ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 322
อ๋องหลี่มองดูพี่น้องตระกูลเฉิน แล้วกล่าวถามเจ้ากรมอาญา “ทำร้ายคน จะตัดสินความผิดอย่างไร?”
“กราบทูลท่านอ๋อง ต้องดูสภาพบาดแผลก่อนแล้วค่อยตัดสินพ่ะย่ะค่ะ!”
อ๋องหลี่พยักหน้า “อืม ข้ารู้ แต่ว่าท่านรับผิดชอบกรมอาญา ข้าก็เลยอยากจะถามท่านก่อน เช่นนี้ดีหรือไม่ถ้าพวกเขาทั้งสิบสองคนลงมือทำร้ายเจ้า ข้าจะอยู่ที่นี่คอยดูแลกำกับเจ้ากรมอาญาให้ ตัดสินโทษตามสภาพบาดแผล ไม่มีใครสักคนที่ทำร้ายคนแล้วจะรอดพ้นโทษได้ ข้าสัญญา”
เหลียงซื่อมองดูผู้คนที่ดุร้ายเหล่านี้ ถ้าทั้งสิบสองคนกรูเข้ามาทำร้ายนางพร้อมกัน การลงโทษแต่ละระดับก็ไร้ประโยชน์แล้ว
มู่หรงจ้วงจ้วงลดมือลง ไม่รู้ควรจะทำเช่นไรดี แต่เมื่อมีอ๋องหลี่อยู่ที่นี่เรื่องราวก็กลับพลิกผันได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเห็นจื่ออันฝังเข็มให้เด็กรับใช้แล้ว ทั้งยังเอนตัวไปกระซิบที่ข้างหูของเขาอีก
มู่หรงจ้วงจ้วงก็เข้าใจได้ในทันทีว่าอ๋องหลี่เป็นคนช่วยปิดบังให้จื่ออัน
มันช่างแปลกจริง ๆ อ๋องหลี่เป็นคนที่ยึดมั่นในความถูกต้อง ไม่เคยได้ยินว่าเขาจะเอนเอียงไปช่วยใครเลย ก่อนหน้านี้พิจารณาคดีการทำร้ายจนทำให้เสียโฉม ก็เพราะมันไม่ละเมิดต่อกฎหมายเขาถึงเข้ามาช่วยได้
นางค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าในตอนนั้นฮูหยินหลิงหลงมีเหตุผลอันสมควรและมีหลักฐาน เขาจะต้องยืนอยู่ฝั่งฮูหยินหลิงหลงอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขากำลังช่วยจื่ออันปกปิดอยู่ใช่หรือไม่?
เป็นอ๋องเจ็ดที่ชี้นำเขาหรือเปล่า? มู่หรงจ้วงจ้วงมองไปที่มู่หรงเจี๋ย แต่ก็พบว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยสักนิด เขานั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน ดวงตาของเขามองออกไปที่ทุ่งดอกไม้ข้างนอก ราวกับว่าผู้หญิงที่ถูกใส่ร้ายว่าฆ่าคนไม่ใช่คู่หมั้นของเขาเลย
และตอนนั้นเอง เด็กรับใช้ที่เฝ้าประตูก็ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว
องค์รัชทายาทกับเซี่ยหว่านเอ๋อต่างมองหน้ากัน สีหน้าของทั้งสองดูตกใจเล็กน้อย องค์รัชทายาทถอยหลังมาหนึ่งก้าวอย่างเย็นชา มองดูเซี่ยหว่านเอ๋อด้วยดวงตาที่เย็นเยียบ ราวกับว่ากำลังตำหนินางที่จัดการเรื่องนี้ได้ไม่รอบคอบพอ
เซี่ยหว่านเอ๋อก็ไม่คิดว่าซีเหมินเสี่ยวชิ่งจะประมาทได้ถึงเพียงนี้ ขนาดคนตายหรือไม่ตายยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เห็นองค์รัชทายาทโกรธ นางเองก็โกรธด้วย
จื่ออันช่วยประคองเด็กรับใช้ที่เฝ้าประตูขึ้นมา และเจ้ากรมอาญาก็ได้นั่งยอง ๆ ลงเพื่อถามเขา “เจ้าชื่ออะไร?”
