ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 278

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 278

ใบหน้าจื่ออันค่อย ๆ แดงขึ้น มู่หรงเจี๋ยที่หยิ่งยโสผู้นั้น รักษาบาดแผลเสร็จแล้วก็บอกว่าง่วงนอน ขอให้นางร้องเพลงให้ฟัง พูดออกมาก็น่าขายหน้า

ตอนที่นางร้องเพลงนั้น เขาจ้องมองมายังนางตลอดเวลา แววตาซับซ้อนไม่อาจอธิบายออกมาได้

หากใช้เวลาเพิ่มอีกเพียงนิด จื่ออันคงจะคิดว่าตนมีบุตรชายไปแล้ว บุตรชายตัวโตเช่นเขา

จื่ออันเคยมีงานวิจัยเกี่ยวกับจิตวิทยา จึงเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงได้ทำเยี่ยงนี้

ตอนที่ทำการศึกษานั้น ยิ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจมาก ก็จะยิ่งมีสิ่งที่ปล่อยวางไม่ได้มากขึ้น ห่อหุ้มจิตใจอันแข็งกร้าวไว้ ในมุมใดมุมหนึ่ง ก็จะมีอาการเจ็บปวดราวกับโดนเข็มทิ่มแทงจมูกอย่างไรอย่างนั้น

ความเจ็บปวดของมู่หรงเจี๋ย อาจจะเป็นเพราะกุ้ยไท่เฟย

เขาไม่ใช่ว่าไม่เคยได้รับความรักของแม่จากกุ้ยไท่เฟย เพียงแต่จนถึงวันนี้ความรักนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว และมันก็ส่งผลกับเขา เขารู้ว่าอดีตที่ผ่านมามิอาจจะไล่ตามมาได้แล้ว จึงได้เก็บมันไว้ในมุมหนึ่งของใจ เก็บความรักความรู้สึกระหว่างแม่ลูกนี้ไว้ และไม่ยอมให้มันเอ่อท้นออกมา

“หลิวหลิ่ว เจ้าเอ่ยถึงเรื่องผีดิบ มันเกิดอะไรขึ้น?” จื่ออันเปลี่ยนไปยังหัวข้อใหม่

หลิวหลิ่วกลืนข้าวลงไปก่อนเอ่ย “จิงจ้าวหยินเข้ามารายงาน บอกว่าในหมู่บ้านหินปรากฏผีดิบออกมากัดคน ได้กัดไปแล้วสองคน หลังจากที่สองคนนั้นโดนกัดแล้ว ก็กลายเป็นผีดิบไปด้วย ในขณะที่กำลังคิดจะกัดคนอื่นนั้นก็ถูกจับไว้ก่อนส่งมาที่ศาลาว่าการ ตอนนี้ก็ถูกคุมขังอยู่”

“ผีดิบที่กัดคน? นอกจากกัดคนแล้ว ยังมีอาการอีกหรือไม่?” จื่ออันเอ่ยถาม

“ไม่ได้ยินซูชิงกล่าวถึง เจ้าลองถามเขาดู” หลิวหลิ่วที่หยิบตะเกียบไว้แล้วก็วางลงอีก “ข้าอยากจะไปดูผีดิบจริง ๆ ข้ายังไม่เคยพบเจอผีดิบเลย”

เสี่ยวซุนตกอกตกใจ “โอ้ คุณหนูเฉิน นี่ไม่อาจพบได้นะเจ้าค่ะ ผีดิบช่างทำให้คนตกใจซะจริง กัดผู้ใดแล้วคนคนนั้นก็จะกลายเป็นผีดิบ ทั้งชีวิตนี้ก็มิอาจจะฟื้นคืนกลับมาได้”

จื่ออันเอ่ยถาม “ตอนนี้ผีดิบที่ถูกคุมนั้น มีสองตนหรือสามตนกัน?”

“ที่จับได้นั้นมีสองตน ผีดิบตัวเดิมที่กัดคนนั้นกระโดดหนีไปได้” หลิวหลิ่วกลืนอีกคำเข้าไป “ดังนั้นจิงจ้าวหยินเลยเข้ามาขอคำสั่ง ให้จัดเตรียมคนเข้าไปหมู่บ้านหินเพื่อตามหาผีดิบตนนั้น”

“งั้นก็ต้องค้นหาทั้งหมู่บ้านแล้ว?”

“ได้ยินมาว่าเป็นอย่างนั้น”

“ท่านอ๋องได้ออกคำสั่งให้ค้นหาหมู่บ้านหินแล้วหรือไม่?” จื่ออันถามต่อ

หลิวหลิ่วยักไหล่ “ข้าเองก็ไม่รู้ เจ้าลองถามซูชิงดู”

จื่ออันไปถามซูชิงไม่ได้เป็นแน่ เพียงแต่คิดว่านี้ไม่ใช่ผีดิบอะไร บางทีอาจจะกล่าวเกินจริงไป?

บางทีทุกคนอาจจะแค่ได้ฟังข่าวแปลกมาเท่านั้น แต่ไม่มีผู้ใดไปตรวจสอบสวนเรื่องนี้ ส่วนเสี่ยวซุนนั้นรู้สึกหวาดกลัว จนตอนค่ำเก็บเอาไปฝันร้าย

เข้าเดือนที่เจ็ด อากาศยิ่งร้อนอบอ้าวเขาไปใหญ่

บาดแผลของมู่หรงเจี๋ยฟื้นคืนกลับมาหายดีแล้ว รอยแผลเป็นเหลือเพียงรอยประทับสีแดงอมม่วง แต่ยังต้องขอร้องจื่ออันในทุกวันที่ทำงานไปยังจวนอ๋องเหลียงก่อน แล้วกลับมาจวนอ๋องของตน ตอนค่ำจึงได้ให้คนรถม้าส่งนางกลับไป

ช่วงระยะเวลานี้ พระสนมซุนมิได้เข้ามาหาเรื่องอีก เกิดเรื่องในครั้งนั้น แม้แต่กุ้ยไท่เฟย จื่ออันเองก็ไม่ได้พบเจอ ราวกับว่าคนเหล่านี้ได้หายไปจากจวนอ๋องอย่างไรอย่างนั้น

ส่วนองค์รัชทายาทนั้น ระยะนี้ก็มิได้มาหาเซี่ยหว่านเอ๋อ เซี่ยหว่านเอ๋อวิตกกังวลเป็นอย่างมาก แอบเข้าไปในวังเพื่อไปหาพระสนมเหมย ให้พระสนมเหมยนำยาลดรอยแผลเป็นมาจากสำนักหมอหลวงออกมาให้สักเล็กน้อย เพื่อที่จะลดรอยแผลเป็นบนใบหน้า

เพียงแต่รอยแผลนั้นค่อนข้างใหญ่ สีแผลค่อนข้างเข้ม ใช้ยาลดรอยแผลแล้วก็ไม่มีประโยชน์อันใด เพียงทำให้สีจางลงเล็กน้อย แต่รอยแผลยิ่งนานเข้าก็ยังคงชัดเจนและเด่นชัดอยู่มาก

นางเกลียดจื่ออันเป็นอย่างมาก แต่ภายในใจกลับไม่มีเรียวแรงที่จะไปต่อสู้กับนาง เพราะว่ามหาเสนาบดีเซี่ยได้เอ่ยกับนางไว้ เขากำลังจะแต่งงานกับซีเหมินเสี่ยวเย่ว หลานสาวคนโตของจินกั๋วกงมาเป็นภรรยา

ซีเหมินเสี่ยวเย่วปีนี้อายุยี่สิบสามปี เคยแต่งงานตอนอายุสิบหกปี เพิ่งจะแต่งงานสามีก็ไปออกรบ และเสียชีวิตในสนามรบ นางจึงย้ายกลับมาอาศัยอยู่ยังบ้านมารดาโดยตลอด จินกั๋วกงคิดมาตลอดที่จะหาคู่ครองให้นางอีกครั้ง แต่เพราะหลานเขาถูกฆ่าตายในสนามรบ จึงมิค่อยดีที่จะเอ่ยถึง หากไม่เพราะได้ยินว่ามหาเสนาบดีเซี่ยต้องการแต่งภรรยา จินกั๋วกงจึงรีบไปเข้าเฝ้าฮวงไท่โห่ว เพื่อให้พระองค์ทรงช่วยให้เรื่องดี ๆ ของทั้งสองเกิดขึ้น

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท