ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 376
นางเห็นใบหน้าของซีเหมินเสี่ยวเยว่ก็ชะงักไปเล็กน้อย “บาดแผลรุนแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” วันนั้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ นายท่านรองซีเหมินได้กลับมาเล่าให้ฟังแล้ว คนที่จวนก็รู้เรื่องนี้
ซีเหมินเสี่ยวเยว่กล่าว “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ หมอหลวงบอกว่ารอยแผลเป็นนี้สามารถกำจัดออกไปได้”
หลี่ซื่อก็รู้สึกวางใจ “เช่นนั้นก็ดี” หน้าตาเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของผู้หญิง หากเสียโฉมแล้ว ตำแหน่งของซีเหมินเสี่ยวเยว่ในจวนมหาเสนาบดีก็จะไม่มั่นคง
“ฮูหยินผู้เฒ่า!” หลี่ซื่อที่เห็นฮูหยินผู้เฒ่าลงจากรถม้ามา ก็รีบเข้าไปช่วยพยุงทันทึ
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มตอบ “คืนนี้ต้องรบกวนจวนกั๋วกงแล้ว คนกลุ่มใหญ่มาที่นี่ ข้านั้นรู้สึกเกรงใจเสียจริง”
“ฮูหยินผู้เฒ่าอย่าได้พูดเช่นนั้น พวกเราคือครอบครัวเดียวกันแล้ว ที่ท่านสามารถมาได้ พวกเราก็รู้สึกยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง” หลี่ซื่อกล่าวอย่างให้เกียรติ
เหลียงซื่อยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา มองทุกอย่างเบื้องหน้าด้วยท่าทีที่สงบ ตอนที่หลี่ซื่อพยุงฮูหยินผู้เฒ่าเข้ามา นางก็ไม่ได้หลบเลี่ยงอะไร เผชิญกับดวงตาของหลี่ซื่อที่มองมาอย่างมีชัย
“ฮูหยินผู้เฒ่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยแล้ว” เหลียงซื่อกล่าวเบา ๆ
ฮูหยินผู้เฒ่ามองดูเหลียงซื่อ ที่ไม่มีร่องรอยของความผิดปกติในดวงตาเลยสักนิดเดียว ราวกับว่าเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จื่ออันกับเซี่ยหว่านเอ๋อก็เดินตามเข้ามาด้วย เหลียงซื่อก็พยักหน้ากับจื่ออัน แต่ว่าก็ไม่แสดงออกว่าสนิทสนมอะไรกัน
หลังจากที่เซี่ยหว่านเอ๋อเห็นดังนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “งูกับหนูอยู่ในรังเดียวกัน เซี่ยจื่ออัน เจ้ากับเหลียงซื่อไปญาติดีกันตั้งแต่ตอนไหนหรือ?”
ตาวเหล่าต้าได้ยินดังนั้น ก็ลูบมีดที่อกด้วยความเคยชิน แต่ก็ได้ลูบไปถูกแส้ ซึ่งแส้นี้จื่ออันเป็นคนให้เขามา มีดใช้งานไม่ได้ชั่วคราว ได้แต่ใช้แส้ไปก่อน
เขาเอ่ยถามเสี่ยวซุนเบา ๆ “นางเพิ่งจะด่าคุณหนูใหญ่ไปใช่หรือไม่?”
“ใช่ แต่ว่าอดทนไปก่อน นางยังด่าไม่ถึงสามครั้ง หากคุณหนูใหญ่ถูกนางด่าครบสามครั้ง เจ้าก็สามารถลงมือได้แล้ว” เสี่ยวซุนกล่าว
“ข้าเข้าใจแล้ว” ตาวเหล่าต้าตอบรับ
การตกแต่งที่จวนกั๋วกงหรูหรากว่าที่จวนมหาเสนาบดีมาก ดูโอ่อ่าและมีกลิ่นอายขุนนางชั้นสูงในสมัยราชวงศ์จิ้น แต่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เพราะของหลายอย่างในจวนแห่งนี้ก็ดูเก่าล้าสมัย นอกจากในส่วนของห้องโถงใหญ่แล้ว สถานที่อื่น ๆ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการซ่อมแซมมาเป็นเวลานาน
ห้องโถงใหญ่หันหน้าไปทางสนามหญ้าที่อยู่ด้านนอกซึ่งปลูกดอกโบตั๋นไว้สองสามกระถาง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกมันจะเบ่งบาน ทว่าพวกมันก็ยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ข้าง ๆ ดอกโบตั๋นก็เป็นพุ่มดอกแปะเจียก บนทางเดินก็มีดอกไห่ถังที่ปลูกไว้ในกระถางวางอยู่สองสามต้นเช่นกัน
บนขั้นบันไดหยกขาวก็มีรอยถลอกอยู่บ้างเล็กน้อย แม้จะให้คนมาขัดถูแล้วแต่ก็ยังมองเห็นถึงรอยนั้น
ผู้อาวุโสที่สุดของตระกูลจิ้นกั๋วกงได้นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่เรียบร้อยแล้ว ซีเหมินไท่เป่าได้รับเกียรติให้นั่งอยู่สูงสุด
จื่ออันมองเข้าไป ก็เห็นผมและเคราของเขาเป็นสีขาว และเขาก็สวมใส่ผ้าต่วนสีเขียว แม้จะดูเก่าอยู่เล็กน้อย แต่ว่าก็ดูประณีตเรียบร้อย
ใบหน้าแลดูน่าเกรงขาม แววตาปราดเปรื่อง เมื่อนั่งอยู่ตรงนั้น ก็ทำให้คนรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาอย่างหาคำมาอธิบายไม่ได้
นี่เป็นผลพวงมาจากการสั่งสมความสุขุม และอดทนของผู้ซึ่งมีประสบการณ์อันโชกโชน ซึ่งคนธรรมดาทั่วไป จะสร้างออร่าอันน่าเกรงขามเช่นออกมามิได้
เช่นเดียวกับมู่หรงเจี๋ย แม้ว่าเขาจะนั่งในท่วงท่าสบาย ๆ บนเก้าอี้ และแม้บนใบหน้าของเขาจะมีรอยยิ้ม ทว่าบนตัวของเขาก็ยังมีกลิ่นอายของนักรบและการฆ่าฟันอยู่มิเปลี่ยน
ออร่าของเขา ได้มาจากประสบการณ์ในสนามรบ
หลังจากที่ทุกคนเข้าไปนั่งกันหมดแล้ว ก็ต้องพูดคุยทักทายกันเล็กน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้
ซีเหมินไท่เป่ากับมหาเสนาบดีเซี่ยก็พูดคุยกันไม่กี่คำ ถามไถ่สถานการณ์ต่าง ๆ กันเล็กน้อย เขาตอบคำถามได้ดี ทำให้ไท่เป่าพึงพอใจ
ในตอนที่กำลังพูดคุยกันอย่างปรองดองนี้ เหลียงซื่อก็ได้เข้ามา