ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 301
ฤกษ์งามยามดีนั้นเป็นช่วงเที่ยง และในตอนเที่ยงนั้นเกี้ยวเจ้าสาวก็จะมาถึงหน้าประตู
จื่ออันเพิ่งจะกลับมายังจวนมหาเสนาบดีเมื่อก่อนเที่ยงนี้ เฉินหลิวหลิ่วต้อนรับนางกลับมา “เมื่อครู่นี้ข้าหาเจ้าไม่เจอ เอ่ยถามเสี่ยวซุนถึงได้รู้ว่าเจ้าส่งฮูหยินกลับจวนตระกูลหยวนไปแล้ว ซีเหมินเสียวเย่วผู้นี้ชอบกินอุจจาระสุนัขซะจริง ๆ ถึงกลับกล้าเอ่ยว่าปีนักษัตรของนางขัดแย้งกัน ต่อให้ขัดแย้งกันจริง จะต้องเป็นนางที่เป็นอนุภรรยาขัดแย้งกับฮูหยิน นางควรจะเลือกวันอื่นแต่งเข้ามา มีที่ไหนที่บ้านหลักจะต้องหลีกทางให้นางกัน? ในหัวสมองคงจะมีแต่อุจจาระหนู”
จื่ออันมองมายังเฉินหลิวหลิ่ว ก่อนหน้านี้นางสวมแต่ชุดที่ดูทะมัดทะแมง ดูไม่มีความเป็นหญิงสาว แต่วันนี้กลับสวมกระโปรงจับจีบสีพระจันทร์ที่รอบเอว ด้านนอกกระโปรงปักลายดอกไห่ถังเล็ก ๆ มวยผมสองข้างขึ้น พอยิ้มออกมาคิ้วสวยโค้งงอน ลักยิ้มเล็ก ๆ มีเสน่ห์ดูอ่อนหวาน
หากนางไม่เอ่ยปากออกมา จะดูราวกับหญิงสาวที่มีชีวิตชีวาสวยงาม
“มานี่สิ เจ้ามิใช่ว่าอยากจะรู้จักกับพี่ชายทั้งสิบสองคนของข้ารึ? ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก” เฉินหลิวหลิ่วลากจื่ออันพร้อมเอ่ยอย่างยินดี
จื่ออันยังมิทันได้หายใจออกมา ก็ถูกนางลากไปยังโถงรับรองแขก ถูกแยกออกจากฝูงชน นำไปยังริมทะเลสาบ
“ท่านพี่!”
ชายทั้งสิบสองคนหันหน้ากลับมาพร้อมกัน
จื่ออันดวงตามึนเบลอ
ดวงตามึนเบลอจริง ๆ
นางรู้ว่าเฉินหลิวหลิ่วมีพี่ชายสิบสองคน แตนางไม่รู้ว่าทั้งสิบสองคนนั้นหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ
และพวกเขายังจะสวมเสื้อคลุมโทนสีเดียวกันอีกด้วย อายุดูแล้วก็ต่างกันไม่มากนัก ที่สำคัญคือรูปลักษณ์ดูดีเป็นอย่างมาก
รัชสมัยต้าโจวนี้ ช่างอุดมไปด้วยชายงามและสาวงามจริง ๆ
“คุณหนูใหญ่เซี่ย!” แม่ทัพเฉินทั้งสิบสองนายโค้งมือคำนับให้แก่จื่ออันพร้อมกัน
จื่ออันกล้ารับรองได้ว่า ทั้งสิบสองคนนี้เดินไปที่ใดจะต้องกลายเป็นจุดสนใจเป็นแน่
จื่ออันกำลังคิดที่จะมอบการคำนับกลับคืน แต่ข้างหูของนางกลับได้ยินเสียงแปลก ๆ ลอยมา “ต้องการร่างทั้งร่างติดกลับไปหรือไม่? เจ้าจ้องมองจนตาดำใกล้จะถลนออกมาแล้ว ตนเองไม่รู้หรือ? ไม่เคยพบเจอชายหนุ่มจนโง่งมไปซะแล้ว”
คำพูดนี้เอ่ยออกมาได้โหดร้ายมาก มิต้องหันกลับไปมอง จื่ออันก็รู้ว่าเป็นผู้ใด
นางเอื้อมมือออกไปลูบแก้มครู่นึง นางแสร้งฝืนยิ้มออกมา แล้วหมุนตัวกลับไป “ท่านอ๋องเสด็จมาเมื่อไหร่เพคะ?”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยเสียงเย็น “ข้าอยู่ที่นี่มาโดยตลอด เป็นเจ้าที่มองไม่เห็น”
คุณชายรูปงามทั้งสิบสองของตระกูลเฉินโค้งคำนับพร้อมกัน “ท่านอ๋อง!”
“อืม นายน้อยเฉินทั้งหลายสวัสดี” มู่หรงเจี๋ยผงกศีรษะตอบรับ ใบหน้าค่อนข้างจะไม่พอใจ
“เซียวท่ามิได้มากับท่านอ๋องหรือเพคะ?” เฉินหลิวหลิ่วมองแล้วมองอีกยังด้านหลังของเขา และเอ่ยถามเสียงเบา
“เขามาช้าเล็กน้อย” มู่หรงเจี๋ยยังคงจ้องมองจื่ออัน “เช้านี้เจ้าหายไปไหนมารึ?”
จื่ออันโกรธเขายิ่งนัก ต่อหน้าคนทั้งหลายแต่กลับไม่ไว้หน้านางเลย เรียกถามนางราวกับนางเป็นเด็กน้อยของเขายังไงยังงั้น
แต่ก็มิอาจที่จะไม่ตอบกลับได้ “ข้าไปส่งท่านแม่กลับจวนหยวนมาเพคะ”
“เจ้าเข้ามานี่ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมา
จื่ออันย่อตัวคำนับให้แก่พี่ชายทั้งสิบสองของเฉินหลิวหลิ่ว “ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”
“คุณหนูใหญ่เดินดี ๆ” ตั้งแต่ที่เหล่าไท่จวินกับไปเอ่ยแจ้งกับทุกคนว่า ภายในครึ่งปีนี้เซี่ยจื่ออันจะทำให้เฉินหลิวหลิ่วและเซียวท่าครองคู่กัน เซี่ยจื่ออันจึงได้กลายเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลเฉิน
ทุกคนต่างคาดหวังให้นางเริ่มลงมือ พยายามที่จะให้เฉินหลิวหลิ่วแต่งออกไปโดยเร็ววัน
จื่ออันคิดว่ามู่หรงเจี๋ยมีเรื่องสำคัญที่จะเอ่ยกับนาง แต่หลังจากที่ลากนางไปอีกด้านนึงแล้ว เขากลับเอ่ยเสียงกร้าวอย่างเย็นชาว่า “ต่อไปหากสายตาเจ้ายังกล้าที่จะจ้องมองชายอื่น ข้าจะควักลูกตาเจ้าออกมา”
จื่ออันเอ่ยตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าจ้องมองชายอื่นเมื่อไหร่กัน? เพราะมิใช่ว่าพวกเขาหน้าตาเหมือนกันหรอก? พูดไปแล้ว ทำไมพวกเขาถึงได้มีรูปร่างน่าตาเหมือนกันนัก?”
“เหมือนกันที่ไหน? สายตาเจ้าคงจะมีปัญหาแล้วกระมัง? พวกเขาเพียงแค่เป็นแฝดสามเท่านั้น”