ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 297
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ไม่ชอบคำพูดเช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกมา “เจ้าค่ะ หลานจะจำคำสอนของท่านย่าไว้”
ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวต่อ “เจ้าอย่าได้เป็นปฏิปักษ์กับนาง เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนมหาเสนาบดีในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ล้วนอยู่ในสายตาของข้า ข้ามองเรื่องนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ถ้าหยวนซื่อไม่มีการเคลื่อนไหวในตอนนี้ พอนางเริ่มลงมือ เจ้าก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง ดังนั้นข้าจึงบอกแล้วว่าจะปล่อยคนผู้นี้เอาไว้ไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็กำจัดนางทิ้งไปไม่ได้เช่นกัน เจ้าลองหาวิธีจัดการดู ชีวิตที่เหลือเป็นของเจ้า ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่าเจ้าให้ความสำคัญกับความสูงส่งที่ทรงเกียรติ หรือความหยิ่งผยองของเจ้ากัน”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่รู้สึกว่าฮูหยินผู้เฒ่าประเมินหยวนซื่อสูงไป ในความคิดของนาง หยวนซื่อที่ถูกเฉินหลิงหลงรังแกมานานหลายปี จะมีความสามารถอันใด?
นางก็แค่อ่านตำรามามากกว่าผู้อื่นเล็กน้อย ก็ทำให้มีชื่อเสียงมากขึ้นแล้วเหรอ? นี่ไม่ใช่อิทธิพล นี่มันเป็นตัวถ่วงชีวิตนางมากกว่า
ในตอนเช้าของวันแต่งงาน ป้าสองคนที่คอยรับใช้ฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ในเรือนก็เข้ามาหา และบอกว่าปีนักษัตรของนางเป็นปีชง ให้หยวนซื่อออกไปอยู่ข้างนอกชั่วคราว
เดิมทีจื่ออันก็ไม่เห็นด้วย แต่หยวนซื่อกลับเห็นด้วย และบอกกับป้าซุ่ยอวี่ว่า ต้องการกลับไปอยู่ที่บ้านเดิมสองวัน
บ้านเดิมของหยวนซื่อ ตอนนี้ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่เลย พวกมหาบัณฑิตต่างลาออก และกลับภูมิลำเนากันหมดแล้ว ดังนั้นตลอดที่ผ่านมาที่จวนก็ไม่มีใครอยู่เลย
จื่ออันกล่าวว่า “กลับไปที่จวนหยวน ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ว่าที่นั่นไม่มีใครอาศัยอยู่เลยเป็นปี เกรงว่าใบไม้ที่ร่วงหล่นจะสั่งสมจนทำให้ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป”
หยวนซื่อส่ายหัวและพูดเบา ๆ “ไม่หรอก ที่นั่นมีคนทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา”
“ก่อนที่ท่านตาจะจากไป ได้จัดคนให้อยู่ดูแลทำความสะอาดที่นั่นหรือ?” จื่ออันกล่าวถาม
หยวนซื่อเงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่ใช่ท่านตาของเจ้า แต่เป็นผู้ที่ทำให้ด้วยใจเป็นคนทำ”
“ผู้ที่ทำให้ด้วยใจ?” จื่ออันมองดูท่าทางของนาง และก็เข้าใจได้ในทันใด “อ๋องอันหรือ?”
หยวนซื่อพยักหน้า “ใช่แล้ว”
“ท่านแม่รู้ได้อย่างไร?” จื่ออันประหลาดใจ แม้ว่าอ๋องอันจะสั่งคนให้ไปทำความสะอาดอย่างลับ ๆ แต่เรื่องนี้ก็ควรจะเป็นความลับสุดยอด
“มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อข้ากลับไปที่จวน ก็พบว่ามีคนกำลังทำความสะอาดอยู่ พอเข้าไปถาม ถึงได้รู้ว่าอ๋องอันสั่งคนให้คอยมาทำความสะอาดที่จวน” หยวนซื่อกล่าว
ในตอนนี้นี่เองที่จื่ออันรู้สึกว่าอ๋องอันเป็นคนที่มีความตั้งใจจริง
น่าเสียดายคู่ชีวิตเช่นนี้ ถ้าหยวนซื่ออภิเษกกับอ๋องอันในตอนนั้น มันจะวิเศษขนาดไหนกันเชียว!
จื่ออันส่งหยวนซื่อกลับจวนด้วยตัวเอง
เมื่อเปิดประตูจวนหยวนออก ก็เห็นว่าด้านในสะอาด เป็นระเบียบ ที่ลานของจวนแทบจะไม่มีใบไม้อยู่เลย ภายในห้องก็สะอาดสะอ้าน มีชุดน้ำชาวางอยู่บนโต๊ะ ราวกับว่ารอใครสักคนกลับมาอยู่ทุกเมื่อ
จื่ออันช่วยพยุงหยวนซื่อค่อย ๆ เดินขึ้นบันไดไป มีต้นไม้เก่าแก่อยู่ในลานของจวน มันสูงตระหง่านแทบจะทะยานสู่ท้องฟ้า จื่ออันรู้สึกทึ่งมาก นึกไม่ถึงเลยว่าที่จวนหยวนแห่งนี้จะมีทัศนียภาพเช่นนี้ด้วย
แม้แต่แม่นมหยางก็พูด “ทิวทัศน์ที่นี่งดงามมาก ฮูหยินควรอยู่รักษาตัวที่นี่นะเจ้าคะ”
หยวนซื่อจับราวบันไดหน้าระเบียง ใช้สองมือค้ำเอาไว้ สัมผัสได้ถึงลมฤดูร้อนที่พัดผ่านใบหน้า จากนั้นก็ผุดรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาขึ้นมา เป็นรอยยิ้มที่ไม่เข้ากับวัยของนาง จากนั้นนางก็กล่าว “ดอกบัวในฤดูร้อนผลิบานแล้ว ส่งกลิ่นหอมหวนยิ่งนัก”
“ข้าจะไปดูกับท่าน ดีหรือไม่?” จื่ออันกล่าว
“แค่ดมกลิ่นก็พอ เมื่อก่อนข้าชอบนั่งอยู่ริมทะเลสาบมาก” หยวนซื่อดูมีความสุขเหลือล้น ไม่มีร่องรอยของความทุกข์ใจของตอนที่อยู่ในจวนมหาเสนาบดีหลงเหลืออยู่เลย ราวกับว่านางยังเป็นคุณหนูของจวนหยวนเหมือนเมื่อครั้งเก่าก่อน
จื่ออันช่วยพยุงนางลงมา และจะเดินเลี้ยวตรงมุมก็เห็นว่ามีคนผลักประตูเข้ามาพอดี
ชายคนนั้นตกใจเมื่อเห็นหยวนซื่อและจื่ออัน เขาถอยออกไปตามสัญชาตญาณ ทว่าจื่ออันได้หยุดเขาไว้ “ท่านอ๋อง!”
ผู้มาเยือนก็คืออ๋องอัน
เขาจะมาที่นี่เดือนละสองสามครั้ง แต่เขาไม่คิดว่าวันนี้หยวนซื่อและจื่ออันจะอยู่ที่นี่ด้วย
มือของหยวนซื่อกำแน่น แต่สีหน้ายังคงเหมือนเดิม
อ๋องอันเดินเข้ามา เขามองดูหยวนซื่อมาโดยตลอด และรู้ว่านางมองไม่เห็น เพราะหลังจากที่นางตาบอดเขาก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับนางเลย
ดวงตาของเขาจดจ้องที่นางมากขึ้นกว่าเดิม และเขาก็ยังคงจ้องมองที่หยวนซื่ออยู่แบบนั้น
“คำนับท่านอ๋อง!” หยวนซื่อย่อตัวคำนับ