ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 354
เมื่อสั่งการหมดทุกเรื่องแล้ว เขาก็พาซูชิงกับเซียวท่าออกไป
จื่ออันส่งพวกเขาออกจากจวนไปด้วยตนเอง ก่อนที่มู่หรงเจี๋ยจะขึ้นไปบนม้า ก็ได้พูดกับนางว่า “เจ้าเองก็ควรไปรับแม่ของเจ้ากลับมามิใช่หรือ?”
จื่ออันนึกถึงหยวนซื่อที่ตอนนี้ยังอยู่ที่จวนหยวนอยู่เลย และก็ไม่รู้ว่าอ๋องอันจากไปหรือยัง
“ใช่เพคะ หม่อมฉันขอกลับไปที่เรือนเพื่อไปบอกกล่าวอะไรเล็กน้อย” จื่ออันกล่าว และได้สั่งคนในจวนให้เตรียมรถม้าให้ก่อน แล้วนางก็กลับไปที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วน
ผู้ตรวจการได้ไปเชิญคนจากทางศาลาว่าการมาแล้ว เพื่อให้มาตรวจสอบอย่างรอบด้าน มหาเสนาบดีเซี่ยให้ป้าชุ่ยยู่อยู่ที่นี่เพื่อคอยสังเกตการณ์ พอเกี้ยวมาถึง ก็ให้พาซีเหมินเสี่ยวเยว่ไปส่งที่เรือนเซียวเซียงหย้วนของเขา
ก่อนหน้านี้ที่ให้ไปเชิญหมอให้มารักษาผาดแผลของซีเหมินเสี่ยวเยว่ก็ได้มาถึงแล้ว
แม้จะมีรอยแผลไหม้ไม่มาก แต่เพราะบนใบหน้ามีบาดแผล อีกทั้งรอยไหม้ส่วนใหญ่จะทิ้งรอยแผลเป็นไว้
พอหมอได้บอกกับซีเหมินเสี่ยวเยว่ดังนั้นแล้ว นางก็ทรุดตัวลงตรงนั้นและก็ร้องไห้หนักมาก
นางคิดมาตลอดว่า ผู้หญิงที่จะครองใจชายได้นั้น ส่วนมากก็ต้องพึ่งรูปร่างหน้าตา ถ้านางสูญเสียรูปโฉมที่นางภูมิใจมากไปแล้ว แล้วจะครองใจมหาเสนาบดีของราชนักได้อย่างไร?
นางเพียงรู้สึกว่าชีวิตของตนเองได้จบสิ้นลงแล้ว
มหาเสนาบดีเซี่ยปลอบโยนนาง “ทักษะทางการแพทย์ของหมอเหล่านี้ล้วนมีเพียงผิวเผิน รอให้หมอหลวงออกจากวังมาก่อน สถานการณ์อาจแตกต่างออกไปก็เป็นได้”
เมื่อหมอได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็ได้ประสานมือแสดงความเคารพ “ในเมื่อมหาเสนาบดีได้เชิญหมอหลวงมาแล้ว เช่นนั้นข้าก็ต้องขอตัวลากลับก่อน”
พูดจบ หมอก็หิ้วกระเป๋ายาแล้วเดินจากไป
ผู้ที่เรียนแพทย์มีความทะนงตนสูง ย่อมจะรับไม่ได้ที่มีคนอื่นมาดูถูกทักษะทางการแพทย์ของตนเอง เพราะนี่คือขีดจำกัดของพวกเขา
“ไสหัวออกไป!” มหาเสนาบดีก็โกรธขึ้นมาแล้ว วันนี้ที่เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา เขาก็เก็บความโกรธเอาไว้ในใจมาโดยตลอด เพราะว่าเขาไม่อาจพิสูจน์ความจริงในเรื่องที่สงสัยอยู่ได้ เรื่องที่สงสัยนี้เป็นใครก็ต้องรู้สึกว่ามันยากลำบากที่จะหาความจริงกันทั้งนั้น มันทำให้เขาแทบทรุดล้มลงไป
หลังจากที่หมอจากไปแล้ว ซีเหมินเสี่ยวเยว่ที่น้ำตาเอ่อล้นก็มองไปที่มหาเสนาบดีเซี่ย “ท่านพี่คิดว่า ใครเป็นคนวางเพลิงหรือ?”
มหาเสนาบดีเซี่ยถามกลับ “ตอนที่เจ้าอยู่ด้านในได้ยินเสียงอะไรหรือไม่?”
“ไม่ได้ยินเจ้าค่ะ” ซีเหมินเสี่ยวเยว่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “แต่ว่าคนที่วางเพลิงลงกลอนประตูไว้ ดังนั้นเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เป้าหมายที่ต้องการทำร้ายต้องเป็นข้าอย่างแน่นอน ใครที่เกลียดข้าถึงเพียงนี้? นอกจากเซี่ยจื่ออัน ข้าก็นึกไม่ออกจริง ๆ ทว่าเวลานั้นเซี่ยจื่ออันน่าจะพยายามเอาชีวิตรอดอยู่ และลำพังเพียงกำลังของนางคนเดียว คงจะไม่สามารถวางเพลิงได้ เป็นไปได้ไหมว่าผู้สำเร็จราชการจะช่วยนาง?”
มหาเสนาบดีเซี่ยส่ายหัว “ไม่ใช่ ในเวลานั้นเรือนด้านข้างเกิดเหตุเพลิงไหม้ ผู้สำเร็จราชการ ซูชิ และเซียวท่าต่างเข้าไปช่วยกันดับไฟ และพวกทหารองครักษ์ที่พวกเขาพามาด้วยก็ล้วนช่วยดับไฟกันอยู่ที่นั่น ไม่มีใครออกมาทั้งสิ้น”
“บ่าวรับใช้ในจวนเล่า? มีคนของนางหรือไม่?” ซีเหมินเสี่ยวเยว่กล่าวถาม
“ไม่มี นอกจากเสี่ยวซุนกับแม่นมหยางแล้ว ในจวนก็ไม่มีคนที่นางจะสามารถใช้งานได้ อีกทั้งเซี่ยฉวนได้เกณฑ์บ่าวรับใช้ทั้งหมดให้ไปช่วยดูแลในงานแต่ง ตอนที่เกิดไฟไหม้ ทุกคนในจวนล้วนมาช่วยกันดับไฟที่นี่”
“แม่นมหยาง?”
“คนที่ฮองเฮาส่งมา ก็ได้ติดตามหยวนฉุ่ยยวี่ออกจากจวนไป วันนี้ไม่ได้อยู่ในจวน
“เป็นไปได้ไหมว่าจะแอบกลับมา? อุบายของคนในวังร้ายกาจนัก”
มหาเสนาบดีเซี่ยส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้ วันนี้ผู้ที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่ประตูไม่ใช่ผู้ที่เฝ้าประตูแต่เป็นทหารองครักษ์ ทั้งประตูด้านหน้าและด้านหลังล้วนได้รับการเฝ้าระวังอย่างดี หากนางกลับมา และไม่มีคนรู้ ก็ต้องข้ามกำแพงเข้ามาเท่านั้น แต่นางก็เป็นแค่แม่นมแก่ ๆ คนหนึ่ง ทั้งยังไม่รู้วิชาการต่อสู้อีก ย่อมจะไม่มีทางปีนข้ามกำแพงที่สูงของจวนได้”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่รู้สึกท้อใจ “หรือว่าในใจของท่านมีคนที่สงสัยอยู่แล้ว?”
มหาเสนาบดีเซี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เซี่ยจื่ออัน!”