เด็กรับใช้ที่เฝ้าประตูยังอ่อนแอมาก แต่ว่าเขาก็บังคับตนเองให้คุกเข่าลงแล้วตอบว่า “กราบเรียนใต้เท้า ข้าน้อยชื่อว่ากุ้ยหยวน”
“กุ้ยหยวน ใครเป็นคนทำร้ายเจ้า?” เจ้ากรมอาญากล่าวถาม
ทุกคนจ้องไปที่เด็กรับใช้ที่เฝ้าประตู ใบหน้าของเขาขาวซีดมาก และริมฝีปากของเขาก็สั่นเล็กน้อย เขาไม่ได้มองไปที่จื่ออัน แต่กลับนึกถึงคำพูดที่นางกระซิบที่ข้างหูเมื่อครู่นี้
นางบอกว่า เพียงแค่ตอบไปว่าจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ก็ตอบว่าไม่ทราบก็พอ
เขารู้ถึงเจตนาของคุณหนูใหญ่ดี เพราะนางไม่ต้องการให้เขาเป็นพยานชี้ชัดว่าเป็นฝีมือของซีเหมินเสี่ยวชิ่ง เพราะว่าต่อไปซีเหมินเสี่ยวเยว่จะมาเป็นนายหญิงของจวนนี้ ถ้าหากยืนยันว่าเป็นซีเหมินเสี่ยวชิ่ง เขาก็จะถูกแก้แค้น
เขาหมอบแล้วเงยหน้าขึ้น ชี้ไปที่ซีเหมินเสี่ยวชิ่ง แล้วกัดฟันพูด “คือคุณชายซีเหมินพ่ะย่ะค่ะ”
ฝูงชนก็ส่งเสียงดังอื้ออึงในทันที แม้ว่าทุกคนจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าซีเหมินเสี่ยวชิงจงใจใส่ร้ายเซี่ยจื่ออัน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นฆาตกรเสียเอง
มันก็เหมือนกับโจรตะโกนให้จับโจรอย่างไรอย่างนั้น
ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างเคร่งขรึม “เจ้าช่วยอธิบายให้กระจ่างเสียหน่อย เพราะว่าเขากับคุณหนูใหญ่มีปากเสียงกันที่ภูเขาหินจำลองใช่ไหม พอถูกเจ้าได้ยินเข้า ดังนั้นคุณหนูใหญ่จึงสั่งให้เขาลงมือใช่หรือไม่?”
คำพูดของฮูหยินผู้เฒ่าดูไร้ยางอายเล็กน้อย แต่นางก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว หากวันนี้ลงโทษซีเหมินเสี่ยวชิ่ง เรื่องราวทั้งหมดที่พวกเขาได้ลำบากวางแผนไปก็จะล้มเหลวไม่เป็นท่า ซีเหมินเสี่ยวชิ่งคือหลานชายที่จิ้นกั๋วกงให้ความสำคัญมาก ถ้าวันนี้ต้องแตกหักกัน แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา แต่ก็ต้องเป็นภาระที่ทางจวนมหาเสนาบดีต้องแบกรับไว้อยู่ดี
ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าจึงใช้สถานะของตัวเองกดดันและชี้นำเด็กรับใช้ให้สารภาพออกมาตามที่นางชี้นำ หากเขาสารภาพเช่นนั้น เซี่ยจื่ออันก็ยังเป็นตัวการใหญ่อยู่ดี และแม้ว่าซีเหมินเสี่ยวชิ่งจะได้รับโทษ แต่โทษก็จะไม่หนัก
กุ้ยหยวน เด็กรับใช้ที่เฝ้าหน้าประตู รู้สึกกลัวฮูหยินผู้เฒ่าอย่างเห็นได้ชัด ในจวนไม่มีบ่าวรับใช้คนไหนที่ไม่เกรงกลัวฮูหยินผู้เฒ่า ความกลัวเช่นนี้ได้สั่งสมมาเป็นระยะเวลานาน และแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะล้มลงไปที่พื้นในตอนนี้ และหายใจรวยรินใกล้ตาย พวกเขาก็ยังรู้สึกกลัวเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง