ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 387
ซีเหมินเสี่ยวเยว่อดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ตะคอกใส่เหลียงซื่ออย่างเดือดดาล “ท่านตามมาราวีข้าไม่เลิกรา ต้องการจะทำอะไรกันแน่? ข้าก็ถูกท่านทำร้ายจนมีชะตากรรมเช่นนี้แล้ว ท่านยังไม่พอใจอีกหรือ?”
พรุ่งนี้คนของศาลาว่าการก็จะมาหานางแล้ว นางคงจะต้องติดคุกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหลียงซื่อยังจะตามมาราวีนางไม่เลิกราอีก
จิ้นกั๋วกงที่ยังขุ่นเคืองกับการกระทำของนางเมื่อครู่นี้ พอตอนนี้มาเห็นว่านางจงใจมาขวางทางซีเหมินเสี่ยวเยว่เอาไว้อีก ก็ทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริง ๆ แล้วพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “เจ้ายังอยากยังทำอะไรอีก? มีอะไรก็มาลงกับข้านี่”
เหลียงซื่อหันไป แล้วยิ้มให้อย่างเยือกเย็น “วางใจเถิด ท่านพ่อ ในเมื่อวันนี้ข้ายอมทุ่มหมดตัว ก็ย่อมจะไม่เหลือเยื่อใยอะไรอีก บัญชีนี้ที่มีต่อตระกูลซีเหมิน พวกเราค่อยชำระกันภายหลัง ตอนนี้ข้าต้องการชำระบัญชีแค้นกับจวนมหาเสนาบดี”
จิ้นกั๋วกงที่เห็นว่านางดื้อดึงเช่นนี้ ซึ่งแต่ต่างจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ก็โมโหจนดวงตาขุ่นมัว สั่งคนให้ปิดประตูใหญ่ และกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “ดี ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะชำระบัญชียังไง เด็ก ๆ ไปเก็บของที่เป็นของฮูหยินรองให้หมด บัญชีนี้ได้ถูกชำระแล้ว นางก็ควรไสหัวออกไปจากที่นี่ได้แล้ว”
ดูเหมือนว่าถ้าไม่เด็ดขาด นางก็คงจะไม่รู้ถึงความร้ายกาจ
“ท่านพ่อ!” นายท่านรองซีเหมินรีบพูดขึ้นมา “ทำเช่นนั้นมิได้นะขอรับ ท่านจะทำเช่นนั้นมิได้”
จิ้นกั๋วกงชี้หน้าด่าลูกชายของตนเอง “เจ้าจะเก็บผู้หญิงปากร้ายเช่นนี้ไว้ทำไม? เจ้าช่วยทำตัวให้มีประโยชน์บ้างได้ไหม!”
นายท่านรองซีเหมินมองดูพ่อของตนเองด้วยสายตาที่ทุกข์ระทม เดิมทีเขาก็อยากจะเตือนสติพ่อว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ล้วนเป็นเหลียงซื่อที่เป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายในจวนทั้งหมด จวนกั๋วกงจึงได้มีความเป็นอยู่ที่หรูหราอย่างเช่นทุกวันนี้ หากเหลียงซื่อจากไป จวนกั๋วกงในภายภาคหน้าก็ไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายเช่นนั้นอีกแล้ว
เพียงแต่ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก จึงไม่สะดวกที่จะพูดออกมา ได้แต่หวังว่าพ่อจะคิดได้เอง
แต่ว่าท่านกั๋วกงที่กำลังโกรธอยู่จะคิดอะไรได้ลึกซึ้งขนาดนั้น? บวกกับเวลาที่ล่วงเลยมาเป็นเวลาหลายปีแล้วที่เหลียงซื่อได้มอบความสะดวกสบายให้กับเขา ซึ่งเขาก็ได้ให้ความสำคัญกับนางแค่ในช่วงปีแรก ๆ เท่านั้น หลังจากนั้นก็เกิดเป็นความรู้สึกเคยชิน มองเป็นรายได้ส่วนนึงของจวน จะจำได้ที่ไหนว่าเหลียงซื่อเป็นผู้ที่ขนเงินทองมาจากบ้านเดิมของนาง?
ใครจะไปรู้ว่านางไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่มองไปที่จื่ออัน “คุณหนูใหญ่เซี่ย บัญชีที่เกิดเพลิงไหม้ที่เรือนด้านข้าง ท่านต้องการจะชำระบัญชีร่วมกับข้าหรือไม่?”
จื่ออันรู้ว่าที่วันนี้นางให้ตนมาด้วย ไม่ได้จะให้นางมาดูฉากที่สนุกสนานเพียงอย่างเดียวแน่นอน เหลียงซื่อต้องการเปิดโอกาสให้นาง
เอาเถอะ อย่างไรก็ตาม บัญชีแค้นนี้ก็ถึงเวลาต้องชำระแล้ว จะชำแค้นที่จวนมหาเสนาบดีก็ดี หรือจะที่จวนกั๋วกงนี่ก็ได้ ขอเพียงเป้าหมายที่ต้องชำระไม่ผิดตัวก็พอ
ประตูใหญ่จวนกั๋วกงถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา บ่าวรับใช้ต่างถูกสั่งให้เฝ้าอยู่ด้านนอก ตาวเหล่าต้ากับเสี่ยวซุนก็รออยู่ด้านนอกเช่นกัน เขาหยิบแส้ขึ้นมาและนั่งอยู่ตรงขั้นบันไดด้านหน้าระเบียง ฟังความเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ด้านใน หากมีอะไรที่ไม่ชอบชอบมาพากล เขาก็จะได้พังประตูเข้าไป
เซี่ยหว่านเอ๋อดึงตัวจื่ออันไป และพูดดุเสียงดัง “เจ้าอย่ามากความ ที่นี่เป็นจวนกั๋วกง เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าด้วย? อย่าได้คิดทำให้จวนมหาเสนาบดีขายหน้านะ”
เซี่ยหว่านเอ๋อกังวลว่าจื่ออันจะไปทำให้ทางจวนกั๋วกงขุ่นเคือง แล้วทางนั้นจะไม่สนับสนุนนาง ท่านพ่อเคยกล่าวไว้ว่า จิ้นกั๋วกงผู้นี้สามารถพูดสนับสนุนนางต่อหน้าพระพักตร์ฮองเฮากับหวงไท่โฮ่วได้ วันนั้นที่องค์รัชทายาทโกรธเคือง นางยังต้องหวังพึ่งทางจวนกั๋วกงอยู่
จื่ออันกล่าวอย่างเย็นเยียบ “ข้าก็ไม่ได้จะรักษาหน้าตาอะไรอยู่แล้ว แล้วจะกลัวขายหน้าทำไม?”
“หากเจ้าไม่ใช่คนของจวนมหาเสนาบดี ใครเขาจะสนว่าจะเจ้าจะสนใจหน้าตาหรือไม่? ยังไงเจ้าก็ต้องหุบปาก มิเช่นนั้นได้เห็นดีกันแน่” เซี่ยหว่านเอ๋อพูดขู่
ในขณะที่สองคนพี่น้องนี้กำลังถกเถียงกันอยู่ เหลียงซื่อก็เข้าไปกระชากผมของซีเหมินเสี่ยวเยว่ และตะคอกอย่างดุร้าย “พูดมา ทำไมถึงคิดที่จะสังหารข้า?”