ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 264

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 264

แม่นมหยางยิ้มเย้ยหยัน “ช่างเป็นคนที่ไร้ยางอาย ไม่มีใครเทียบได้เสียจริง!”

หยวนซื่อหันไปทางจื่ออัน “จื่ออัน เจ้าคิดว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป?”

จื่ออันจัดศีรษะของหยวนซื่อให้ตรง และกระซิบ “จู่ ๆ ก็เสียลูกไปสองคน อีกทั้งยังผิดหวังกับเฉินหลิงหลงอย่างมาก ท่านแม่คิดว่าเขาจะทำเช่นไรเล่า?”

หยวนซื่อยิ้มแล้วยิ้มอีกแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เซี่ยหว่านเอ๋อที่ถูกขังไว้ รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ที่คนพวกนั้นพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหรือไม่? นางไม่ใช่บุตรีของจวนมหาเสนาบดีเหรอ?

แล้วเฉินเอ้อร์ผู้นั้น…

ไม่ ไม่ใช่ คนหยาบช้าเช่นนั้นไม่ใช่ท่านพ่อของนาง ไม่ใช่…

นี่ต้องเป็นเซี่ยจื่ออันที่จ้างคนให้สร้างเรื่องเพื่อทำลายชื่อเสียงของนางเป็นแน่ ท่านพ่อของนางคือมหาเสนาบดีของราชสำนัก นางคือบุตรีของจวนมหาเสนาบดี ไม่ใช่ลูกสาวของคนชั้นต่ำอย่างเฉินเอ้อร์

มหาเสนาบดีเซี่ยที่ยืนอยู่นอกประตู ลังเลอยู่เป็นเวลานาน จึงจะยื่นมือออกไปผลักประตูให้เปิดออก

เซี่ยหว่านเอ๋อเงยหน้าขึ้น มีคราบน้ำตาบนใบหน้า นางหวาดกลัวจริง ๆ ถ้าสถานะของนางไม่ใช่บุตรีของจวนมหาเสนาบดีแล้ว นางจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร?

เมื่อมองไปที่ท่านพ่อที่นางเคารพนับถือ นางก็มองหาความรักความเมตาที่คุ้นเคย แล้วก็ร้องออกมาในทันที “ท่านพ่อ ข้าไม่ใช่ลูกของเฉินเอ้อร์นะ ข้าเป็นลูกของท่าน”

มหาเสนาบดีเซี่ยเอื้อมมือไปดึงตัวนางมากอดในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน สัมผัสที่อบอุ่นแปลเปลี่ยนเป็นความเย็นชาอย่าลึกล้ำ เขาตบหลังนาง และกล่าวปลอบโยนเบา ๆ “ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ข้าได้ถามท่านหมอแล้ว เจ้าก็คือลูกสาวของข้าเซี่ยหวายจุนผู้นี้”

“จริงหรือ?” เซี่ยหว่านเอ๋อแทบจะกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ “ท่านพ่อ ที่ท่านพูดเป็นความจริงใช่หรือไม่?”

“จริงแท้อย่างแน่นอน ข้าถามหมอแล้ว ก่อนหน้านี้ถึงแม้แม่ของเจ้าจะเคยอยู่กินกับเฉินเอ้อร์อยู่ช่วงหนึ่งจริง และก็ได้ตั้งครรภ์ แต่หมอบอกว่านางได้กินยาขับเลือดเข้าไปแล้ว ดังนั้นทั้งเจ้าและเซี่ยหลินอย่างไรเสียก็ต้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอย่างแน่นอน“ คำพูดมหาเสนาบดีเซี่ยถูกเปล่งออกจากซอกฟัน และความโกรธเกรี้ยวที่สุมในอกของเขาค่อย ๆ ก่อตัวเป็นก้อนหินที่แข็ง ติดอยู่ในใจ ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าแค่หายใจได้ก็ดีมากแล้ว

เซี่ยหว่านเอ๋อกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ท่านแม่เคยอยู่กินคนป่าเถื่อนนั่นอยู่ช่วงนึงจริง ๆ หรือ? ทำไมถึงได้ทำตัวสกปรกเช่นนี้? ข้าคงไม่รู้จักนางอีกต่อไปแล้ว”

นางเห็นได้ว่าพ่อของนางเกลียดแม่เข้ากระดูกดำตตอนนี้นางจะต้องอยู่ฝั่งเดียวกับพ่อ ถ้าพ่อเกลียดแม่ นางก็ต้องเกลียดไปด้วย

“เด็กดี พ่อแค่มีเจ้ากับหลินหลิน อะไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว” น้ำเสียงของมหาเสนาบดีเซี่ยเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและเจ็บปวด

เมื่อเซี่ยหว่านเอ๋อได้ยินคำพูดนี้ นางก็น้ำตาเอ่อล้นด้วยความซาบซึ้งใจ โชคดี โชคดีที่นางยังเป็นลูกสาวของท่านพ่อ และโชคดีที่ท่านพ่อยังรักนาง ตราบใดที่นางยังเป็นบุตรีของจวนมหาเสนาบดี เรื่องอภิเษกกับองค์รัชทายาทก็ยังมีความหวังอยู่

มหาเสนาบดีเซี่ยลูบศีรษะของนางและกล่าวอย่างแผ่วเบา “ส่วนเรื่องแม่ของเจ้า เจ้าก็ใคร่ครวญเอาเองว่าจะทำเช่นไร ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาระหว่างข้ากับนางได้สิ้นสุดลงแล้ว แน่นอนว่านางยังคงอยู่ในจวนได้ต่อไป ยิ่งนางเป็นแม่ของเจ้าด้วยแล้ว ถึงแม้พ่อจะเกลียดนาง แต่เพื่อเจ้าแล้ว ไม่ว่าข้าจะเกลียดนางมากเพียงใดก็ต้องอดทน เพื่อไม่ให้เจ้าต้องลำบากใจ ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าแม่ของเจ้าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ มันเป็นการทำลายชื่อเสียงของเจ้า ต่อไปถ้ามีใครพูดถึงเรื่องพระชายาขององค์รัชทายาท จะต้องเป็นความอัปยศที่ลบไม่ออกอย่างแน่นอน”

เซี่ยหว่านเอ๋อมีท่าทีที่ดุร้าย “ท่านพ่อวางใจได้ ลูกรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร”

มหาเสนาบดีเซี่ยค่อย ๆ ยกมุมปากขึ้น ผุดรอยยิ้มเย้ยหยันขึ้นมา

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท