ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 325
อ๋องหลี่มองดูนางเล็กน้อยแล้วขมวดคิ้ว “หม่อมฉันเปล่าทำ”
“ทำสิ ข้ารู้จักเจ้าดี ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา แต่ก็คงจะไม่พูดจาหยาบคายต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้ เจ้าจงใจพูดเรื่องที่ราชครูเหลียงท้องเสีย ซึ่งเขาเป็นคนทะนงตัวคิดว่าตนเองสูงส่ง มีความสุภาพเรียบร้อยในตัวเอง คงจะไม่เกี่ยวกับเรื่องอึ เรื่องฉี่อย่างที่เจ้าโต้แย้งมา และเขาก็ไม่อยากให้เจ้าจดจ่ออยู่ที่ประเด็นนี้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะนิ่งเฉยไม่พูดอะไร ในตอนแรกเขาไม่โต้แย้งกับเจ้า มาถึงภายหลังเขาก็เสียโอกาสแรกไปแล้ว เจ้าบอกว่าเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ฝั่งตรงข้าม ความจริงแล้วเจ้าไม่ได้เห็นอะไร และไม่ได้อยู่ในห้องสุขาด้วย เจ้าแค่ระแวดระวังเขา จึงแอบตามเขาไป และเจ้าก็ได้เห็นเขานั่งยอง ๆ หันหน้าไปทางภูเขาหินจำลอง ดังนั้นเจ้าจึงคาดคะเนตามทิศที่เขามองไป ใช่หรือไม่? เพราะหลังจากนั้นเจ้าก็ไม่ได้พูดออกมาว่าเจ้าเห็นอะไรกันแน่ แค่ขู่ขวัญองค์รัชทายาทกับซีเหมินเสี่ยวชิ่งก็เท่านั้น ตอนที่เจ้าบอกว่าเจ้าเห็น ขาของซีเหมินเสี่ยวชิ่งก็อ่อนแรงทันที”
มู่หรงจ้วงจ้วงพูดพลางมองไปที่อ๋องหลี่พลาง และพูดต่อ “บางทีราชครูเหลียงอาจจะไม่ได้เห็นอะไร แต่ว่าเจ้าพูดอย่างมั่นใจว่าเจ้าที่อยู่ด้านหลังของเขาก็มองเห็น หากเขาบอกบอกว่าเขามองไม่เห็น ก็จะทำให้คนสงสัยว่าเขากำลังช่วยเหลือซีเหมินเสี่ยวชิ่งอยู่ เขาจึงไม่กล้าโต้เถียง กลัวว่าเจ้าจะพูดเรื่องหยาบคายอะไรจนทำให้เขาขายหน้าอีก ดังนั้นคืนนี้ราชครูเหลียง เป็นผู้บริสุทธิ์จริง ๆ”
อ๋องหลี่ขมวดคิ้ว “จินตนาการของเสด็จอาช่างล้ำเลิศเสียจริง แต่ว่า มันไม่ใช่อย่างที่ท่านพูดมา”
“นอกจากนี้ เจ้าจงใจกวนใจเหลียงซื่อเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจให้จื่ออันได้พูดกับเด็กรับใช้คนนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าคืนนี้เจ้าได้ช่วยเหลือจื่ออันไว้จริง ๆ”
อ๋องหลี่มองดูนางอย่างว่างเปล่า “หม่อมฉันเปล่านะ”
“เจ้าบอกข้ามา ว่าใครขอให้เจ้าช่วยจื่ออัน? หากเจ้าเต็มใจที่จะบอก ข้าจะบอกว่าสิ่งที่หลุดร่วงจากปิ่นของจื่ออันคืออะไร” มู่หรงจ้วงจ้วงรู้จุดอ่อนของเขา
ใบหน้าของอ๋องหลี่แลดูเคร่งขรึมเล็กน้อย และเขาก็กัดฟันพูดว่า “หม่อมฉันไม่อยากรู้”
“จริงหรือ? สิ่งที่หลุดไปมันคือหยกหรือว่าทับทิมกันนะ? แต่ก็อาจจะเป็นเพชรก็ได้ อย่างน้อยก็น่าจะเป็นเศษปะการังแดงกระมัง?” มู่หรงจ้วงจ้วงมองสีหน้าของเขาอย่างมีชัย
อ๋องหลี่ไม่แม้แต่จะมองมู่หรงจ้วงจ้วง หันหลังเดินจากไป เพิ่งเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หันหลังและเดินกลับมาอย่างรวดเร็ว “ให้ตายเถอะ คนผู้นั้นที่อยู่หานซาน”
จ้วงจ้วงพูดอาออกมาคำนึงแล้วมองเขาด้วยความตกใจ “อะไรนะ? หวงจู่มู่?”
