ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 394

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 394

“ดี ในเมื่อท่านแม่ไม่ยินยอมจะคุยกับเขา เช่นนั้นข้าจะออกไปบอกให้เขากลับไป” จื่ออันพูดแล้วก็ลุกออกไป

จื่ออันเดินออกมา มหาเสนาบดีเซี่ยก็จ้องไปที่นาง แล้วยิ้มเย้ยหยัน “เจ้าพอใจหรือยัง?”

จื่ออันมองดูเขาด้วยใบหน้าที่สงบ “มีสิ่งใดน่าพึงพอใจหรือเจ้าคะ? ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างก็ดำเนินไปตามที่มันควรจะเป็นอยู่แล้ว”

“เรียกนางออกมา ข้ามีเรื่องจะคุยกับนาง” เขาโบกมือเล็กน้อย แสดงท่าทางให้รู้ว่าไม่อยากคุยกับจื่ออัน ดูค่อนข้างจะฉุนเฉียว

จื่ออันพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย “ไม่ ท่านเมาแล้วก็กลับไปเถิด ที่นี่ไม่มีใครอยากคุยกับท่าน”

มหาเสนาบดีเซี่ยจ้องจื่ออันด้วยสายตาที่ดุร้าย “เซี่ยจื่ออัน แม้ว่าข้าจะหย่ากับแม่ของเจ้าแล้ว แต่เจ้าก็ยังเป็นบุตรสาวของข้าเซี่ยหวายจุนผู้นี้ ทั้งข้าวปลาอาหารที่เจ้าทาน กับเสื้อผ้าอาภรที่เจ้าสวมใส่ ล้วนเป็นของจวนข้าทั้งสิ้น เจ้ากลับกล้าพูดจาโอหังกับข้าถึงเพียงนี้เลยหรือ เชื่อหรือไม่ว่าข้าฉีกปากเจ้าให้ขาดได้?”

จื่ออันมองดูเขา ดวงตาค่อย ๆ ทวีความโหดร้ายยิ่งขึ้น “ท่านมหาเสนาบดีช่างเป็นผู้สูงส่งที่หลงลืมง่ายเสียนี่กระไร เซี่ยจื่ออันได้ตายไปตั้งแต่ที่ถูกบังคับให้อภิเษกครานั้นแล้วนี่? ท่านฆ่าลูกสาวด้วยมือของท่านเอง”

มหาเสนาบดีเซี่ยยิ้มอย่างแดกดัน “เหลวไหล หากเจ้าตายไปแล้วจริง ๆ ก็ดีน่ะสิ อย่างน้อย ๆ ข้าก็ยังคิดว่าเจ้าเป็นลูกสาวของข้าอยู่ แต่ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสองคนได้ขาดกันสิ้นแล้ว จะไม่มีสายใยของความเป็นพ่อลูกกันอีกต่อไป”

จื่ออันตอบกลับด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือก “ตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่เคยคิดว่านางเป็นลูกเลยสักนิด แต่ในตอนนี้นางตายไปแล้ว ท่านกลับมาพูดถึงสายใยความเป็นพ่อลูก ช่างน่าขัน กลับไปเถิด เดิมทีระหว่างท่านกับข้าก็เป็นศัตรูคู่แค้นต่อกัน ท่านไม่เคยมีความเมตตาให้ข้าแม้แต่น้อย ข้าเองก็ยังไม่มีความสามารถมากพอที่จะล้มท่านลงได้ เรื่องนี้มันยังไม่จบหรอกนะ”

“ข้าไม่อยากคุยกับเจ้า” สายตาของมหาเสนาบดีเซี่ยมีประกายแห่งความอำมหิต ชะเง้อคอตะโกนเรียก “หยวนฉุ่ยยวี่ เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้ ซ่อนตัวอยู่ข้างในจะมีประโยชน์อันใด?โผล่หัวออกมาซะ”

สายตาของจื่ออันก็อำมหิตมิแพ้กัน “ท่านมหาเสนาบดีสำรวมกริยาหน่อย โหวกเหวกโวยวายเช่นนี้ ก็ไม่ส่งผลดีอะไรต่อท่านหรอกนะ”

“อย่างนั้นเหรอ? เช่นนั้นเจ้าก็พูดมาตอนนี้มีอะไรที่ส่งผลดีต่อข้าบ้าง? ทุกสิ่งทุกอย่างของข้าล้วนถูกเจ้ายึดเอาไปหมดแล้ว เซี่ยจื่ออัน ข้าคือพ่อของเจ้า เหตุใดเจ้าถึงได้โหดร้ายกับข้าเยี่ยงนี้? เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะตีเจ้าให้ตายตรงนี้ก็ย่อมได้? เจ้าตายไปทุกอย่างจะได้ง่ายดายขึ้น”

ดูเหมือนว่ามหาเสนาบดีเซี่ยจะดื่มมาหนักมาก เขาเพิ่งจะกลับถึงจวนได้ไม่นาน ก็ดื่มจนเมามายขนาดนี้แล้ว น่าจะดื่มไปไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงได้เมาได้เร็วถึงเพียงนี้

จื่ออันฟังคำปรักปรำที่เคืองแค้นของเขา ในใจก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาล้วนถูกนางยึดไปอย่างนั้นหรือ? เปล่าเลย เขายังมีชีวิตอยู่สุขสบายดี หน้าที่การงานสูงส่ง ต่อไปถ้ายังอยากจะแต่งกับใครอีกก็ย่อมได้ ไม่มีอะไรเสียหายแม้แต่น้อย แต่ว่าเจ้าของร่างเดิมของจื่ออันเล่า? กลับจะต้องตายอย่างไม่มีวันที่จะหวนคืนกลับมา ตายอยู่พื้นที่แสนเย็นยะเยือกนั่น

ชีวิตของเขามีค่า แล้วชีวิตของเซี่ยจื่ออันล่ะ? ในใจเขาเคยนึกถึงบุตรสาวคนนี้สักนิดหรือไม่? เคยรู้สึกเสียใจต่อการกระทำที่ทำต่อบุตรสาวคนนี้บ้างหรือเปล่า?

นางตายแล้ว จะมาพร่ำเพ้อถึงสายใยสัมพันธ์พ่อลูกที่ไร้สาระนี้อีกทำไม บนโลกใบนี้มีเรื่องที่ดีเช่นนี้ตอนไหนกัน?

หยวนซื่อไม่อยากออกมา แต่ว่านางก็ไม่อยากให้คนเมาเช่นนั้นมาต่อว่าจื่ออัน นางเองก็กลัวว่ามหาเสนาบดีเซี่ยเมาจนลงมือทำร้ายจื่ออัน นางยังไม่เคยทำอะไรเพื่อจื่ออันคนนี้มาก่อน หากนางมีกำลังสักนิด นางก็อยากจะใช้มันเพื่อปกป้องจื่ออัน

โลกใบนี้ช่างโหดร้าย นางมีเพียงแต่เซี่ยจื่ออันคนเดียวเท่านั้น

แม่นมหยางพยุงนางออกมา แลดูรีบร้อนมาก จากนั้นก็กล่าวอย่างโมโห “เซี่ยหวายจุน หากท่านกล้าแตะต้องนางแม้นเพียงปลายเส้นผม ต่อให้แลกด้วยชีวิตของข้าหยวนฉุ่ยยวี่ผู้นี้ ก็จะฉีกร่างท่านออกมาเป็นชิ้น ๆให้จงได้”

จื่ออันมองนางอย่างงวยงงเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกเลย ตั้งแต่มายังยุคโบราณ ที่หยวนซื่อกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดเช่นนี้

มหาเสนาบดีเซี่ยเงยหน้าขึ้น จ้องมองไปที่หยวนซื่อ แล้วหัวเราะเยาะเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าได้ยินสิ่งที่น่าขันที่สุดในโลก

“ฉีกร่างข้าออกเป็นชิ้น ๆ อย่างนั้นเหรอ? หยวนฉุ่ยยวี่เอ๋ยหยวนฉุ่ยยวี่ ยังจำได้ไหมว่า เมื่อไม่นานมานี้ ที่คอยคลอเคลียอยู่ข้างกายข้า อยากอยู่กับข้าไปชั่วชีวิตอยู่นี่?”

น้ำเสียงของเขาคล้ายจะหัวเราะแต่ก็ฟังดูเศร้า เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความเสียใจ

หยวนซื่อกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่จริง นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว แต่ในเมื่อท่านยังจำได้ชัดเจนเช่นนี้ ก็น่าจะจำได้ว่า หลังจากที่อยู่ด้วยกันไม่นาน ท่านก็พาเฉินหลิงหลงเข้ามา แล้วบอกกับข้าว่า ท่านตกหลุมรักนางเข้าแล้ว ข้ากลายเป็นผู้หญิงที่ไม่อ่อนหวาน ใจคอคับแคบ สิบหกปีมานี้ ท่านไม่เคยนึกถึงความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาเลยสักนิด ทำร้ายจื่ออันเพื่อให้เซี่ยหว่านเอ๋อได้อภิเษกกับองค์รัชทายาท ท่านไม่ลังเลยที่จะบีบบังคับจื่ออันให้อภิเษกกับอ๋องเหลียง ตั้งแต่ตอนที่ท่านบีบบังคับนางจนถึงตอนนี้ ท่านช่วยบอกข้าที ท่านลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับลูกสาวของท่านมากี่ครั้งกี่คราแล้ว? หากไม่ใช่เพราะนางเป็นคนที่ดวงดี ตอนนี้นางคงกลายเป็นวิญญาณไปตั้งนานแล้ว”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท