ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 416
เดินมาได้ประมาณสองลี้ รถม้าของมู่หรงเจี๋ยก็ตามมาทัน
“ขึ้นมา!” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
จื่ออันขึ้นรถม้ามา มองใบหน้าขาวเรียบ มุมปากกระตุกขึ้น “ข้ารู้ว่าท่านกล่าวโทษข้าที่ล่วงเกินหวงไท่โฮ่ว แต่ว่ามีบางเรื่องที่ข้ามิอาจที่จะประนีประนอมได้”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าไม่อยากที่จะแต่งงานกับข้าแล้วหรือ” มู่หรงเจี๋ยจ้องมองยังนาง
“ข้าไม่ได้มีความหมายเยี่ยงนี้ เพียงแต่… ” นางเมื่อครู่ที่ขัดแย้งกับหวงไม่โฮ่วนั้น ไม่คิดว่าเขาจะโมโหเพราะสาเหตุนี้ “พวกเรายังอายุน้อย ไม่เช่นนั้นก็ทนรออีกสักปีสองปี”
“ทน?เสด็จแม่เมื่อครู่เอ่ยออกมาแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเลือกพระชายาให้กับข้า ปีนี้จะต้องแต่งพระชายาผู้สำเร็จราชการแทนเข้ามา” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
จื่ออันส่งเสียงอ่าออกมา “รีบร้อนขนาดนี้เลยหรือ?”
ในใจมีความรู้สึกหึงหวง ดูท่าแล้ว เมื่อครู่ตนคงจะประมาทเกินไป บางทีการยึดมั่นในหลักการนั้น อาจจะสามารถพูดให้ดูนุ่มนวลขึ้นอีกได้
“ไม่ผิด เจ้ากลับไปเอ่ยกับเสด็จแม่ก่อน เจ้าจะเอ่ยกับท่านแม่ของเจ้าว่าจะไม่ไปมาหาสู่กับเสด็จพี่ของข้า ท่านแม่ก็จะประทานพระราชเสาวนีย์ให้พวกเราแต่งงานกัน” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมา
จื่ออันเงียบไปครู่นึง “ท่านรู้ดีว่าข้ามิอาจเอ่ยออกมาเยี่ยงนั้นได้ ต่อให้ท่านไม่ปวดใจแทนเสด็จพี่ของท่าน แต่ข้าก็ปวดใจแทนท่านแม่ของข้า”
“ดังนั้นเจ้าจะยอมถอดใจจากตัวข้า? ให้ข้าไปแต่งกับสตรีอื่นหรือ?” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยเสียงสูงขึ้น
จื่ออันเงียบไปอีกครั้งนึง เอ่ยเสียงเบา “ข้าคิดว่าท่านสามารถไปเอ่ยกับหวงไท่โฮ่วได้ เช่นว่า ท่านนอกจากข้าแล้วจะไม่แต่งผู้อื่น ไม่มีข้าแล้วท่านจะตายขึ้นมาเป็นต้น”
มู่หรงเจี๋ยตกตะลึงไปเล็กน้อย ได้ฟังคำของนางแล้ว อดไม่ได้ที่จะมองนาง ยิ้มพลางเอ่ย “เจ้าไปเอาความมั่นใจมากมายนี้มาจากที่ใดกัน? ยังจะบอกว่าถ้าไม่มีเจ้าก็อาจจะตายได้ ทำไมถึงไม่เห็นว่าเจ้าหากไม่ข้าก็จะเป็นจะตาย?”
จื่ออันดึงแขนเสื้อของเขา “หากว่าหวงไท่โฮ่วเป็นห่วงความเป็นความตายของข้าแล้ว ข้าก็จะไปเอ่ย แต่ว่านางแสดงออกมาว่าไม่สนใจความเป็นความตายของข้า แต่นางสนใจ…เอ๊ะ แขนเสื้อของท่านแอบซ่อนอะไรเอาไว้? เป็นแท่งใหญ่เชียว”
จื่ออันเพียงครู่ก็ดึงออกมา เปิดมันออก “ประทานงานอภิเษกสมรส?”
มู่หรงเจี๋ยใช้มือเดียวแย่งมันกลับมา รีบเร่งม้วนแล้วเก็บกลับไปยังในแขนเสื้อ “ไม่ผิด เป็นพระราชเสาวนีย์ประทานงานอภิเษกสมรสให้แก่อ๋องเหลียงและอี๋เอ๋อร์ ให้ข้าไปประกาศพระราชเสาวนีย์ หากว่าวันนี้เจ้าให้ความร่วมมือด้วยดีแล้ว พระราชเสาวนีย์ฉบับนี้ก็จะเอ่ยถึงงานแต่งงานของพวกเรา”
“อี๋เอ๋อร์? คนในใจของอ๋องเหลียงหรือ?” จื่ออันชั่วขณะนั้นก็นึกถึงในตอนที่อ๋องเหลียงสลบไป เคยส่งเสียงเรียกชื่อของใครบางคน ราวกับเรียกว่ายู่เอ๋อร์หรือว่าหรู่เอ๋อร์ ที่แท้จริงแล้ว ผู้ที่อยู่ในใจของอ๋องเหลียงนั้นมีนามว่าอี๋เอ๋อร์?
“เป็นห่วงผู้อื่นเยอะแยะมากมายไปทำไมกัน? เจ้าเพียงแต่เป็นห่วงตนก็พอแล้ว ยังมีอีก ข้าอีกเดี๋ยวก็จะต้องจัดงานเลี้ยงเพื่อเลือกพระชายาแล้ว เจ้าเองก็ลองไตร่ตรองดูว่าจะทำเช่นไรดี!” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จื่ออันใบหน้าเศร้าสร้อยมองมายังเขา “ท่านอ๋องมีวิธีการอะไรบ้างหรือไม่เพคะ?”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าจะมีวิธีการอะไรได้? ทุกอย่างล้วนแต่เจ้า”
จื่ออันก้มศีรษะลง เอ่ยด้วยความเศร้า “เช่นนั้นขอให้ท่านอ๋องเลือกพระชายาได้อย่างราบรื่น!”
“เซี่ยจื่ออัน!” มู่หรงเจี๋ยส่งเสียงคำรามออกมา
จื่ออันเปิดม่านออกมา ถึงจวนมหาเสนาบดีแล้ว นางกระโดดลงจากรถม้า หันกลับไปมองมู่หรงเจี๋ยทำหน้าตาบูดบึ้งใส่ “ท่านอ๋อง ข้ามองเห็นพระราชเสาวนีย์แล้ว ข้างในนั้นเขียนถึงชื่อของข้ากับท่าน นั่นเป็นพระราชเสาวนีย์ประทานงานอภิเษกของพวกเรา”
พูดจบ ยิ้มออกมาแล้ววิ่งเข้าไป
มู่หรงเจี๋ยโมโหเป็นอย่างมาก กัดฟันเอ่ยออกมา “จะต้องมีสักวัน ข้าจะต้องตีเจ้าสักยกใหญ่”
กลับเป็นหนี่หรงที่ถอดหมวกออกมา แล้วเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ไปตอนนี้เถอะพ่ะย่ะคะ ยังตามทันอยู่ กระหม่อมเองก็อยากที่จะเห็น วิธีที่จะเอาชนะได้”
“เรื่องเยอะ เจ้านี้จะโดนผู้อื่นกัดเอา เร่งรีบขึ้นไปยังรถของเจ้าไป” มู่หรงเจี๋ยส่งเสียงฮึมฮัมออกมา
“ไปนอกเมืองหรือพ่ะย่ะค่ะ?” หนี่หรงเอ่ยถาม
มู่หรงเจี๋ยดูเคร่งขรึมลง “ถูกต้อง ไปนอกเมืองกัน”