ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 367

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 367

จื่ออันสอบถามถึงข้อแลกเปลี่ยนของหยวนซื่อและฮูหยินผู้เฒ่า หยวนซื่อถึงได้เอ่ยเล่าออกมา อย่างละเอียดถี่ยิบ

จื่ออันเอ่ยถามอย่างกังวลใจ “สามารถนำสัญญาขายตัวของกุ้ยหยวนกลับมาได้นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าจะทำอย่างไรกันให้โทษของซีเหมินเสี่ยวชิ่งลดน้อยลง? พวกเราเองก็มิอาจจะไปขอร้องท่านอ๋องได้”

หยวนซื่อค่อย ๆ ยิ้ม “เจ้าควรที่อ่านกฎหมายของต้าโจวให้มากขึ้นอีก ในกฎหมายนี้มีอยู่ข้อนึง เมื่อคนที่ทำร้ายผู้อื่นนั้นมีอาการบ้าคลั่ง ก็จะสามารถละเว้นโทษหรือลดโทษได้”

จื่ออันส่งเสียง ‘อ่า’ ออกมาคำนึง คาดไม่ถึงว่าต้าโจวเองก็มีกฎหมายข้อนี้ด้วยเหมือนกัน

จื่ออันยิ้มพร้อมเอ่ยออกมา “ท่านแม่ หนังสือเหล่านั้นที่ท่านแม่อ่าน วันนี้เริ่มที่จะมีประโยชน์แล้ว”

“พรุ่งนี้เจ้าไปที่นั่น และเอ่ยกับเหลียงซื่อสักเล็กน้อย เหลียงซื่อจะรู้ได้เองว่าจะหาผู้ใดที่จะสามารถออกมายืนยันได้ว่าซีเหมินเสี่ยวชิ่งมีอาการบ้าคลั่ง” หยวนซื่อเอ่ย

“เจ้าค่ะ วันพรุ่งนี้ข้าจะไปเจ้าค่ะ” จื่ออันเอ่ยออกมา

จนไม่มีคำพูดใดที่จะเอ่ยกันแล้ว

จื่ออันตั้งแต่เช้าก็แบกกล่องยาออกจากจวนไป

นางไปยังบ้านฝั่งมารดาของหยวนซื่อก่อน นำแผนการมาบอกกับเหลียงซื่อ เหลียงซื่อขอบคุณนางเสียยกใหญ่ หลังจากที่นางเอ่ยขอบคุณจื่ออันแล้วนั้น ก็นำวัตถุดิบยาราคาแพง และของขวัญมากมายวางไว้บนรถม้าของจื่ออัน

จื่ออันหลีกเลี่ยงมิได้ คิดคำนวณอยู่ในใจวัตถุดิบยาราคาแพงจำพวกนี้ บวกกับของขวัญเหล่านั้นซึ่งจากที่มองดูนั้นคงจะเป็นจำพวกเงินทองและเครื่องประดับ ทำได้เพียง ไม่เต็มใจรับเอาไว้นัก “ฮูหยินรองเกรงใจกันเกินไปแล้ว ภายหลังทำเยี่ยงนี้มิได้แล้วนะเจ้าคะ ในภายหน้าข้าคงต้องส่งให้มากกว่านี้”

เหลียงซื่อเอ่ยพร้อมถอนหายใจ “เจ้ารับไว้เถอะ ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าข้าขนย้ายมาจากจวนกั๋วกงมากเพียงใด บ้านฝั่งมารดามีเพียงข้าที่เป็นบุตรสาว ท่านพ่อท่านแม่มีเท่าไหร่ล้วนมอบให้ข้า”

ระหว่างทางที่จะไปยังจวนอ๋อง จื่ออันได้เอ่ยถามเสี่ยวซุน “บ้านฝั่งมารดาของหยวนซื่อนี้ร่ำรวยมากหรือ?”

