ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 237
ถึงแม้ว่าจวนมหาเสนาบดีในช่วงนี้เรื่องผิดถูกชั่วดีต่างได้เผยออกมาอย่างมากมาย และเป็นศูนย์รวมของเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวล แต่ก็มีคนจำนวนมากที่มาร่วมงานฉลองวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ดี
ส่วนจะมาพูดคุยกันหรืออยากมาดูเรื่องที่น่าตื่นเต้น ก็ไม่อาจทราบได้
มหาเสนาบดีเซี่ยได้เชิญอ๋องฉีราชทูตจากเป่ยโม่มาด้วย ส่วนฮูหยินผู้เฒ่าก็ได้เชิญซุยไท่เฟยมาด้วยเช่นกัน รายชื่อแขกสำหรับงานเลี้ยงฉลองวันเกิดในวันนี้ดีกว่ารายชื่อแขกในวันนั้นที่เซี่ยจื่ออันอภิเษกกับอ๋องเหลียงเสียอีก
ตามกฎแล้ว ในงานเลี้ยงวันเกิดวันนี้ ก่อนที่แขกเหรื่อจะมาถึง จื่ออันและหยวนซื่อจะต้องไปอวยพรวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าก่อน และร่วมรับประทานบะหมี่อายุยืนกับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งนี่ก็เป็นกฎของปีที่แล้ว
วันนี้ป้าหลานยู่มาจากเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าตั้งแต่เช้า มาแจ้งข่าวให้จื่ออันกับหยวนซื่อไปคำนับและอวยพรวันเกิดให้ฮูหยินผู้เฒ่า
“ดวงตาของท่านแม่ยังไม่หายดี ข้าไปก็พอแล้ว” จื่ออันกล่าว
ป้าหลานยู่พูดว่า “คุณหนูใหญ่ ฮูหยินผู้เฒ่าต้องการให้ฮูหยินใหญ่ไปด้วยเจ้าค่ะ”
“ข้าบอกว่าตาของนางยังมองไม่เห็น จะไม่ไปที่นั่น เจ้าไม่ได้ยินเหรอ?” จื่ออันกล่าวอย่างฉุนเฉียว
ป้าหลานยู่ไม่กลัวนางเลยและพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณหนูใหญ่โกรธคนรับใช้เช่นข้าจะมีประโยชน์อันใด? มีเรื่องอันใดจำเป็นก็ให้ไปบอกกับนางเอง นี่เป็นคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่า หวังว่าคุณหนูใหญ่จะจำไว้ ถึงแม้ต่อไปท่านจะได้เป็นพระชายาเอกของผู้สำเร็จราชการ แต่ตอนนี้ท่านยังเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนมหาเสนาบดีอยู่ ยังต้องไปคุกเข่าคำนับฮูหยินผู้เฒ่า และเรียกนางว่าท่านย่าอยู่ดี ”
เมื่อแม่นมหยางได้ยินดังนั้น นางก็รีบตอกกลับอย่างเย็นชา “เจ้ายังรู้ว่านางเป็นคุณหนูใหญ่อยู่อีกหรือ? มีบ่าวคนใดที่พูดกับคุณหนูใหญ่เช่นนี้บ้าง? คงมีแต่ที่จวนมหาเสนาบดี ถ้าเป็นในวังบ่าวรับใช้เก่าแก่เช่นท่านแต่กลับไม่รู้กฎระเบียบ คงจะถูกลากออกไปโบยข้างนอกสามสิบไม้นานแล้ว”
ป้าหลานยูไม่ได้เกรงกลัวแม่นมหยางเลย “ใช่ แม่นมหยางก็รู้ว่านั่นคือตอนอยู่ในวัง แต่ตอนนี้อยู่ที่จวนมหาเสนาบดี เมื่ออยู่ในจวนแห่งนี้ ฮูหยินผู้เฒ่ามีอำนาจสูงสุด หากไม่เชื่อฟัง บ่าวเองก็ไม่ว่ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
หลังจากพูดเสร็จ นางก็เหลือบมองไปที่จื่ออันอย่างเหยียดหยาม แล้วก็หันหลังเดินจากไป
แม่นมหยางตัวสั่นด้วยความโกรธ “ที่จวนมหาเสนาบดีแห่งนี้ ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ใด ๆ จริง ๆ”
ก่อนที่นางจะมา นางก็รู้ว่าสถานการณ์ของจื่ออันในจวนมหาเสนาบดีไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่นางนึกไม่ถึงว่ามันจะน่าอดสูได้ถึงเพียงนี้ แม้กระทั่งคนรับใช้ก็สามารถตำหนิพวกนางได้ตามใจชอบ
แต่ว่าเมื่อนึกถึงตอนที่นางออกจากวังมาพาตัวจื่ออันเข้าวังไปในวันนั้นแล้ว สถานการณ์ก็เลวร้ายพอกัน
แม่นมหยางมองไปที่จื่ออัน และเห็นว่านางไม่ได้โกรธเลยสักนิด จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “คุณหนูใหญ่ไม่โกรธเหรอเจ้าคะ?”
จื่ออันชำเลืองมองนางเล็กน้อย “แม่นม แค่นี้ก็จะโกรธแล้วเหรอ? ท่านเองก็ไม่มีความอดทนกับเขาด้วยเหมือนกันนะเนี่ย!”
แม่นมหยางแปลกใจเล็กน้อย ใช่ นางเตรียมใจมาสำหรับทุกเรื่องแล้ว แต่กลับถูกบ่าวรับใช้ผู้นั้นพูดจายั่วยุให้โกรธเอาเสียได้ นางก็อดผิดหวังในตนเองไม่ได้ “บ่าววู่วามเกินไป”
จื่ออันรู้ว่านางที่อยู่กับฮองเฮาเคยชินกับการออกคำสั่งในวัง แต่อยู่ในจวนแห่งนี้เป็นคนข้างกายของนาง จะลงโทษใครก็ต้องดูหน้าก่อน แน่นอนว่านางค่อนข้างจะไม่คุ้นเคย
“ไม่เป็นไร คนปากร้ายมักจะตายเร็วกว่าคนอื่น!” จื่ออันหันหลังกลับและเดินเข้าไป “รบกวนแม่นมช่วยแต่งหน้าให้ข้าเสียหน่อย ทาแป้งหนา ๆ อย่าให้ใครเห็นรอยแผลบนหน้าของข้าได้”
“เจ้าค่ะ!” แม่นมหยางเดินตามไป
หลังจากเข้ามาแล้ว จื่ออันก็พูดอย่างเคร่งขรึมกับแม่นมหยางว่า “แม่นม ท่านแม่ยังคงมองไม่เห็น เกรงว่าจะไปงานเลี้ยงฉลองในตอนเย็นไม่ได้ หากท่านพอมีเวลาก็ช่วยพานางไปแถวริมทะเลสาบเสียหน่อย นางจะได้ไม่ต้องรู้สึกอุดอู้”
“เจ้าค่ะ บ่าวทราบแล้ว” แม่นมหยางกล่าว
นางหันกลับไปก็เห็นชู่อวี่ยืนที่อยู่ด้านข้าง นางจึงดุ “ยังไม่ไปคอยรับใช้ฮูหยินใหญ่อีกหรือ? จะมัวยืนอยู่ที่นี่ทำไม?เรื่องแค่นี้เจ้าก็ไม่เข้าใจ”