ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 417
จวนผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ
ณ เรือนชิงหนิง เรือนที่กุ้ยไท่เฟยพักอาศัยอยู่
ป้าซือจูถือถ้วยน้ำชาเดินเข้ามาจากตรงระเบียง พบว่าสาวใช้ใกล้ตัวของไท่เฟย หลัวซุ่ยเร่งรีบเดินออกไปด้านนอก
“หลัวซุ่ย รีบร้อนเดินออกไปทำไมกัน?” ป้าซือจูเอ่ยถาม
หลัวซุ่ยเอ่ยตอบกลับ “กุ้ยไท่เฟยให้บ่าวออกไปนัดหมายเวลากับฮูหยินผู้เฒ่าจวนมหาเสนาบดีเจ้าค่ะ”
ป้าซือจูตกตะลึง แววตาดูมืดมน “ไปเถอะ”
หลัวซุ่ยรีบร้อนเดินจากไป
ป้าซือจูประคองถ้วยชาเงียบไปชั่วครู่นึง นางจึงหมุนตัวหันหลังกลับไป ผ่านไปครู่นึงก็ได้ประคองถ้วยชาเข้ามา เพียงแต่ชาในครั้งนี้นั้น เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งถ้วย
บ่าวรับใช้อาฝูเพิ่งจะพูดกับกุ้ยไท่เฟยเสร็จ ก็พบป้าซือจูเข้ามา จึงได้ออกไป
กุ้ยไท่เฟยเอนกายครึ่งหนึ่งอยู่บนที่นั่ง ปิดตาลง ป้าซือจูวางน้ำชาลงบนโต๊ะชา เอ่ยถามเสียงเบา “ยังคงปวดหัวอยู่หรือไม่เพคะ?”
“อืม” กุ้ยไท่เฟยจู่ ๆ ก็เปิดตาขึ้น เอ่ยออกมาด้วยความโกรธ “ผู้คนในใต้หล้านี้ ทำไมล้วนแล้วแต่เข้ามารังแกข้ากัน? ข้าตกลงแล้วมีส่วนใดที่ไม่ดีเท่านาง?”
ป้าซือจูค่อย ๆ นั่งลงข้างกายนาง ช่วยนวดคลึงศีรษะของนาง “ไม่มีผู้ใดที่ต้องการจะรังแกท่าน เป็นอย่างทุกวันนี้ไม่ดีหรือเพคะ? ในจวนแห่งนี้อยากจะใช้ชีวิตอย่างไรก็ใช้ชีวิตอย่างนั้น ส่วนตำแหน่งหวงไท่โฮ่วนั้น สำคัญมากหรือ? เกรงว่าที่สูงนั้นจะหนาวเหน็บเกินไปนะเพคะ!”
กุ้ยไท่เฟยปัดมือนางทิ้งไปในคราเดียว แล้วจ้องมองยังนาง “ซือจู เจ้าเปลี่ยนไปแล้ว”
ป้าซือจูฝืนยิ้มออกมา “อาจจะเป็นเพราะบ่าวแก่เกินไปแล้ว คิดว่าการต่อสู้แย่งชิงนั้นไม่มีความหมายอันใด คนสุดท้ายแล้วนั้นมีเพียงแค่ที่ให้พักพิงเพียงแห่งเดียว”
“ใช่แล้ว แต่ว่าระหว่างทางนั้นจะต้องสว่างสดใส เจ้าก่อนหน้านี้ก็เห็นด้วยกับข้าที่จะให้ไปแย่งชิงมา”
ป้าซือจูถอนหายใจออกมาเบา ๆ “เพคะ เป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นท่านต้องการจะต่อสู้ บ่าวก็จะทำสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือท่าน แต่ว่าหลังจากที่ท่านลงมือกับท่านอ๋องแล้วนั้น บ่าวก็เลยได้รู้ การต่อสู้แย่งชิงครั้งนี้ ทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายตนเอง ไม่คุ้มค่า ต่อให้จะมีสักวันหนึ่ง ท่านได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ของหวงไท่โฮ่วแล้ว แต่ไม่มีญาติมิตรคนสนิท ท่านมีความสุขหรือเพคะ?”
“ซือจู เจ้าช่างบังอาจนัก!” น้ำเสียงของกุ้ยไท่เฟยดูเย็นชา
“คำพูดเหล่านี้ เดิมบ่าวก็ไม่ควรจะพูด บางทีบ่าวก่อนหน้านั้นก็ทำผิดพลาดไป คอยส่งเสริมกับความฝันนี้ของท่านมาโดยตลอด แต่ว่าก่อนหน้านั้นเกินกว่าครึ่งเป็นเรื่องกลอุบายต่าง ๆ ของวังหลัง ไม่ได้ถึงกลับใช้มีดดาบจริง ท่านในครั้งนี้นั้น เพียงลงมือก็ถึงกับจะเอาชีวิตท่านอ๋อง นั่นเป็นบุตรชายแท้ ๆ ของท่านนะเพคะ ยังจำในตอนที่เขายังอายุน้อย…”
กุ้ยไท่เฟยหยุดคำพูดของนาง เอ่ยด้วยความโกรธ “ข้าอะไรก็จำไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องมาเอ่ยเรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นกับข้าอีก!”
มือของป้าซือจูที่อยู่บนหน้าผากของนางหยุดชะงักไป แล้วก็กดลงไปเบา ๆ อีกครั้ง ยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆ “เพคะ ท่านไม่ชอบที่จะฟัง บ่าวจะไม่เอ่ยถึงอีกเพคะ”
กุ้ยไท่เฟยนั่งลงไป เหลือบมองถ้วยชาบนโต๊ะน้ำชา “ทำไมถึงได้รินเข้ามาสองถ้วย?”
“ถ้วยหนึ่งเป็นชาดอกเก็กฮวย อีกถ้วยหนึ่งเป็นตอนต้นปีของปีนี้ ท่านอ๋องส่งชาหลงจิ่งเข้ามาก่อนที่ฝนจะตก ให้ท่านครั้งสุดท้าย” แววตาของป้าซือจูแฝงไปด้วยความตื่นตระหนก
กุ้ยไท่เฟยยกฝาขึ้นมา มองไปยังชาหลงจิ่งถ้วยนั้น จู่ ๆ ก็ปาลงไปยังบนพื้นด้วยความเกลียดชัง ถ้วยชาแตกกระจากไปทั่วพื้น น้ำชาและใบชาล้วนหกอกมา น้ำชาสีเขียวค่อย ๆ ไหลไปตามรอยแยกของพื้น คดเคี้ยวไปมา เกิดเป็นรอยแตกแยก
ป้าซือจูใบหน้าดูเจ็บปวด น้ำตาสองหยดไหลออกมาจากหางตา นางกลั้นหายใจ มองไปยังกุ้ยไท่เฟยถือชาดอกเก็กฮวยขึ้นมา