ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 381

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 381

เหลียงซื่อยังไม่ได้กล่าวอะไร จิ้นกั๋วกงก็พูดเสียงดังขึ้นมา “นางจะพูดอะไรได้อีก? ทั้งวี่ทั้งวันก็เอาแต่คิดฟุ้งซ่านว่ามีคนทำร้ายนาง เหตุเพลิงไหม้เดิมมันก็เป็นแค่อุบัติเหตุอยู่แล้ว แค่คิดดูก็รู้ จวนมหาเสนาบดีไม่มีทางลงมือกับคนของจวนกั๋วกงของเราเป็นแน่ เรื่องนี้ทางฝั่งของจวนมหาเสนาบดีจะได้ประโยชน์อันใด? ถ้าตามที่นางกล่าวหามา เพื่อที่จะฆ่าคุณหนูใหญ่ของจวนมหาเสนาบดี ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่เหลวไหล คนเป็นพ่อจะฆ่าบุตรสาวของตนเองได้ลงคออย่างไร และถึงแม้จะฆ่าได้ ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างเหตุเพลิงไหม้เสียใหญ่โต คนที่มีสมองย่อมจะไม่คิดเช่นนี้ และจะว่าไปแล้ว หลังจากที่เสี่ยวเยว่ของพวกเราแต่งออกไป ก็พูดกันดีแล้วว่านางคือผิงชี แต่เซี่ยจื่ออันกลับไม่คุกเข่าโขกศีรษะคำนับ และไม่ยกน้ำชา ตามกฎแล้ว เดิมทีก็สามารถสั่งสอนนางได้ เหตุใดต้องลอบวางเพลิงด้วยเล่า?”

ตาวเหล่าต้ากับเสี่ยวซุนที่ยืนอยู่นอกประตู ก็ได้ฟังคนที่อยู่ด้านในห้องโถงพูดคุยกันมาโดยตลอด

หลังจากที่ตาวเหล่าต้าได้ยินสิ่งที่จิ้นกั๋วกงพูด ก็กระซิบถามเสี่ยวซุน “ตาเฒ่าชั่วช้านี้น่ารังเกียจเสียจริง เจ้าว่าเขาจะรังแกคุณหนูใหญ่หรือไม่?”

เสี่ยวซุนกล่าวเสียงค่อย “รังแก”

ตาวเหล่าต้าเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดคำเดิม ๆ เสียงเบา “หนึ่งครั้ง”

“อะไรนะ?” เสี่ยวซุนฟังแล้วก็รู้สึกงวยงง เลยทวนคำถามอีกครั้ง

“ก็สามครั้งไง รังแกครบสามครั้งค่อยลงมือมิใช่หรือ” ตาวเหล่าต้ากดเสียงต่ำ

เสี่ยวซุนกระทุ้งเอวเขาเล็กน้อย “อย่าเพิ่งวู่วาม ในสถานการณ์แบบนี้ หากไม่มีคำสั่งของคุณหนูใหญ่ อย่าลงมือโดยพละการเด็ดขาด จะได้ไม่ทำให้คุณหนูใหญ่เสียแผน”

ตาวเหล่าต้าที่เห็นเสี่ยวซุนกล่าวอย่างจริงจังแล้ว ก็รีบพยักหน้าในทันที “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว”

ที่ด้านในห้องโถง ไท่เป่าไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไรที่จิ้นกั๋วกงพูดแทรกขึ้นมา เขายังคงพูดออกไปด้วยท่วงท่าที่สง่าผ่าเผย “เก็บเรื่องการคำนับนี่เอาไว้ก่อน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันแต่งงาน ข้าเองก็รู้ไม่มาก พูดเรื่องหลักก่อนดีกว่าจะได้มาพิจารณากันว่าใครถูกใครผิด”

เขามองไปที่ซีเหมินเสี่ยวเยว่ “ตอนที่ยกน้ำชา โดยทั่วไปแล้ว คนจากฝั่งของเจ้าสาวจะไม่ได้อยู่ด้านในกัน ฮูหยินรองจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ยไม่เคารพเจ้า?”

ซีเหมินเสี่ยวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย “เรื่องนี้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าอาสะใภ้รองไปได้ยินมาจากที่ใดมา เป็นไปได้ว่าบ่าวรับใช้อาจจะออกไปพูดกันข้างนอก ข้าเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่ อย่างไรก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน”

จื่ออันยิ้มออกมาเล็กน้อย ซีเหมินเสี่ยวเยว่ลืมสิ่งที่ตนเองเพิ่งจะพูดไปแล้วจนได้ เพราะนางรู้สึกไม่พอใจจึงได้ไปบ่นให้ฮูหยินรองฟัง เมื่อใครก็ตามที่สร้างเรื่องเท็จขึ้นมา คน ๆ นั้นก็จะสูญเสียความมั่นใจ เมื่อไม่มีความมั่นใจแล้วก็เกิดข้อผิดพลาด

ไท่เป่าไม่ได้พูดแย้งนางขึ้นมา แต่กลับถามนามด้วยท่าทีที่แลดูเป็นมิตร “เจ้าเคยบอกว่า เจ้าได้ห้ามปรามไม่ให้ฮูหยินรองไปแก้แค้นคุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ย แล้วฮูหยินรองบอกกับเจ้าว่าอย่างไร?”

“อาสะใภ้รองพูดว่าจะไม่ให้อภัยนางเด็ดขาด ยังบอกอีกว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ต้องให้บทเรียนนางสักเล็กน้อย” ซีเหมินเสี่ยวเยว่กล่าว

ไท่เป่าพยักหน้า และลูบเคราเล็กน้อย “ช่วงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ คือเวลาเดียวกันกับตอนที่มีการเชิดมังกรไฟใช่หรือไม่?”

“ใช่เจ้าค่ะ เป็นตอนที่คณะเชิดมังกรไฟกำลังเดินขบวนมา พวกคุณชายคุณหนูทั้งหลายต่างร่วมเดินตามขบวนมังกรไฟมาด้วย แม้กระทั่งหลานสาวของไท่จวินก็แทบจะโดนไฟจากมังกรไฟเผาตัวแล้ว โชคดีที่นางฝึกฝนวิชาการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก จึงสามารถหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว” ซีเหมินเสี่ยวเยว่กุมหน้าอก แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา

“อืม หลานสาวของเหล่าไท่จวินคือ เฉินหลิวหลิ่วใช่หรือไม่? ข้าจำเด็กคนนี้ได้ นางเป็นเด็กประมาทเลินเล่อจริง ๆ หลังจากนั้นก็ไม่โดนไฟไหม้ใช่หรือไม่? นี่มันอันตรายเกินไป จวนมหาเสนาบดีของพวกเจ้าทั้งที่มีการเชิดมังกรไฟแต่กลับไม่มีมาตรการดูแลความปลอดภัยเลยสักนิดอย่างนั้นหรือ?” ไท่เป่าถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

ซีเหมินเสี่ยวเยว่พอได้ยินว่าเขาเป็นห่วงเฉินหลิวหลิ่ว นางจึงรีบตอบ “นางไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ท่านปู่ห้าวางใจได้ นางยังสบายดี ในเวลานั้นมีคนเดินร่วมขบวนเป็นจำนวนมาก บ่าวรับใช้ในจวนมากกว่าครึ่งก็ตามมาด้วย หากเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ ทางจวนจะต้องมีวิธีจัดการอย่างแน่นอน”

ฮูหยินผู้เฒ่าฟังไปฟังมา ก็นั่งลงไปใหม่อีกครั้ง แต่ว่ายิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง สิ่งที่ไท่เป่าถามดูเหมือนจะเป็นคำถามที่เบา ไม่รุนแรง แต่กลับทำให้รู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้คือหลุมพราง

นางอยากจะเตือนสติซีเหมินเสี่ยวเยว่ จึงได้กล่าวออกไป “เสี่ยวเยว่ เจ้าลุกขึ้นมาก่อนเถิด เรื่องนี้ได้ถูกส่งให้กับทางศาลาว่าการเป็นผู้ตรวจสอบแล้ว คนที่มือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง เจ้าอย่าพูดอะไรให้มากความเลย ในใจของทุกคนล้วนรู้ดีอยู่แล้ว”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท