ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 401
จื่ออันเอียงคอถามนาง “เช่นนั้น เจ้าชอบเขาจริง ๆ แล้วใช่ไหม?”
เฉินหลิวหลิ่วตอบตามจริง “ใช่ ข้าชอบเขา แต่กับพวกคุณชายตระกูลตระกูลดี ๆ อื่น ๆ ล้วนแตกต่างกัน ตอนที่เขามองผู้อื่น ลูกตาของเขาดำทั้งสองข้าง”
“ใครบ้างไม่มีลูกตาดำสองข้าง?” จื่ออันพูดอย่างไร้อารมณ์
“ไม่ใช่ หมายถึงลูกตาดำที่ดำมากถึงมากที่สุด ท่านย่าของข้าเคยบอกไว้ว่า ใครก็ตามที่มีลูกตาที่ดำมาก ๆ มั่นใจได้ว่าจิตใจของคนผู้นี้ จะต้องดีแน่นอน”
นางพูดพลาง ก็ตั้งใจดูลูกตาดำของจื่ออันพลาง “ลูกตาของเจ้าออกไปทางสีน้ำตาล จื่ออัน เจ้าเป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยมนี่นา”
จื่ออันมองดูลูกตาของนาง ที่มันหลุกหลิกไปมา นึกถึงนิสัยของเฉินหลิวหลิ่ว ช่างเป็นคนที่โผงผางจริง ๆ”
“นี่มันไม่สอดคล้องกับหลักการทางวิทยาศาสตร์” จื่ออันกล่าว
“หลักการทางวิทยาศาสตร์อะไร?” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไร เจ้าคิดว่าข้าจิตใจโหดร้ายหรือไม่?” จื่ออันถาม
เฉินหลิวหลิ่วส่ายหัว “ก็ไม่นะ แต่ข้าคิดว่าเจ้ามีความอดทนอดกลั้นมาก จวนมหาเสนาบดีทำกับเจ้าถึงขนาดนี้ เจ้ายังทนได้ แต่ท่านย่าของข้าบอกว่า เจ้าจำเป็นต้องทนไปก่อน”
“เจ้ากับท่านย่าของเจ้าพูดถึงข้าลับหลังด้วยเหรอ?” จื่ออันรู้สึกประหลาดใจมาก เดิมทีคิดว่าเฉินไท่จวินไม่ใช่คนที่ชอบซุบซิบนินทา
เฉินหลิวหลิ่วกล่าว “วันนั้นหลังจากกลับมาจากงานแต่ง ตอนที่ท่านย่าอยู่บนรถม้าได้พูดขึ้นมาว่า ฮูหยินผู้เฒ่าไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนสุนัขที่จนตรอกแล้ว นางยังบอกอีกว่าหากเซี่ยจื่ออันรู้จักอดทน ก็ไม่ต้องเหยียบหางสุนัขบ้า มิเช่นนั้นจะเป็นการบีบให้พวกเขาคลุ้มคลั่ง ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะกำจัดพวกเขาได้ แต่ตนเองก็ต้องได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน”
จื่ออันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกยกย่องเหล่าไท่จวิน ความจริงก็เป็นดั่งที่นางกล่าว นี่แหละคือสาเหตุที่นางต้องอดทนต่อไป
ตอนนี้ถ้าจะจัดการกับจวนมหาเสนาบดี จะค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้แล้ว จะต้องจัดการให้ตรงจุดภายในครั้งเดียว
ขั้นตอนที่ไล่ต้อนพวกเขามาทีละนิด ๆ ก็จบลงแล้ว จนถึงตอนนี้ พวกเขาจะต้องมีช่องโหว่เป็นแน่ ซึ่งนางก็รอช่องโหว่นี่นั่นเอง
อีกทั้งนางยังมั่นใจว่า ไม่จำเป็นต้องหาช่องโหว่นี่เอง ยังไงมหาเสนาบดีเซี่ยก็ต้องเผยออกมาอยู่แล้ว
เพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่น
พอมาถึงที่หน้าประตูจวนอ๋องทั้งสองคนก็ลงจากรถม้า ให้บ่าวรับใช้รออยู่ที่ด้านนอก
อ๋องหลี่กำลังเดินเล่นกับสุนัขในสนามหญ้า เฉินหลิวหลิ่วก็เดินเข้าไป “ท่านอ๋อง ท่านย่าให้มาเอาสุราหอมหมื่นลี้เจ้าค่ะ”
อ๋องหลี่เหลือบมองจื่ออันเล็กน้อย “แค่ไหเดียวหรือ”
จื่ออันตอบ “ท่านอ๋องวางใจ ข้าไม่ได้ต้องการสุรา”
อ๋องหลี่ พูด ‘อืม’ จากนั้นก็สั่งให้คนไปเอาสุรามา อีกทั้งให้เฉินหลิวหลิ่วตามไปด้วย และเขาก็ได้นั่งเล่นกับสุนัขของเขาบนม้านั่งหินในสนามหญ้า
เป็นสุนัขที่มีขนสีเหลืองและตัวใหญ่ เลี้ยงได้สมบูรณ์ดี ขนสั้น มีกล้ามเนื้อทั้งตัว เวลาเดินจะเห็นกล้ามเนื้อได้ชัดเจน ดูค่อนข้างจะน่ากลัว
สุนัขตัวนี้ไม่ได้เห่าพวกนางเลย จะเห็นได้ว่าอ๋องหลี่ฝึกฝนมันมาเป็นอย่างดี
จื่ออันที่เห็นตอนนี้มีเพียงนางกับอ๋องหลี่อยู่ตามลำพัง ก็นึกถึงเรื่องที่จะหยั่งเชิงเขาขึ้นมา “จริงสิ ท่านอ๋องรู้ทักษะทางการแพทย์ด้วยหรือ?”
อ๋องหลี่เอายเสียงเบาว่า “ไม่รู้!”
“วันนั้นได้ยินท่านพูดว่ากุ้ยหยวนก็แค่ช็อกไป ข้าก็นึกว่าท่านจะรู้ทักษะทางการแพทย์เสียอีก” จื่ออันเดินเข้าไปใกล้อีกก้าว สุนัขตัวนั่นพุ่งเข้ามาขู่แยกเขี้ยวใส่ นางตกใจจึงถอยออกมาสองสามก้าว ไม่กล้าเข้าไปใกล้
“ต้าจินไม่ชอบคนแปลกหน้า เจ้าถอยห่างออกไปหน่อย” อ๋องหลี่ทำมือปัด ๆ
“ได้ เพคะ” จื่ออันกรอกตาไปมา “ท่านอ๋องชอบสุนัขหรือเจ้าคะ? ไม่ทราบว่าท่านชอบโกลเด้นกับพุดเดิ้ลหรือไม่เพคะ?”
“พุดเดิ้ลอะไรของเจ้า?”
“สายพันธุ์ของสุนัขอย่างไรเล่า” จื่ออันเดาว่าเขามาจากยุคเดียวกัน แต่ว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาทะลุมิติมาตั้งแต่ช่วงเวลาไหน? หรือจะเป็นยุคหกศูนย์ถึงเจ็ดศูนย์กันล่ะ ในปีนั้น ๆ ในประเทศยังไม่ได้เริ่มเลี้ยงสุนัขสายพันธ์ต่างประเทศ
“ข้าไม่รู้” อ๋องหลี่หยิบกระดูกที่อยู่โต๊ะแล้วโยนไปให้ต้าจิน เขาไม่ค่อยจะสนใจจื่ออันสักเท่าไหร่