงไท่ฟู่กล่าว
“แค่บอกเขาว่า คำพูดของข้ามีน้ำหนักและน่าเชื่อถือ ถ้าเขาไม่เชื่อก็แล้วตามใจ” ฮองเฮามองไปที่เหลียงไท่ฟู่ “บางครั้งเมื่อต้องรับมือกับคนประเภทนี้ เราก็ไม่อาจยินยอมให้เขามาคุกคามฐานะของเราได้”
เหลียงไท่ฟู่ถอนหายใจ “ลูกเอ้ย แผนการเกี่ยวกับชาติบ้านเมืองนี้ไม่ใช่ว่าเจ้าจะใช้สถานะของเจ้าแล้วควบคุมอะไรได้ทั้งหมด ถ้าไม่มีผลประโยชน์ ใครจะทุ่มสุดตัวเพื่อเจ้า? ต้องรู้ว่าถ้าเกิดการสูญเสียครั้งนี้ มันเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของทั้งตระกูลของเรา เขาต้องการเพียงตำแหน่งพระชายาเอกขององค์รัชทายาท เช่นนั้นก็ให้เขาไปเถิด หากไม่มีผลประโยชน์ เขาจะเอาชนะคนกลุ่มนี้ด้วยความกระหายต่ออำนาจมหาศาลได้อย่างไร? เจ้าคิดว่าพ่อใช้สถานะไท่ฟู่กดขี่ข่มเหงให้พวกเขาปฏิบัติตามคำสั่งงั้นรึ? เจ้าคิดผิดแล้ว เจ้าไม่รู้ว่าพ่อต้องจ่ายลับหลังให้พวกเขามากเท่าไหร่”
ฮองเฮากล่าวอย่างซาบซึ้งว่า “ท่านพ่อ ลูกรู้ว่าเพื่อองค์รัชทายาท ท่านวิตกกังวลจนผมขาว หลายปีมานี้ที่ท่านทำงานหนัก เพื่อให้เขาครองตำแหน่งได้อย่างมั่นคง หากไม่มีท่าน เขาก็คงถูกคนดึงลงมาจากตำแหน่งองค์รัชทายาทแล้ว”
เหลียงไท่ฟู่มองมาที่นาง ดวงตาลึกราวกับหลุมดำ “เจ้ารู้ถึงความพยายามอันอุตสาหะของพ่อก็ดี เรื่องพระราชเสาวนีย์ เจ้าลองหาวิธีไปขอร้องเอา”
ฮองเฮากล่าว “ไม่จำเป็นแล้ว ตราประทับอยู่กับข้าที่นี่ เรื่องพระราชเสาวนีย์ให้อภิเษกสมรสนี้ ข้าจัดการได้ด้วยตนเอง จากนั้นค่อยไปรายงานต่อหวงไท่โฮ่ว นางไม่น่าจะปฏิเสธ อย่างน้อยก็ต้องไว้หน้าข้าที่เป็นฮองเฮาคนนี้บ้าง”
ด้วยพระราชเสาวนีย์ให้อภิเษกสมรสนี้ ทำให้หลิงหลงฟูเหรินและเซี่ยหว่านเอ๋อมีความสุขมาก
เซี่ยหว่านเอ๋อซุกตัวอยู่ข้าง ๆ หลิงหลงฟูเหรินและพูดอย่างเหนียมอาย “แม้จะรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว แต่ฮองเฮาออกพระราชเสาวนีย์ด้วยตนเองเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญกับข้า”
หลิงหลงฟูเหรินเค่นเสียง “หากเป็นหวงไท่โฮ่วออกพระราชเสาวนีย์ด้วยพระองค์เอง นั่นถึงจะเรียกว่าให้ความสำคัญ แต่ว่ากันไปตามความเป็นจริง เจ้ากับองค์รัชทายาทก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเรื่องงานอภิเษกยังไม่แน่นอน หากเจ้าตั้งครรภ์ คนภายนอกคงจะเอาไปพูดเสีย ๆ หาย ๆ”
เซี่ยหว่านเอ๋อกล่าวอย่างไม่พอใจ”ใครกล้าว่า ข้าจะฉีกปากของมันผู้นั้นเอง”
หลิงหลงฟูเหรินดีใจจริง ๆ ในที่สุดนางก็ได้เป็นพระญาติกับคนในราชวงศ์แล้ว ต่อไปใครจะกล้าบอกว่านางไม่ใช่อีก? ในอนาคต เมื่อหว่านเอ๋ออภิเษกออกไป แล้วจึงค่อยขอพระราชทานตำแหน่ง ขอให้ตนเองเป็นเก้ามิ่งฟูเหริน อยู่ในจวนก็ไม่ต้องเกรงกลัวยายเฒ่านั่นแล้ว
แล้วค่อยกำจัดนางแพศยาหยวนซื่อนั่นออกไปด้วย หากนางเป็นภรรยาของมหาเสนาบดีโดยถูกต้องชอบธรรม ใครจะกล้าดูถูกนาง?