“มิฉะนั้น ท่านคิดว่าใครจะสามารถสั่งหม่อมฉันได้เล่า? ยังดีที่เซี่ยจื่ออันผู้นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันจะฆ่านางเป็นคนแรก” อ๋องหลี่กล่าวอย่างฉุนเฉียว
จ้วงจ้วงตกใจมากจนกรามแทบจะหลุดออกมา นึกไม่ถึงเลยว่าหวงจู่มู่จะให้เจ้าสามทำเรื่องเช่นนี้ได้ แต่เพราะเหตุใดนางถึงต้องทำเช่นนี้ด้วย? ไม่กี่ปีมานี้นางกับป้าอาเฉออยู่บนเขาหานซาน ไม่สนใจเรื่องทางโลกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นทำไมหวงจู่มู่ถึงใช้เจ้าสาม แต่ไม่ใช้นางล่ะ? ดีร้ายอย่างไรนางก็เป็นถึงองค์หญิงใหญ่เชียวนะ
แต่ว่า… พอมู่หรงจ้วงจ้วงมองดูใบหน้าที่บูดบึ้งเหมือนผักดองเค็มแห้งของอ๋องหลี่แล้ว นางก็มั่นใจ ว่าเขาเหมาะกว่า ในราชสำนักไม่ว่าใครก็ตาม และแม้แต่ฮองเฮายังต้องกลัวเขาเลย
“บนปิ่นปักผมของจื่ออันคือทับทิม!” มู่หรงจ้วงจ้วงที่เห็นว่าเขากำลังดุเดือดเลือดพล่าน ก็รีบบอกออกไป
อ๋องหลี่ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ราวกับว่าเป็นปัญหาที่ติดอยู่ในใจมาเป็นเวลานานแล้วได้รับการแก้ไขในที่สุด “มันคือทับทิมนี่เอง หม่อมฉันก็เดาว่าน่าจะเป็นทับทิมอยู่แล้ว งานฝีมือของราชวงศ์นี้ที่เหมาะจะฝังลงในเครื่องประดับเงิน ถ้าไม่ใช่หยกก็ต้องเป็นทับทิมอยู่แล้ว”
เขาหันกลับมาอย่างพึงพอใจ “เสด็จอาค่อย ๆ ดื่มสุรามงคลไปนะพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันขอตัวไปก่อน”
มู่หรงจ้วงจ้วงผงะ “เจ้าจะไปทั้ง ๆ แบบนี้เลยงั้นหรือ? ข้าเกรงว่าเรื่องนี้มันยังไม่จบ”
“หม่อมฉันไม่สนใจแล้ว วันนี้เป็นวันขึ้นสองค่ำ ทุกเดือนของวันนี้หม่อมฉันจะพาอาจินออกไปว่ายน้ำ”
“เจ้าไม่สนใจคำสั่งของหวงจู่มู่หรือ?” มู่หรงจ้วงจ้วงก้าวไปข้างหน้าแล้วคว้าแขนของเขาไว้ และกล่าวถาม
อ๋องหลี่ปัดมือนางออก “หม่อมฉันเพียงสัญญากับหวงจู่มู่ว่าจะช่วยสองครั้ง และนางบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเมื่อไหร่ถึงค่อยช่วย แต่หม่อมฉันคิดว่ารีบช่วยตั้งแต่เรื่องไม่ทันใหญ่โตมากจะดีกว่า เพื่อป้องกันเผื่อว่าต่อไปเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นจริง ๆ เดี๋ยวมันจะทำให้หม่อมฉันต้องเหน็ดเหนื่อยอีก และอีกอย่าง อย่าได้คิดว่าจื่ออันโง่เขลา อาเจี๋ยก็ยังอยู่ทั้งคนมิใช่หรือ? มีเขาที่เหมือนจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์จ้องมองอยู่ เซี่ยจื่ออันไม่พบเจอกับเรื่องแย่ ๆ หรอก คนที่อยู่หานซานผู้นั้นแค่เกรงว่าเขาที่อยู่ในฐานะผู้สำเร็จราชการจะลงมือไม่สะดวก ดังนั้นจึงให้หม่อมฉันจัดการให้ ถ้าทางจวนมหาเสนาบดีทำอะไรรุนแรงล่ะก็ เขาจะไม่ยืนมองอยู่เฉยอย่างแน่นอน”
พูดจบเขาก็เดินจากไปอย่างสบายใจ