ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 303

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 303

จื่ออันเปล่งประกายดูน่าเกรงขาม ตามกฎระเบียบแล้ว บิดาแต่งภรรยา เป็นบุตรสาวนั้นสามารถออกมาได้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงในช่วงที่เกี้ยวเจ้าสาวเข้าจวนมา รอจนมีการกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จเรียบร้อยจึงค่อยเข้ามาด้านใน

เป็นบุตรสาวคนโตนั้น มิต้องยกน้ำชาให้อนุภรรยาคนใหม่ของบิดา แต่ว่าผู้ที่เป็นอนุภรรยานั้นจะต้องทำตามกฎต่อหน้าผู้คนนั้น ให้ขานเรียกคุณหนู เพื่อแสดงถึงความเคารพ

ทุกคนล้วนต่างต้องการดูฉากนี้ เพราะว่าซีเหมินเสี่ยวเย่วเข้าจวนมาในฐานะภรรยารอง ในด้านของกฎหมายแล้ว ภรรยารองเองก็คืออนุภรรยา เพียงแต่สถานะของซีเหมินเสี่ยวเย่วนั้นแตกต่างออกไป ดังนั้นวันนี้ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ยกน้ำชาแสดงความเคารพ พวกเขาก็จะไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เพียงแต่ว่าผู้ใดที่หัวแข็งกว่ากัน ผู้ใดที่จะเป็นฝ่ายชนะในการต่อสู้ครั้งนี้

ในตอนที่เกี้ยวมาถึงประตูแล้วนั้น องค์หญิงใหญ่มู่หรงจ้วงจ้วงเองก็เสด็จมาถึงแล้ว

การมาถึงของนางนั้น ทำให้งานแต่งในครั้งนี้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

ซีเหมินเสี่ยวเย่วอ้างถึงความขัดแย้งกันทางจักรราศี เพื่อให้หยวนซื่อนั้นออกไป เหลือไว้เพียงเซี่ยจื่ออันคุณหนูใหญ่ผู้เดียวในที่นี้ เมื่อบ้านหลักไม่อยู่ นางจึงได้ใช้สถานะของคุณหนูใหญ่แทนที่บ้านหลัก แต่ว่าจวนมหาเสนาบดีได้ตกลงไว้แล้วที่จะให้เซี่ยจื่ออันเป็นผู้ยกน้ำชาแสดงความเคารพให้แก่ซีเหมินเสี่ยวเย่ว และยังเคารพนางในฐานะมารดา

ผู้คนทั้งสองด้านต่างจับจ้องมองดู เซี่ยจื่ออันมิได้เอ่ยอันใด เพียงแค่ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิและองค์หญิงใหญ่ ก็เพียงพอแล้วที่จะให้ผู้คนคอยจดจ้องมองดูแล้ว

ทางด้านของจิ้นกั๋วกงแล้วนั้น นอกจากตระกูลของจิ้นกั๋วกงแล้ว ยังมีราชครูเหลียง และองค์รัชทายาทก็มาแสดงความยินดีด้วย ราวกับเป็นการแข็งขันต่อสู้กันอย่างไรอย่างนั้น ความซับซ้อนของงานแต่งในครั้งนี้นั้น ดูจะมีมากกว่าที่ผู้อื่นได้คาดคิดเอาไว้

องค์รัชทายาทเดิมมิได้อยากจะมานัก เขาเองก็เคยเข้าวังไปเพื่อของพระราชเสาวนีย์จากฮองเฮามาแล้ว เพื่อที่จะยกเลิกงานแต่งงาน แต่กลับถูกฮองเฮาดุด่าว่ากล่าวออกมา แล้วยังโดนราชครูเหลียงเอ่ยเตือน ดังนั้นเขาจึงจำยอมที่จะมา

องค์รัชทายาทมีลักษณะนิสัยเอาแต่พระทัย เพราะเบื้องหลังของเขานั้นมีคนหนุนหลัง ดังนั้นเรื่องราวต่าง ๆ ต่างมีผู้อื่นคอยช่วยเขาวางแผน สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงคอยเดินขึ้นไปทีละขั้น ๆ บนบันไดหินที่ทุกคนต่างคอยจัดเรียงไว้เพื่อเขา และนั่งลงบนบัลลังก์มังกรที่ครอบครองใต้หล้านี้เอาไว้

ฮูหยินผู้เฒ่าแน่นอนว่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เดิมนางอยากจะใช้งานแต่งในครั้งนี้ขยายอิทธิพลของจวนมหาเสนาบดี

เกี้ยวเจ้าสาวสีแดงสดหยุดอยู่หน้าประตูจวน หลังจากที่แตะประตูเกี้ยวแล้ว เจ้าสาวมีซีเหนียงคอยแบกเข้าประตูจวน

มงกุฏหงส์สีแดงสดแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่ทะเยอทะยานจะครอบครองอำนาจของบ้านหลัก ภายใต้ผ้าคลุมสีแดง ซีเหมินเสี่ยวเย่วดูหยิ่งผยอง นางมิได้อยู่บนจุดสูงสุดมานานมากแล้ว นางต้องการช่วงเวลาที่ตกเป็นเป้าสายตา และกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนเยี่ยงนี้

นางเคยเป็นหญิงหม้าย หญิงที่ต้องแสดงออกถึงความต่ำต้อยและต้องคอยยับยั้งชั่งใจ แม้แต่การแต่งกายก็มิอาจสดใสเกินไป นางมีเครื่องประดับมากมาย ไม่เพียงแต่มีชื่อราคาแพงเท่านั้น แต่ว่านางทำได้เพียงแค่ใช้ปิ่นปักผมเรียบง่ายโบราณเท่านั้น

เดิมคิดว่าทั้งชีวิตนี้ทำได้เพียงอยู่อย่างเงียบเหงา กลับไม่คิดว่าจะมีวันนี้ จะกลายเป็นฮูหยินของมหาเสนาบดีเซี่ย

สินสอดถูกยกเข้ามาทีละลังทีละลัง กว่าครึ่งเป็นเสื้อผ้า หลังจากที่ได้รู้ว่าตนจะต้องแต่งกับเซี่ยหวายจุนนั้น แค่ครู่เดียวนางก็ได้ไปตัดชุดใหม่มาสามสิบชุดเข้าไปแล้ว ล้วนแต่เป็นสีสันสดใสสวยงาม

เสื้อผ้าเรียบง่ายก่อนหน้านั้น ล้วนถูกนางโยนทิ้ง

นางต้องการที่จะใช้ทัศนคติใหม่ มาเริ่มต้นชะตาใหม่ของตน

นางรู้ว่าวันนี้มีแขกมามายมาร่วมงาน นางคิดว่าเป็นเพราะต้องมาแสดงความยินดีให้แก่นางจึงได้มากัน

ในช่วงเวลาที่กราบไหว้ฟ้าดินนั้น ผู้ที่เป็นตัวแทนองค์จักรพรรดิอย่างผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็อยู่ ณ ที่แห่งนี้ ฟ้าดินสวรรค์บิดามารดาอาจารย์ ดั่งนั้นเมื่อกราบไหว้ฟ้าดินแล้ว จึงจำต้องกราบไหว้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ก่อนที่จะไหว้ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย แล้วต่อด้วยไหว้สามีภรรยา

สำหรับซีเหมินเสี่ยวเย่วแล้ว การที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ทรงเสด็จมาร่วมงานแต่งนั้นออกจะแปลกใจเล็กน้อย เพราะว่าจากที่นางรู้มานั้นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จะไม่เคยเข้าร่วมงานประเภทนี้เลย

แต่เขาให้ความสำคัญกับนางมาก

หลังจากที่กราบไหว้เรียบร้อยแล้วนั้น นางได้ถูกแบกไปยังห้องหอ เพราะว่าเป็นภรรยารอง นางจึงไม่ต้องรอจนถึงช่วงเวลาร่วมหอถึงได้เปิดผ้าคลุมออกมาได้ เมื่อเข้าไปแล้วก็สามารถเปิดออกได้แล้วจึงออกมายกน้ำชาให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่

หลังจากที่ยกน้ำยาให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่แล้วนั้น ซีเหนียงจึงได้ประคองนางไปยังที่นั่ง ทำตามที่นางตั้งใจไว้แต่เดิม เซี่ยจื่ออันและเซี่ยหว่านเอ๋อจะต้องยกน้ำชาให้แก่นาง

มหาเสนาบดีเซี่ยได้ให้คนจับตาดูจื่ออันไว้แต่แรกแล้ว ไม่ให้นางได้เดินออกไปไหน

หลังจากที่นางนั่งลง ทุกคนต่างก็คิดว่า เซี่ยจื่ออันจะต้องยกน้ำชาให้แก่นาง

เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อนางนั่งลงแล้ว จึงได้ยินซีเหนียงร้องตะโกน “เชิญคุณหนูใหญ่ คุณหนูรองเข้ามาได้ ยกน้ำชาให้ท่านแม่”

เซี่ยหว่านเอ๋อได้รออยู่ด้านนอกแล้ว นางรอด้านในร้องตะโกนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่ได้สังเกตว่าจื่ออันมิได้อยู่ด้วย เมื่อรอจนซีเหนียงร้องเรียกแล้ว นางจึงได้แต่มองไปทั้งสี่ทิศ กลับไม่พบเซี่ยจื่ออัน

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท