ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 298

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 298

“ไม่ต้องพิธีรีตอง!” อ๋องอันยื่นมืออกไปจะช่วยพยุงนาง แต่ก็แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้แตะต้องตัวของหยวนซื่อ

เดิมทีจื่ออันคิดว่าทั้งสองคนจะรู้สึกอึดอัดใจกัน คาดไม่ถึงว่าอ๋องอันจะเป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน “มันก็หลายปีแล้วนะที่ไม่มีผู้ใดมาที่จวนแห่งนี้เลย คุณหนูใหญ่สามารถเจียดเวลามาที่นี่ได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี”

คุณหนูใหญ่ที่เขาพูดถึงไม่ใช่จื่ออัน แต่เป็นหยวนซื่อ

หยวนซื่อก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเช่นกัน บางทีอาจเป็นเพราะนางมองไม่เห็นก็เป็นได้ นางยิ้มออกมา “เพคะ หม่อมฉันอยากกลับมาที่นี่ตลอด”

“ได้กลิ่นดอกบัวที่ผลิบานในฤดูร้อนไหม? พวกเราไปที่นั่นกันดีหรือไม่?” อ๋องอันกล่าวชวนนาง

“เดิมทีหม่อมฉันก็อยากไปอยู่แล้ว มีท่านอ๋องเดินไปเป็นเพื่อนย่อมดีที่สุด” หยวนซื่อกล่าว

จื่ออันช่วยพยุงหยวนซื่อเพื่อพาไปที่นั่น อ๋องอันกล่าวกับหยวนซื่อเบา ๆ “ได้ยินอาเจี๋ยบอกว่า ทักษะการชงชาของเจ้าไม่เลวเลย ลองชงมาสักเหยือกเถิด อีกอย่าง เช้านี้ข้ายังไม่ได้ทานอะไรเลย เจ้าช่วยไปทำอาหารเข้ามาให้สักหน่อยเถอะ”

จื่ออันยิ้มออกมา นี่คือการกันนางออกไป

อย่างไรก็ตาม ด้วยความรักอันยาวนานมาหลายปีนี้ เขาควรค่าแก่การได้ดอมดมกลิ่นหอมของดอกบัวในยามเช้ากับยอดดวงใจของเขา

จื่ออันไปที่ห้องครัวแล้วขอให้แม่นมหยางออกไปซื้อของให้ งานแต่งงานที่จวนมหาเสนาบดีในวันนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง นางเองก็ควรมีเวลาในช่วงเช้าที่สงบสุขเช่นกัน

อ๋องอันช่วยพยุงหยวนซื่อ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ได้สัมผัสมือของนาง เขาดูเป็นธรรมชาติมาก แต่ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขารู้สึกปิติยินดีมากเพียงใด

ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกัน จนกระทั่งถึงริมทะเลสาบ ก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ

ทางเส้นนี้ไม่ได้สั้นนัก แต่เขาก็หวังว่าจะสามารถเดินไปต่อได้

เขารู้ว่านางมองไม่เห็น และเขาสามารถจับมือนางแล้วเดินวนได้สองสามรอบ

แต่เขาก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นการปิดบังเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็ทำไม่ลง

เขาช่วยพยุงนางให้นั่งลงบนม้านั่งหินในศาลาริมทะเลสาบ และเขาก็นั่งลงข้าง ๆ นาง

“ข้าจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ข้ามาหามหาบัณฑิตที่จวนนี้ เจ้ากำลังวาดภาพอยู่ในศาลาแห่งนี้” อ๋องอันชอบศาลานี่เป็นพิเศษ

ในชั่วพริบตาเดียว ราวกับเป็นโลกที่ห่างไกลออกไป

เรื่องราวในอดีต มันคือทุก ๆ แววตาและรอยยิ้ม และท่วงท่ากริยาที่ฝังแน่นอยู่ในใจเขามานานหลายปี ไม่มีทางที่จะกำจัดมันออกไปได้เลย

เขาเป็นนักรบคนหนึ่ง ซึ่งไม่เข้าใจเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แต่เขารู้ดีว่าถ้าเรารักใครสักคน ก็หวังว่าจะได้รักคนผู้นั้นไปชั่วชีวิต ประคองใครคนนั้นเอาไว้ในมือ ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีดูแลคนผู้นั้นอย่างดีที่สุด

“ตอนนี้หม่อมฉันไม่วาดภาพแล้วเพคะ” หยวนซื่อกล่าวอย่างแผ่วเบา

อ๋องอันมองดูนาง “ข้าไม่ได้มีเจตนาพูดให้เจ้านึกถึงเรื่องที่ไม่สบายใจนะ”

หยวนซื่อยิ้ม “ตอนนี้ข้าหมดเรื่องที่ไม่สบายใจแล้ว”

รอยยิ้มของนางแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเขา และเขาคิดว่าเขาเต็มใจที่จะใช้ทุกสิ่งที่เขามี เพื่อแลกกับรอยยิ้มเช่นนี้ของนาง

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงจ้องมองไปที่นาง ราวกับว่าหากครานี้ไม่ได้มอง ต่อไปคงจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว

หยวนซื่อก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน นางไม่รู้จะพูดอะไรดี และก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไรด้วย

นางไม่มีคุณสมบัตินี้

จู่ ๆ นางก็นึกขึ้นได้ว่า ควรกล่าวขอบคุณเขา จึงกล่าวว่า “หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องได้สั่งให้คนมาทำความสะอาดที่จวนหยวนนี่มาหลายปีแล้ว ขอบพระทัยท่านอ๋องนะเพคะ”

อ๋องอันยิ้ม “นี่เป็นวิธีเดียวที่ข้าจะติดต่อกับเจ้าได้ ดังนั้นก่อนที่มหาบัณฑิตจะจากเมืองหลวงไป ข้าก็ได้ขอกุญแจจากเขา”

เขาปกป้องนางไม่ได้ ทำได้เพียงปกป้องบ้านเก่าของนางเท่านั้น เขาเชื่อว่าด้วยวิธีนี้ ชีวิตของพวกเขาก็ยังคงคาบเกี่ยวกันอยู่

หยวนซื่อรู้สึกเศร้าเล็กน้อย “ข้าไม่คู่ควร”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท