ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 405
ได้ยินซูชิงพูดถึงขนาดนี้ จื่ออันก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
เขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น มีความใฝ่ฝัน มีความรักที่ยิ่งใหญ่ เพียงแต่น่าเสียดายที่เขายังไม่ทันได้ทำตามความมุ่งมั่นของตนเองเลย
“ข้าได้ยินพวกท่านพูดกันว่า คนที่โดนกัดก็ล้วนตายกันแทบทุกคน” จื่ออันอดกลั้นต่อความลำบากใจพูดออกไปเบา ๆ “หากวินิจฉัยออกมาแล้วว่านายทหารผู้นี้ถูกไวรัสชนิดเดียวกัน เช่นนั้นข้าเองก็จนปัญญา ตอนนี้แม้กระทั่งแนวทางในการรักษาข้ายังไม่มีแม้แต่น้อย”
ซูชิงเงยหน้าขึ้นมา เห็นเป็นเส้นเลือดในตาเขา จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าจนปัญญา? พวกเราลำบากลำบนพาเขากลับมาเมืองหลวง แต่เจ้ากลับพูดว่าจนปัญญาช่วยเขา? เขาเพิ่งจะสิบเก้าปีเองนะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้แต่งงาน พ่อและพี่ชายของเขาก็ล้วนตายไปหมดแล้ว ครอบครัวของเขามีเพียงเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว หากเขาตาย ครอบครัวเขาก็จบสิ้นกันแล้ว”
จื่ออันเงียบไปเล็กน้อย “ข้าขอโทษ”
ซูงชิงโบกมือ ยิ้มเย้ยหยันมองไปที่จื่ออัน “เพราะเขาเป็นเพียงนายทหารเล็ก ๆใช่หรือไม่? เจ้าถึงไม่เต็มใจจะข่วยเขา ใช่ไหมล่ะ? ในครานั้นที่อ๋องเหลียงกับท่านอ๋องบาดเจ็บสาหัสจนเจียนตาย เจ้ายังสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่มาตอนนี้เจ้ากลับบอกกับข้าว่าเจ้าช่วยชีวิตเขาไม่ได้เนี่ยนะ?”
มู่หรงเจี๋ยพูดกับเซียวท่าเสียงดัง “พาเขาออกไปสงบสติอารมณ์ก่อน”
เซียวท่าหามซูชิงด้วยมือเดียว แล้วก้าวเท้ายาวเดินออกไป จากนั้นก็โยนเขาลงไปบ่อน้ำใหญ่ที่อยู่ตรงสนามหญ้า “เจ้าใจเย็นลงก่อนสิ”
ซูชิงโมโหเสียจนจะต่อสู้กับเซียวท่า มู่หรงเจี๋ยหัวเสียเป็นอย่างมาก จึงขึ้นเสียง “ซูชิง เจ้าโวยวายเสร็จแล้วหรือยัง? เจ้าโวยวายอยู่ที่นี่มันจะช่วยชีวิตเขาได้อย่างนั้นหรือ?”
ซูชิงที่เห็นมู่หรงเจี๋ยไม่สบอารมณ์มากแล้ว จึงค่อย ๆ ลดมือลง เหลือบมองไปที่นายทหารคนนั้นอย่างหมดแรง แล้วก็วิ่งออกไป
เซียวท่าก็ติดตามไปด้วย
จื่ออันเองก็รู้สึกเสียใจ ที่นางได้มาอยู่ในหน่วยลับได้ ก็เพราะเป็นคำสั่งของผู้บัญชาการทหาร นางเป็นทหารมาก่อนจากนั้นถึงจะได้เป็นแพทย์ทหารในหน่วยรบพิเศษ
ดังนั้น นางจึงเห็นอกเห็นใจทหารเป็นพิเศษ และถึงแม้จะไม่ชอบการเข่นฆ่าในยุคปัจจุบัน แต่ว่าความรู้สึกเห็นใจนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
มู่หรงเจี๋ยออกคำสั่งให้พานายหารหนุ่มคนนี้กลับเข้าไปขังในกรงเหล็ก จื่ออันล้างมืออยู่ที่บ่อน้ำ เขาก็ได้เดินเข้ามา “เจ้าเองก็หมดหนทางรักษางั้นหรือ?”
จื่ออันฟังออกว่าเขาเองก็แอบรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง บางทีที่พวกเขาพาทหารหนุ่มคนนี้เดินทางไกลกลับมาด้วย ก็เพราะในใจล้วนหวังว่านางจะสามารถรักษาเขาได้
จื่ออันยืนขึ้นมองดูเขา แล้วค่อย ๆ ส่ายหัวกล่าวอย่างจริงจัง “ขอโทษนะ”
มู่หรงเจี๋ยไม่ได้กล่าวสิ่งใด แต่หันหลังเดินจากไป
เขารู้ว่าทุกคนกำลังระงับอารมณ์อยู่ อีกทั้งลำพังเพียงคำปลอบโยนนั้นก็หามีประโยชน์อันใดไม่ ในความเป็นจริง เขาเองก็ยังหดหู่ใจอยู่
คนกัดคนสถานการณ์วิกฤตินี้ คร่าชีวิตคนไปหลายสิบชีวิตแล้ว อีกทั้งเป้าหมายและเจตนาของฝ่ายตรงข้ามก็ชัดเจนมาก เขากลับหาช่องโหว่ไม่เจอ แม้กระทั่งหนทางที่จะรักษาคนที่ถูกกัดยังไม่มีเลย
ตอนนี้ทุกทัพได้วางแนวป้องกันหมดแล้ว ควบคุมดูแลเรื่องคนกัดคนที่เกืดขึ้นอย่างเคร่งครัด ตามข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน คนที่โดนกันทุกคนนอกจากนายทหารหนุ่มคนนี้แล้ว คนอื่น ๆ ล้วนตายกันหมด แน่นอนว่ายังมีอยู่ในเมืองหลวงอีกหนึ่งคนที่มหาเสนาบดีเซี่ยปล่อยไป เพียงแต่เขาจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?
หวังว่าเรื่องราวมันจะสงบลงเช่นนี้
แม้ว่าทหารของเขาจะต้องตาย ก็ควรตายในสนามรบ มือเปื้อนเลือดของศัตรู ไม่ใช่ตายด้วยแผนการชั่วร้ายนี้
ความหดหู่ใจนี้ ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความโกรธ เหมือนมีไฟสุมอยู่ในอกของเขา ไม่ช้าก็เร็วมันก็ตัองปะทุออกมา
จื่ออันนั่งอยู่ข้าง ๆ กรงเหล็ก มองดูใบหน้าของนายทหารหนุ่มผู้นี้
ตอนนี้มองไม่เห็นร่องรอยของความบ้าคลั่งเลยสักนิด แต่ว่าดูจากตาที่แดงกับฟันที่ดำก็มองออกว่า เขาไม่มีทางเปลี่ยนกลับมาเป็นคนปกติได้อีก