ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 421

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 421

เช้าวันรุ่งขึ้นที่จวนผู้สำเร็จราชการ มีโคมไฟสีขาวแขวนไว้

ตรงประตูติดป้ายสีขาวที่เขียนคำว่าเตี้ยน ที่แสดงให้เห็นว่าได้มีคนตาย โคมไฟสีขาวก็แขวนไว้ที่หน้าประตูจวนเช่นกัน

ขณะที่มู่หรงเจี๋ยเพิ่งจะตื่นนอนและกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า หนี่หรงก็เดินเข้ามา และกล่าวอย่างจริงจัง “ท่านอ๋อง มีคนจากเรือนของไท่เฟยมาส่งข่าวว่า เมื่อคืนนี้ป้าซือจูเสียชีวิตอย่างกะทันหันพ่ะย่ะค่ะ!”

มู่หรงเจี๋ยหันหน้ากลับไปมองทันที แล้วกล่าวถามอย่างตกใจ “เจ้าว่ากระไรนะ?”

หนี่หรงกล่าวอย่าโศกเศร้า “ในตอนเช้าตรู่ของวันนี้ที่บ่าวตื่นขึ้นมา ที่จวนก็เริ่มแขวนโคมไฟสีขาวแล้ว พอถามก็ถึงได้รู้ว่าที่แท้เมื่อคืนนี้ป้าซือจูได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันพ่ะย่ะค่ะ”

มู่หรงเจี๋ยรีบสวมชุดให้เรียบร้อยในทันที แล้ววิ่งออกจากประตูไป เขามุ่งไปที่เรือนชิงหนิงอย่างรวดเร็ว

ร่างของป้าซือจูถูกวางไว้ในลานเรือน โลงถูกวางไว้ที่ด้านข้าง ส่วนกุ้ยไท่เฟยก็ยืนอยู่ข้าง ๆ เช็ดหน้าให้นางด้วยตนเอง

มู่หรงเจี๋ยยืนอยู่ที่ปากทางเข้าสู่ลานกว้าง มองดูผู้หญิงที่เลี้ยงดูเขามาทั้งชีวิตด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เกิดความรู้สึกในใจที่ไม่รู้ว่าจุกหรือรู้สึกสำนึกผิดกันแน่

เมื่อคืนนี้เขาควรจะมา

ภาพในอดีตแวบเข้ามาในจิตใจ ก่อนหน้าที่อ๋องเหลียงจะป่วย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนดีไปหมด แม้ว่าท่านป้าจะรับใช้เสด็จแม่ แต่ว่าเวลาส่วนใหญ่ก็ใช้ในการดูแลเรื่องอาหารและการแต่งตัวให้เขา

นางมักจะพูดว่า สิ่งที่ท่านอ๋องทำให้นางไม่พอใจมากที่สุดก็คือ เรื่องที่ตราบจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อภิเษก

กุ้ยไท่เฟยที่เห็นเขามา ก็ปัดมือให้คนที่อยู่ข้าง ๆ ออกไป แล้วเช็ดมือให้นางต่อ เงยหน้าขึ้นและยิ้มแปลก ๆ “มานี่สิ มาโขกหัวคำนับนางสักครั้ง นางเป็นแม่บุญธรรมของเจ้านะ”

มู่หรงเจี๋ย เดินเข้าไปอย่างเก้ ๆ กัง ๆ และวินาทีที่สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของป้าซือจู มันเหมือนเกิดเสียงปะทุขึ้นในใจของเขา ไม่ง่ายเลยที่จะเงยหน้าขึ้นมามองกุ้ยไท่เฟย “ท่านฆ่านางได้ลงคอ?”

ดวงตาของป้าซือจูเบิกกว้าง ดูเหมือนว่านัยน์ตายังคงหลงเหลือความตื่นตระหนกและกระเสือกกระสนก่อนตาย มีเลือดคั่งที่ใบหน้า ผิวหนังบวม ริมฝีปากม่วงคล้ำ เป็นอาการของคนที่ขาดอากาศหายใจตาย เขาเป็นคนที่มาจากในวัง พอเห็นที่คอไม่มีร่องรอยอะไร ก็รู้ได้ทันทีว่า อาการหายใจไม่ออกนี้เกิดจากการที่ถูกบางอย่างกดทับลงไป

กุ้ยไท่เฟยที่ได้ยินคำพูดของเขา ก็หัวเราะเยาะเย้ย และเช็ดมือทั้งสองให้นางต่อ บนมือมีร่องรอยของการถูกมัด เห็นเลือดที่คั่งอยู่ได้ชัดเจน “คนที่ฆ่านาง คือเจ้า ไม่ใช่ข้า”

“ท่านพูดเหลวไหลอะไร? ท่านนี่มันฟั่นเฟือนไปแล้วจริง ๆ นางติดตามท่านมาตั้งหลายปี แต่ท่านกลับลงมือกับนางได้อย่างเหี้ยมโหดเช่นนี้” มู่หรงเจี๋ยกัดฟันพูดจนจบ ก้าวไปข้างหน้าแล้วดึงนางออกไป พร้อมกับขึ้นเสียงดัง “ออกไปเลยนะ ท่านไม่มีคุณสมบัติที่จะแตะต้องตัวนาง”

กุ้ยไท่เฟยโซซัดโซเซ หลังจากทรงตัวได้แล้วนางก็หัวเราะขึ้นมา ฮ่าฮ่า หัวเราะทั้งน้ำตา “พูดได้ดี พูดได้ดี ติดตามข้ามาก็ตั้งหลายปี แต่กลับลงมือกับข้าได้อย่างโหดเหี้ยม ซือจูเอ๋ย ที่บอกว่าไม่เกลียดเจ้า ข้าโกหก แม้จะสั่งให้เจ้าฆ่าตัวตายเอง แต่ข้าก็ยังเกลียดเจ้าอยู่ดี”

มู่หรงเจี๋ยจ้องมองนาง มีประกายแห่งเพลิงแค้นผุดขึ้นในดวงตาของเขา เป็นความจงเกลียดจงชังอย่างสุดจะพรรณนา

อาฝูที่เป็นบ่าวรับใช้เดินเข้ามา คำนับแล้วกล่าว “กราบทูลท่านอ๋อง เมื่อวานนี้ป้าซือจูได้วางยาพิษกุ้ยไท่เฟย พยายามที่จะฆ่านาง แต่ถูกกุ้ยไท่เฟยจับได้ กุ้ยไท่เฟยจึงสั่งให้ป้าซือจูฆ่าตัวตายเองพ่ะย่ะค่ะ”

“เหลวไหล!” มู่หรงเจี๋ยตะคอกอย่างดุร้าย และเตะไปที่อาฝูจนกระเด็นออกไปไกล แต่ว่าเขาก็ยังลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก และคุกเข่าลงต่อหน้ามู่หรงเจี๋ยต่อ “เปล่าเลยพ่ะย่ะค่ะ บ่าวขอสาบานด้วยชีวิต ว่าไม่ได้พูดโกหกแม้แต่นิดเดียว”

“หากเจ้ายังพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะฟันเจ้า!” มู่หรงเจี๋ยโมโหมาก และได้เตะอาฝูไปอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่กล้าหลบ ได้แต่ยอมรับชะตากรรม อีกทั้งที่มุมปากของเขาก็มีคราบเลือดออกมา

กุ้ยไท่เฟยกล่าวอย่างเย็นชา “เขาไม่ได้พูดผิด ซือจูวางยาพิษข้าจริง ๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดนางถึงต้องทำเช่นนี้?”

มู่หรงเจี๋ยมองไปที่ใบหน้าที่อำมหิตเลือดเย็นของนาง ในใจรู้สึกหนักหน่วง นึกถึงวันนั้นที่ป้าซือจูได้พูดกับเขา เป็นไปได้ไหมว่าตั้งแต่วันนั้น นางได้ตัดสินใจจะลงมือแล้ว?

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท