ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 319
หลังจากที่เจ้ากรมอาญานั่งลง เขาก็ถามออกไป “เมื่อครู่นี้องค์รัชทายาทได้ตำหนิฮูหยินผู้เฒ่าว่าสั่งสอนหลานสาวได้ไม่ดี ความหมายของพระองค์ก็คือ คุณหนูตระกูลเซี่ยเป็นผู้ก่อเรื่องใช่หรือไม่? เรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่? องค์รัชทายาทได้โปรดเล่าเรื่องที่ท่านได้พบเห็นมาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทกล่าวว่า “เมื่อครู่นี้ตอนที่ข้ากำลังเดินเล่นกับเซี่ยหว่านเอ๋อ ก็เห็นเซี่ยจื่ออันกับคุณชายซีเหมินเสี่ยวชิ่ง หลานชายของจวนจิ้นกั๋วกงยื้อยึดฉุดกระชากกันไปมาอยู่ที่ริมทะเลสาบ และทั้งสองก็ดูเหมือนกำลังมีปากเสียงกันด้วย ข้าเองก็นึกว่าพวกเขามีเรื่องไม่ลงรอยกัน ก็เลยอยากเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยเสียหน่อย ใครจะรู้ว่าพอเห็นข้าเดินเข้ามา ทั้งสองคนก็รีบแยกย้ายเดินออกไปทันที เซี่ยจื่ออันรีบเดินลงไปที่ทางเดินที่ทอดผ่านทะเลสาบแล้วทะลุไปยังภูเขาหินจำลอง ส่วนซีเหมินเสี่ยวชิ่งก็เดินไปยังบริเวณหลังสวนดอกไม้ ”
“ข้าคิดว่าพวกเขาแค่มีปากเสียงกันเล็กน้อย ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก จึงเดินเล่นกับหว่านเอ๋ออยู่รอบ ๆ ริมทะเลสาบ จากนั้นก็เดินลงไปยังทางเดินแล้วเดินต่อไปยังภูเขาหินจำลอง เพื่อไปชมทิวทัศน์ที่นั่น คิดไม่ถึงว่าพอไปถึงภูเขาหินจำลองแล้วจะได้ยินเสียงกรีดร้องลอยมา ข้ากับหว่านเอ๋อจึงรีบนำทหารองครักษ์ตรงไปทางนั้น ก็เห็นซีเหมินเสี่ยวชิ่งพูดกับจื่ออันด้วยอาการตื่นตระหนกว่า คนผู้นั้นตายแล้ว บอกว่าเซี่ยจื่ออันฆ่าเขา ข้าเลยสั่งให้ทหารองครักษ์คุมตัวนางกลับมาที่นี่”
คำพูดนี้ขององค์รัชทายาท ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหล นึกไม่ถึงเลยว่าคุณหนูตระกูลเซี่ยจะกล้าฆ่าคนได้เช่นนี้
เมื่อเจ้ากรมอาญาได้ยินสิ่งที่องค์รัชทายาทเล่า และหลังจากที่ได้พิจารณาดูแล้ว ก็ได้ไต่ถามซีเหมินเสี่ยวชิ่ง “เจ้าจงเล่ามา แท้จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่? เซี่ยจื่ออันฆ่าเด็กรับใช้คนนี้จริงหรือไม่?”
ซีเหมินเสี่ยวทำท่าทางราวกับว่ากำลังตื่นตระหนก เขาพูดติด ๆ ขัด ๆ เล็กน้อย “ขะ…ข้าไม่ทราบ”
“ไม่ทราบ?” เจ้ากรมอาญาตะคอกเสียงดัง “เจ้าบอกข้ามาตามตรงจะดีกว่าว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นที่ภูเขาหินจำลองกันแน่?”
ซีเหมินเสี่ยวชิ่งเหลือบมองไปที่จื่ออันอย่างสับสน และตีหน้าเศร้าอธิบาย “เรื่องนี้…นางไม่ได้ตั้งใจ เดิมทีนางก็ไม่ได้อยากจะฆ่าเขา แต่เป็นเขาที่บอกว่าจะไปฟ้องท่านมหาเสนาบดี จื่ออันจำต้องลงมืออย่างโหดเหี้ยม ข้าเข้าไปหยุดนางไว้ แต่นึกไม่ถึงว่านางจะใช้โอกาสช่วงที่ข้าหันหลัง ดึงปิ่นออกไปปักกลางอกของเขา นางไม่ได้ต้องการฆ่าเขาจริง ๆ เพียงแต่ว่าต้องการปิดปากเขาก็เท่านั้น”
“ต้องการปิดปาก?” เจ้ากรมอาญาขมวดคิ้ว “ทำไมต้องปิดปากเขา? เขาไปเห็นอะไรเข้า?”
พอสิ้นเสียงพูดซีเหมินเสี่ยวชิ่งก็คุกเข่าลงต่อหน้ามู่หรงเจี๋ยในทันที แล้วคว้าชายเสื้อของมู่หรงเจี๋ยไว้ “ท่านอ๋องได้โปรดยกโทษให้กระหม่อมด้วย จื่ออันกับกระหม่อมชอบพอกันมานานแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่เต็มใจอภิเษกกับอ๋องเหลียง ท่านอ๋องได้โปรดส่งเสริมพวกเราด้วย”
มู่หรงเจี๋ยค่อย ๆ ผลักมือของเขาออกไป และพูดด้วยสีหน้าที่รังเกียจ “พูดก็ส่วนพูด จะมาดึงเสื้อผ้าของข้าทำไม? ถ้าพวกเจ้าทั้งสองชอบพอกัน ข้าย่อมจะส่งเสริมพวกเจ้าอยู่แล้ว”
“นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่” อ๋องหลี่กล่าวอย่างไม่พอใจ “ไม่ต้องเอาเรื่องหยุมหยิมเหล่านั้นมาเล่า จงเล่าแต่เนื้อหาสำคัญก็พอ”
ซีเหมินเสี่ยวชิ่งหันกลับมามองจื่ออันด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง “กราบทูลท่านอ๋อง เรื่องมันเป็นเช่นนี้ เมื่อปีที่แล้วกระหม่อมได้รู้จักกับจื่ออัน แล้วเราทั้งสองคนก็ได้ชอบพอกัน โดยที่ได้ให้คำมั่นว่าจะแต่งงานกัน แต่เรื่องนี้ท่านพ่อท่านแม่ไม่อนุญาต จากนั้นอ๋องเหลียงก็ต้องการแต่งงานกับจื่ออัน นางจึงดิ้นรนสุดชีวิต ข้าคิดว่านางจะมีความรักที่ลึกซึ้งมั่นคงต่อข้า จากนั้นจึงตัดสินใจคุยกับมหาเสนาบดีเซี่ยเรื่องการแต่งงาน แต่กลับได้ยินข่าวว่าหวงไท่โฮ่วกำลังจะมีพระราชเสาวนีย์ลงมาให้นางอภิเษกกับผู้สำเร็จราชการ เดิมทีกระหม่อมคิดว่านางจะมั่นคงเหมือนแต่ก่อนว่าจะไม่อภิเษกกับผู้ใด ใครจะไปรู้ว่าคราวนี้นางมีทัศนคติที่ต่างไปจากคราวที่แล้วอย่างสิ้นเชิง นางบอกว่าถ้าไม่ใช่ผู้สำเร็จราชการก็จะไม่แต่งงานด้วย กระหม่อมโกรธอยู่พักหนึ่งและก็เพิ่งจะทะเลาะกับนางที่ริมทะเลสาบเล็กน้อย แล้วก็เห็นองค์รัชทายาทกำลังมาพอดี พวกเราไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก ก็เลยนัดหมายให้ไปพบกันที่ภูเขาหินจำลอง พอไปถึงที่นั่น เราก็ทะเลาะกันอีกและพูดเรื่องลับที่พวกเราเคยใกล้ชิดสนิทสนมกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกเด็กรับใช้ที่ผ่านมาทางนั้นได้ยินเข้าพอดี และเขาบอกว่าจะฟ้องท่านมหาเสนาบดี จื่ออันที่ได้ยินดังนั้นก็กลัวว่าคนอื่นจะรู้เรื่องจนทำให้การอภิเษกของนางกับผู้สำเร็จราชการถูกทำลายลง นางจึงได้ลงมือฆ่าเขา เดิมทีคิดว่าที่นั่นคงจะไม่มีใครผ่านไปผ่านมา นึกไม่ถึงเลยว่าพอนางเพิ่งลงมือฆ่าเขา องค์รัชทายาทก็เข้ามาพอดี”
คำบรรยายของซีเหมินเสี่ยวชิ่งนั้นชัดเจนมาก เมื่อผู้คนที่อยู่ตรงนั้นได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบพูดคุยกัน
เพราะว่ามีบางคนที่ได้เห็นเซี่ยจื่ออันกับซีเหมินเสี่ยวชิ่งทะเลาะกันที่ริมทะเลสาบจริง และสีหน้าของพวกเขาทั้งสองก็ดูไม่ค่อยจะดีนัก
ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเหลียงก็ไม่เหมือนกับผู้สำเร็จราชการ จื่ออันปฏิเสธอ๋องเหลียง แต่กลับเต็มใจที่จะอภิเษกกับผู้สำเร็จราชการ นั่นก็เพราะว่าอ๋องเหลียงพิการทั้งยังเป็นอ๋องที่ไม่เอาการเอางาน ไร้ซึ่งอำนาจที่แท้จริง
แต่ผู้สำเร็จราชการไม่เหมือนกัน มีอำนาจอยู่ในมือ เหมือนพระอาทิตย์ในตอนเที่ยงวันที่อยู่ในจุดสูงสุด อภิเษกกับเขาก็เหมือนกับได้เป็นฮองเฮา
ใครบ้างจะไม่ถูกแรงดึงดูดนี้?
มู่หรงเจี๋ยพูดอย่างเฉยเมย “ไปดูปิ่นปักผมที่ปักอยู่ตรงหน้าอกของผู้ตายสิ”
เจ้ากรมอาญายกมือขึ้นน้อมรับคำสั่ง และสั่งคนให้พาฮูหยินผู้เฒ่าเข้าไปตรวจสอบดู