“แน่นอนเจ้าค่ะ บรรพบุรุษของเหลียงซื่อนั้นเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเมือง ในตอนราชวงศ์ไทซูนั้น บรรพบุรุษของเหลียงซื่อก็ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นกั๋วกง ประทานที่ดินให้ราวหนึ่งร้อยไร่ หลังจากนั้นกั๋วกงมิได้อยู่ในราชสำนักต่อ แต่หันมาทำการค้าขายแทน โดยได้ร่วมลงทุนกันกับตระกูลหูเปิดภัตตาคารและทำเหมืองทองคำ แต่น่าเสียดายยิ่งนัก ตระกูลเหลียงทำเงินได้มากยิ่งนัก แต่บุตรหลานกลับอ่อนแอ แต่มิใช่ว่าฮูหยินผู้เฒ่ามิอาจให้กำเนิดบุตรได้ ตระกูลเหลียงนั้นมีบุตรชายมาสองสามคน แต่ล้วนป่วยตายกันทั้งสิ้น นี่ก็ยังมีอีกผู้หนึ่งที่ใกล้จะตายแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น? ป่วยไม่สบายโรคอะไรหรือ?” จื่ออันเอ่ยถาม

“ไม่ทราบเหมือนกันเจ้าค่ะ แต่ว่าได้เชิญหมอมามากมายล้วนแต่ไร้ประโยชน์ เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้กลับได้ยินข่าวว่าใกล้จะไม่ไหวแล้วนะเจ้าคะ อดทนได้จนถึงตอนนี้ก็ถือว่ามีโชควาสนาแล้ว ช่างน่าสงสารเสียจริง ฮูหยินจวนเหลียงกั๋วกงมีอายุสี่สิบห้าปีแล้ว ถึงได้คลอดบุตรชายคนนี้ออกมา ปีนี้พึ่งจะมีอายุครบสิบห้าปีเองเจ้าค่ะ”

“ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรกันรึ?” จื่ออันเอ่ยถาม

“ไม่รู้ได้เจ้าค่ะ ฟังจากที่เขาพูดกันเป็นโรคหัวใจเจ้า เป็นมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาแล้ว กี่คนก่อนหน้านี้ก็เป็นเยี่ยงนี้ แต่ว่ามิอาจเชื่อได้ ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้คนเล่าลือกันทั้งสิ้น”

หากเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดแล้วนั้น? หากอาการหนัก ก็จะมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น สามารถมีอายุจนถึงสิบปีนั้น นับว่าไม่เลวนัก แต่ว่าหากยังยืนหยัดจนถึงอายุสิบห้าปี อาจจะเป็นจำพวกไม่รุนแรงเท่าไหร่

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ที่นี่มิอาจจะใช้ทางเลือกการผ่าตัดได้ ดังนั้นจื่ออันนึกคิดได้แต่เพียงเสียใจกับคุณชายเหลียงผู้นั้น แต่มิได้มีใจอยากจะไปรักษาอาการให้แก่เขา

เมื่อไปถึงยังจวนของอ๋องเหลียงแล้วนั้น อ๋องเหลียงเพิ่งจะลุกขึ้นจากที่นอน จึงได้สั่งให้คนต้อนรับจื่ออันให้นั่งลง เขาจึงได้กินอาหารเช้าไปอย่างช้า ๆ

“เจ้าจะกินด้วยหรือไม่?” อ๋องเหลียงกินเข้าไปแล้วถึงครึ่งหนึ่ง ถึงนึกขึ้นได้ว่าจะต้องเอ่ยถามจื่ออัน

“หม่อมฉันกินมาแล้วเพคะ”

ในระหว่างทางที่มานั้นนางกินหมั่นโถวเข้าไปแล้ว เพราะว่าอยากจะเร่งรีบมารักษาให้แก่เขา แต่เขานี้สิ กลับจะเพิ่งตื่นนอนขึ้นมากินอาหารเช้า

หลังจากที่กินอาหารเช้าไปแล้ว คิ้วเลิกขึ้นแววตาขบขันมองมายังจื่ออัน “วันนี้ข้ามีของขวัญชิ้นหนึ่งที่จะมอบให้แก่เจ้า”

“ของขวัญ?” จื่ออันใจสั่นไหว ปิดบังความยินดีในดวงตาไว้ ดูท่าแล้ววันนี้นางคงจะร่ำรวยขึ้นแล้ว

อ๋องเหลียงเอ่ย “ไม่ผิด พูดให้ถูกแล้วมิใช่ข้าที่มอบให้เจ้า แต่เป็นเสด็งลุงที่มอบให้แก่เจ้า วันนี้เขาส่งมาตั้งแต่เช้า เขาจะออกจากเมืองหลวงหลายวัน ตอนนี้ได้ออกเดินทางไปแล้ว”

“เขาจะออกไปจากเมืองหลวง? ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเขาเอ่ยถึงมาก่อน” จื่ออันเอ่ยออกมาอย่างแปลกใจ

“มีเรื่องอะไรล้วนต้องบอกแก่เจ้างั้นหรือ?” อ๋องเหลียงปรบมือขึ้น “เข้ามา นำของขวัญเข้ามาได้”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท