ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 390
เซี่ยหว่านเอ๋อรู้สึกโกรธมาก ตอนที่ซีเหมินเสี่ยวเยว่แต่งเข้ามานางก็ไปคุกเข่าโขกหัวคำนับและยกชาให้นาง อีกทั้งยังเรียกนางว่าท่านแม่ หากซีเหมินเสี่ยวเยว่จะต้องหย่าออกไป เช่นนั้นนางก็คำนับไปโดยเปล่าประโยชน์ใช่ไหม? นางได้มารดาที่ไร้ประโยชน์เพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้วสินะ
เดิมทีคิดว่าซีเหมินเสี่ยวเยว่จะมีความร้ายกาจ สามารถสนับสนุนอะไรนางได้บ้าง แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่า ดูดีแต่กลับใช้การอันใดมิได้ สวยแต่รูปจูบไม่หอม
นางรู้สึกผิดหวังมากจริง ๆ
จื่ออันไม่ได้สนใจเรื่องของทางนั้น นางเพียงพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ทางนี้ถึงเรื่องการหย่าร้าง
“ฮูหยินผู้เฒ่า เรื่องหย่าร้าง วันนี้ท่านช่วยให้คำตอบกับข้าด้วย”
ฮูหยินผู้เฒ่ายื่นมือออกไปดึงตัวนางมานั่ง ใบหน้าแลดูใจดีอย่างบอกไม่ถูก “จื่ออัน เจ้าโกรธเกลียดย่าอย่างข้ามาก ใช่หรือไม่?”
จื่ออันยิ้มเย้ยหยัน “คำพูดของฮูหยินผู้เฒ่า ทำให้ข้ารู้สึกสะเทือนใจยิ่งนัก”
ฮูหยินผู้เฒ่าโบกมือ มองนางด้วยท่าทางที่เหมือนจะรู้สึกผิด “ย่ารู้ว่าเจ้าเกลียดย่าจริง ๆ และก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่ย่าทำนั้นไม่ถูกต้อง ปฏิบัติต่อพวกเจ้าสองแม่ลูกอย่างไม่เป็นธรรม แต่ว่าเจ้าก็ต้องเข้าใจย่าด้วยว่าย่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หลินหลินคือเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวในจวน แต่กลับไร้เดียงสามากเช่นนั้น หากข้าไม่ส่งเสริมน้องสาวของเจ้า ต่อไปจวนมหาเสนาบดีจะอยู่อย่างไร?”
จื่ออันเพียงรู้สึกขนลุกขึ้นมาทั้งตัวก็เท่านั้น “ฮูหยินผู้เฒ่าตอบมาเพียงอย่างเดียวว่าตกลงหรือไม่ตกลงก็พอ”
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มอย่างขมขื่น “หากเจ้ายังยืนกรานเช่นนั้น ข้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับปากเจ้า”
“ยินยอมก็ดีแล้วเจ้าค่ะ หากยินยอม ก็ให้ท่านมหาเสนาบดีเขียนหนังสือหย่าร้างภรรยาตรงนี้เลย ต่อจากนี้ ต่างคนต่างจะได้มีความสุขกันเสียที” แน่นอนว่าจื่ออันไม่ปล่อยให้ยื้อเวลาอีกต่อไป
ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงกุมมือของจื่ออันไว้ สีหน้าของนองแลดูอ้อนวอน แต่ว่าเจ้าอย่าจากไปพร้อมกับแม่ของเจ้าเลยนะ อยู่ในจวนเป็นเพื่อนย่าไปก่อน ดีไหม? ย่าก็แก่มากแล้ว ไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ เจ้าคือคุณหนูใหญ่ของจวนมหาเสนาบดี ทั้งยังเกิดจากภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย หากย่าไม่เห็นเจ้าอยู่ใกล้ ๆ ในใจก็ไม่อาจจะสงบได้”
หญิงชราคนนี้เจ้าเล่ห์มาโดยตลอด และมีความเป็นผู้นำสูง นางจะไม่มีทางพูดจาเช่นนี้ออกมาง่าย ๆ แต่ว่าตอนนี้กลับพยายามทำเหมือนว่าเสียใจเพื่อขอร้องนาง เบื้องหลังวางแผนการอะไรไว้กันนะ?
จื่ออันไม่มีทางเชื่อว่านางจะสำนึกผิดจริง ๆ ได้หรอก หญิงชราผู้นี้ใจดำอำมหิต ในสายตาของนางมีเพียงผลประโยชน์ ไม่ได้มีความรักอันใดเลย
“ฮูหยินผู้เฒ่าวางใจได้ ข้าจะอยู่ในจวนต่อไป จนกว่าจะได้แต่งออกไป ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านเอง!” จื่อเอายิ้มเบา ๆ และลูบหลังมือของนาง ดวงมีประกายของความเยือกเย็น ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านอย่างดีเลย ท่านจะเล่นตุกติกอะไร ข้าก็จะเล่นกับท่านเอง
เหมือนมีน้ำตาเอ่ออยู่ที่ดวงตาของฮูหยินผู้เฒ่า “เช่นนั้นก็ดี อายุยิ่งมากขึ้น ก็ยิ่งไม่อยากจะให้คนที่อยู่ใกล้ ๆ จากไปไหน ข้ากับแม่ของเจ้าแม้ว่าจะไม่มีวาสนาต่อกัน แต่พอนางต้องการจากไป ข้าเองก็ลำบากใจเหมือนกัน”
จื่ออันยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่แสนเยือกเย็น “ฮูหยินผู้เฒ่าวางใจเถิดเจ้าค่ะ แม้ว่าท่านแม่จะหย่ากับท่านพ่อ นางก็ไม่ออกไปจากจวนมหาเสนาบดีหรอกเจ้าค่ะ ในจวนยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่เป็นของท่านแม่มิใช่หรือเจ้าคะ? พื้นที่ส่วนนั้น สามารถปลูกเรือนขึ้นมาใหม่ได้ พวกเราจะอยู่เป็นเพื่อนท่านต่อไป ดีไหมเจ้าคะ?”
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มขึ้นมาในทันที “เช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ ถ้าทำแบบนั้นก็ยังถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่”
ในตอนนี้เอง ที่จื่ออันได้เข้าใจสิ่งที่นางต้องการแล้ว นางอยากให้ท่านแม่ย้ายเข้าไปอยู่ที่ด้านหลังของสวนดอกไม้ เมื่อย้ายไปแล้ว นางก็จะได้ลงมือได้สะดวกขึ้น
ป่าไผ่คืออาวุธที่แข็งแกร่งของนาง
แต่ว่าใครจะไปรู้ได้เล่า? บางทีอาวุธนี้ สุดท้ายแล้วอาจจะถูกเซี่ยจื่ออันคนนี้ใช้งานก็เป็นได้?