ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 306
ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าดูมืดมนลงเล็กน้อย “จื่ออัน เจ้าเองก็ใกล้ที่จะต้องอภิเษกกับท่านผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิแล้ว อย่าได้ก่อเรื่อง รีบเข้าไปคำนับน้ำชาให้แก่ท่านแม่”
คำพูดนี้แท้จริงแล้วเอ่ยออกมาให้แก่ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิฟัง ให้ท่านผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิอบรมจื่ออันที่มิได้เข้าใจขนบธรรมเนียม เพราะว่าซีเหมินเสี่ยวเย่วเป็นถึงอี๋พิ่น จื่ออันมิได้มีตำแหน่งใด หากผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิเป็นผู้ที่ยึดถือหลักปฏิบัติแล้ว ก็ควรที่จะให้จื่ออันคุกเข่าคำนับน้ำชา
ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกว่า ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิคงจะไม่มีปัญหาเพราะเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ จนถึงกับยอมล่วงเกินสกุลของจิ้นกั๋วกง พระองค์เป็นผู้ที่มีไหวพริบดี รู้ว่าหากล่วงเกินจิ้นกั๋วกงแล้วนั้นไม่มีประโยชน์อันใด
แต่ว่ามู่หรงเจี๋ยราวกับมิได้เข้าใจจึงเจตจำนงค์ของฮูหยินผู้เฒ่า ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอีก นิ้วมือแตะลงบนที่พักแขนเบา ๆ แสดงให้เห็นถึงความไม่อดทนอดกลั้น
ราวกับว่าพิธีนี้ทำให้เขาสิ้นเปลืองเวลา
ผู้ที่รู้สึกเหมือนดั่งกับเขานั้นยังมีมู่หรงจ้วงจ้วงอีกท่านหนึ่ง นางไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ แค่เพียงรู้สึกร้อนรนไปเท่านั้น
แต่กลับเป็นองค์รัชทายาทที่ทรงไม่พอพระทัย เอ่ยกับจื่ออันออกมา “เจ้ามัวแต่อ้ำอึ้งอะไรกัน? ให้เจ้าคุกเข่าคำนับน้ำชา เจ้าทำตามเป็นพอ”
จึงอันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นางเอ่ยออกมา “รับสั่งขององค์รัชทายาท หม่อมฉันน้อมรับเพคะ”
พูดจบ จึงได้เอื้อมไปหยิบถ้วยชาใบนั้น
ซีเหมินเสี่ยวเย่วอารมณ์ค่อยดูดีขึ้นมา นางจัดกระโปรงอยู่ครู่นึง รอจื่ออันคุกเข่า
แต่ราชครูเหลียงกลับส่งเสียงออกมาในขณะนี้ “ช้าก่อน!”
จื่ออันหยุดมือ มองไปยังราชครูเหลียงด้วยความสงสัย
ฝูงชนเองก็มองมายังเขา คนทั้งหลายต่างเข้าใจว่าทำไมราชครูเหลียงถึงได้หยุดจื่ออันคำนับน้ำชา
เพราะว่าเป็นองค์รัชทายาทที่ส่งเสียงออกมา หากองค์รัชทยาทมิได้ส่งเสียงออกมาแล้ว จื่ออันจะคุกเข่าก้มหัวราชครูเหลียงก็จะมิใยดี
ในบางครั้งที่ธรรมเนียมกับกฎหมายนั้นขัดแย้งกัน จะต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก
องค์รัชทายาทเป็นผู้ส่งเสียงให้จื่ออันคำนับน้ำชา เดิมก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เป็นถึงองค์รัชทายาทในราชวงศ์แต่กลับทำเรื่องที่ละเมิดกฎหมาย หากแพร่ออกไปแล้ว องค์รัชทายาทคงจะต้องเป็นที่ขบขันของผู้คนเป็นแน่? หากมู่หรงเจี๋ยจะสืบสาวราวเรื่องขึ้นมา ก็ยังสามารถโดนตรวจสอบได้
ดังนั้นราชครูเหลียงไม่อาจจะให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้
ราชครูเหลียงเอ่ยเสียงเบา “ตามระเบียบข้อบังคับของต้าโจวแล้วนั้น (ฮู้ลวี่แต่งงาน) ภรรยารองก็คืออนุภรรยา หากคุณหนูใหญ่คำนับน้ำชาให้แก่นางแล้ว ก็จะเปรียบได้กับสถานะของภรรยาหลัก จะเป็นการละเมิดกฎหมาย”
ซีเหมินเสี่ยวเย่วกระชับเสื้อตน โกรธจนใบหน้าเริ่มซีดชาว ในเมื่อถึงกับเอ่ยถึงกฎหมายแล้วนั้น แน่นอนว่ามิอาจจะให้จื่ออันคำนับน้ำชาได้ แต่ว่าเซี่ยจื่ออันที่ส่งอั่งเปามานั้น นางรับไม่ได้ ไม่รับก็ไม่ได้
หากนางรับไว้ ก็เท่ากับตนยอมรับว่าเป็นอนุภรรยามิใช่หรือ? แต่หากนางไม่รับไว้ อั่งเปานี้ก็จะวางอยู่ตรงหน้าตน มิอาจจะหายไปไหนได้
เซี่ยหว่านเอ๋อเมื่อพบว่าเซี่ยจื่ออันมีท่าทีไม่ยินยอมที่จะคำนับน้ำชามาตลอด จึงอยากที่จะเอาใจซีเหมินเสียวเย่ว เอ่ยกับจื่ออันออกมา “ท่านพี่อย่าได้ก่อเรื่องอีกเลยเจ้าค่ะ คำนับน้ำชาให้กับท่านแม่แล้ว ทุกคนก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรืออนุ สถานะหรือจะเทียบได้กันกับความสัมพันธ์?”
จื่ออันกลับรู้สึกลำบากใจ มองไปยังราชครูเหลียง “ใต้เท้า ศีรษะนี้ของข้านั้น ควรจะก้มหรือมิก้มดี?”
ราชครูเหลียงในใจนั้นก่นด่าสาปแช่งพิษสงของจื่ออัน ทั้ง ๆ ที่เป็นนางที่มิยินยอมคุกเข่าก้มหัว แต่ทำท่าทางราวกับไม่รู้ผิดยังไงยังงั้น
ฮูหยินผู้เฒ่าเจอกับเหตุการณ์นี้เข้า จึงเอ่ยกับราชครูเหลียงว่า “แม้จะเป็นภรรยารอง ก็คืออี๋พิ่น ตนที่เป็นหลานของจวนมหาเสนาบดีนั้น ก้มศีรษะคำนับน้ำชาให้แก่ฮูหยินก็สมควรแล้ว และซีเหมินเสี่ยวเย่วเองก็มีตำแหน่ง ตามมารยาทแล้วแม้แต่ตัวข้าเอง ก็ยังจะต้องทำความเคารพให้แก่นาง ใยจะต้องสร้างความลำบากให้แก่ผู้น้อยกัน?”
ราชครูเหลียงผงกศีรษะ “ฮูหยินผู้เฒ่าพูดมีเหตุผล หากมองจากตำแหน่งแล้ว คุณหนูใหญ่ก็ควรจะคำนับน้ำชาให้แก่ฮูหยิน”
“บังอาจ!”
ด้านนอกมีเสียงต่ำไม่พอใจเอ่ยออกมา จึงได้รู้ว่าอ๋องหลี่เสด็จมาถึงแล้ว