ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 363

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 363

มหาเสนาบดีเซี่ยจู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้น “ไฟไหม้เรือนหอ เป็นฝีมือเจ้า ใช่หรือไม่?”

จื่ออันเผยยิ้มขึ้นมา “ท่านมหาเสนาบดีช่างมีจินตนาการล้ำเลิศนัก หรือว่าท่านจะรู้ว่าผู้ใดเป็นคนทำ”

นางไม่ได้ยอมรับแต่กลับไม่ปฎิเสธ

ซีเหมินเสี่ยวเยว่เอ่ยเสียงเย็น “เป็นเจ้าจริงรึ? ข้าและเจ้ามีความโกรธแค้นอันใดกัน? เจ้าถึงกลับกล้าวางเพลิงเผาข้าจนตาย?”

จื่ออันยิ้มกว้างขึ้น มองใบหน้าโมโหโกรธของซีเหมินเสี่ยวเยว่แต่ทำราวกับผู้บริสุทธิ์ “ฮูหยินเสี่ยวเยว่พูดประโยคนี้ออกมาช่าง… ทำให้ข้าไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรดี ถึงแม้ว่าข้าจะรู้ว่าบาดแผลของกุ้ยหยวนและเพลิงไหม้เรือนด้านข้างเป็นแผนการของฮูหยิน แต่ว่าไม่มีหลักฐาน ข้าจึงมิอาจพูดชี้ชัดออกไปได้ ดังนั้นการที่ถูกฮูหยินกล่าวโทษนั้น ข้าเองก็ไม่อาจยอมรับได้”

ซีเหมินเสี่ยวเยว่ดวงตาจ้องเขม็ง ขุ่นเคืองจนพูดไม่ออก นางในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมท่านปู่ถึงได้ห้ามมิให้นางอย่าเพิ่งจัดการกับแม่ลูกหยวนซื่อ นางนั้นประเมินพวกนางไว้ต่ำเกินไป

ทางด้านนี้นั้นหมดคำพูดที่จะเอ่ยออกมาแล้ว ถึงแม้ว่ามหาเสนาบดีเซี่ยจะยังคงสงสัยและมั่นใจ แต่ว่าเขาไม่มีหนทางที่จะชี้ชัดว่าเป็นนาง

ต่อให้มีหลักฐาน เขาจะยืนกรานให้มีการสอบสวนหรือ? ไม่ จวนมหาเสนาบดีในตอนนี้นั้น มิอาจได้รับผลกระทบจากเรื่องราวผิดถูกเหล่านี้ได้อีก

ส่วนฮูหยินผู้เฒ่าที่นำหยวนซื่อเข้ามาในห้องนั้น หลานยู่ประคองนางไปยังด้านหน้าของเก้าอี้พังยับเยินตัวเก่าที่ยังมิได้ซ่อมแซม ให้นางนั่งลงไป

หยวนซื่อนั้นเอื้อมมือออกมาจับยังพนักเก้าอี้เพียงครู่ ก็ยืนอยู่อย่างนั้น เอ่ย “ฮูหยินมีเรื่องต้องการจะพูดก็เชิญเถิดเจ้าค่ะ ข้ายืนได้เจ้าค่ะ”

ภายในห้องจุดตะเกียงน้ำมันขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว แสงสลัว หน้าต่างปิดสนิท ยากที่จะมีแสงไฟจากทางเดินสาดส่องเข้ามา บนกระเบื้องกระจกนั้นมีแผ่นกระเบื้องวางอยู่ แต่ว่าในคืนเดือนมืดนั้น พระจันทร์ก็ไม่สว่าง ดาวเองก็ส่องเพียงแสงสลัว ภายในห้องนั้นจึงดูแปลกประหลาดและมืดเป็นอย่างมาก

สำหรับหยวนซื่อแล้วนั้น บรรยากาศเหล่านี้นั้นมิได้แตกต่างมากนัก เพราะยังไงเสียนางก็มองไม่เห็น

ฮูหยินผู้เฒ่ามองมายังหยวนซื่อ นึกถึงในตอนที่นางเพิ่งจะเข้าจวนมา ในตอนนั้นนางจริง ๆ แล้วไม่ค่อยที่จะชอบใจหยวนซื่อนัก เพราะว่านางนั้นมีชื่อเสียงมากเกินไป จะนำพาเรื่องยุ่งยากวุ่นวายต่าง ๆ มายังจวนมหาเสนาบดีได้

สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้น เมื่อนางเข้าจวนมาแล้วนั้นกลับปรับปรุงเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่แม้แต่จะท่องบทกวี ทำเพียงดูแลงานภายในจวน

แต่ว่าวาสนาของคนเรานั้นก็เป็นเสียอย่างนี้ ในตอนที่เจ้าไม่ชอบคนผู้นึงนั้น ไม่ว่านางจะทำอย่างไรล้วนผิดไปเสียหมด แม้แต่หายใจก็ยังมีความผิด

ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยกับหลานยู่ “ประคองฮูหยินมายังข้างกายข้านี้”

หลานยู่มุมปากบิดเบ้ แต่ก็ยังตามคำสั่งเดินเข้าไปประคองหยวนซื่อเดินเข้าไป

หลังจากที่หยวนซื่อนั่งลงแล้วนั้น ใบหน้าเรียบเฉยเผชิญกับฮูหยินผู้เฒ่า “ฮูหยินผู้เฒ่าเชิญเข้าเรื่องได้เลยเจ้าค่ะ มืดค่ำแล้ว เลี่ยงมิให้เสียเวลาพักผ่อนของฮูหยินผู้เฒ่า”

ฮูหยินผู้เฒ่ามองมายังนางพลางเอ่ย “ในใจของเจ้าคงจะโกรธเกลียดข้าเป็นอย่างมาก ใช่หรือไม่?”

หยวนซื่อผงกศีรษะ “ใช่เจ้าคะ!”

หยวนซื่อไม่แม้แต่จะไว้หน้า ไม่ปิดบังความโกรธเกลียดของตนแม้แต่น้อย ทำให้แววตาของฮูหยินผู้เฒ่าปรากฎร่องรอยของความโมโหขึ้น

“สาเหตุที่เจ้าโกรธเกลียดข้าคืออะไรกัน?” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยถามอย่างอดทนอดกลั้น

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท