ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 432
ซูชิงก็ยังโง่เขลาไปตามหาเขาที่สุขา เขาไม่รู้ว่าถูกเซียวท่าหักหลังแล้ว คิดว่าเซียท่ามีเรื่องด่วนจึงรีบออกไป
“เซียวท่าวางแผนจะแนะนำซูชิงให้แก่ข้า” เฉินหลิวหลิ่วกล่าวอย่างหดหู่ใจ
จื่ออันหัวเราะคิกคักขึ้นมา “เซียวท่าน่าหลงไหลขนาดนั้นเชียวหรือ?”
“ซูชิงก็ดีอยู่หรอก แต่ว่าเรียบร้อยไปหน่อย” เฉินหลิวหลิ่วเท้าคางกล่าว
มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าว “เซียวท่าก็ดี ซูชิงก็ดี ขอเพียงมีสักคนมาสู่ขอเจ้า เชื่อเถิดว่าถึงแม้จะเป็นซูชิง ท่านย่าของเจ้าก็ต้องดีใจเหมือนกัน”
“มันก็จริง” เฉินหลิวหลิ่วคิดว่าอย่างไรเสียนางก็ต้องแต่งออกไปอยู่แล้ว ซูชิงก็ได้ เซียวท่าก็ปล่อยไปเถิด ขอแค่ยินดีจะแต่งกับนางก็พอแล้ว
ทว่าในใจกลับรู้สึกหดหู่ มีความอึดอัดใจจุกแน่นอยู่เต็มอก
พอช่วยมู่หรงเจี๋ยจัดมงกุฎครอบผมให้ดีแล้ว เสี่ยวซุนก็เข้ามาพร้อมกับชา เห็นมู่หรงเจี๋ยอยู่ด้วย “เอ๋ ท่านอ๋องก็มาด้วย คำนับท่านอ๋องเพคะ”
มู่หรงเจี๋ยไม่ได้ตอบรับอะไร หันหลังเดินจากไปทันที
เสี่ยวซุนกล่าวอย่างมึนงง “ท่านอ๋องเพิ่งจะมาถึงแล้วจะไปแล้วเหรอเจ้าคะ?”
“เสี่ยวซุนเอ๋ย เจ้านี่ช่างรู้อะไรบ้างเลย” มู่หรงจ้วงจ้วงยิ้มแล้วกล่าว
จื่ออันรู้สึกอึดอัดมาก มองดูแผ่นหลังของมู่หรงเจี๋ย เขาทำเหมือนไม่สนใจอะไรเลย
ดี ความจริงนางก็ไม่ได้เคอะเขินอะไรอยู่แล้ว เมื่อคืนถึงจะสุขใจมากก็จริง แต่คนที่ชอบเอาเปรียบผู้อื่น โดยเฉพาะแทบไม่จัดการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจะต้องถูกสวรรค์ลงโทษ
ตอนที่กำลังจะออกจากประตูไป แม่นมหยางก็กลับมาพอดี “คุณหนูใหญ่รอสักประเดี๋ยวเจ้าค่ะ บ่าวจะติดตามท่านไปด้วย”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนแม่นมหยางไม่มีทางที่จะไปกับนางด้วยแน่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่จะขอติดตามไปด้วย เข้าวังและออกมาครั้งนี้ ก็ต้องการจะตามไปด้วย จื่ออันรู้ได้เลยว่าฮองเฮาเกิดความสงสัย จึงกดดันนาง
ตอนที่เดินออกไป ก็พูดกันถึงเรื่องป้าซือจู
แม่นมหยางถอนหายใจเบา ๆ “ป้าซือจูตายเป็นเรื่องที่น่าเศร้า อันที่จริงนางมีความจวรักภักดีอย่างตาบอดมืดมัว กุ้ยไท่เฟยใช้ให้ทำอะไร นางก็หลับหูหลับตาทำให้หมด นางรักท่านอ๋องมาก ดูแลดีอย่างกับเป็นลูกแท้ ๆ ของตนเอง”
“ป้าซือจูตายได้อย่างไร?” มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าวถาม
แม่นมหยางกล่าว “ได้ยินมาว่าถูกลงทัณฑ์เพคะ ก็ไม่รู้ว่าทำผิดด้วยเรื่องอันใด”
“ดูเหมือนว่ากุ้ยไท่เฟยจะให้ความไว้วางใจกับนางมาก จะลงทัณฑ์นางจนตายได้อย่างไรกัน?” เฉินหลิวหลิ่วกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ
มู่หรงจ้วงจ้วงถามจื่ออัน “เจ้ารู้ใช่หรือไม่?”
จื่ออันนึกถึงคำพูดของมู่หรงเจี๋ยเมื่อคืนนี้ แล้วกล่าวเบา ๆ “ไม่ทราบเพคะ แต่ว่าจะต้องถูกลงทัณฑ์จนตายอย่างแน่นอน”
นางเดาว่ามู่หรงเจี๋ยก็คงไม่อยากให้ใครรู้เหมือนกัน เพื่อที่จะปกป้องเขาแล้วป้าซือจูจึงต้องถูกลงทัณฑ์จนตาย
ทั้งสี่คนเดินออกมา แม่นมหยางนั่งอยู่ตรงด้านหน้าของรถม้า ส่วนพวกนางสามคนนั่งอยู่ด้านใน
“ได้ยินมาว่า ก่อนที่ป้าซือจูจะตายกุ้ยไท่เฟยได้เข้าวังไปพบหวงไท่โฮ่วด้วย หลังจากที่เข้าพบนางแล้ว ก็บอกว่าต้องการแต่งตั้งให้ป้าซือจูเป็นแม่บุญธรรมของเจ้าเจ็ด” จ้วงจ้วงเงยหน้ามองจื่ออัน “ตอนนี้ป้าซือจูตายแล้ว นางเองก็ไม่มีลูกหลาน เจ้าเจ็ดถือเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของนาง ตามกฎแล้ว เจ้าเจ็ดต้องไว้ทุกข์ให้นางเป็นเวลาหนึ่งปี”
เฉินหลิวหลิ่วรู้สึกชอบใจในความโชคร้ายของจื่ออัน “เช่นนั้นก็หมายความว่า ภายในหนึ่งปีนี้ เจ้าก็จะอภิเษกกับท่านอ๋องไม่ได้น่ะสิ? ถ้าเจ้าท้องขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไรเล่า?”
จื่ออันกล่าวอย่างไร้อารมณ์ “เก็บท่าทางที่ดูไร้ศีลธรรมของเจ้ากลับไปซะ ข้าไม่ท้องแน่นอน ข้ากับเขาบริสุทธิ์ใจต่อกัน เมื่อคืนนี้ไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นทั้งนั้น”
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น? เจ้านี่ช่างปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ซะจริง!” เฉินหลิวหลิ่วมองนางอย่างเห็นอกเห็นใจ
มู่หรงจ้วงจ้วงอดที่จะขำไม่ได้ “พอเถิด หลิวหลิ่ว ไม่มีใครเหมือนกับเจ้าหรอก ที่ต้องการจะหลับนอนกับใครสักคนเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายได้แต่งงานกับคนผู้นั้น เจ้าลองหยุดพักบ้าง ดีไหม?”
เฉินหลิวหลิ่วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “จะหยุดได้อย่างไรเล่า? หม่อมฉันลำบากใจจะแย่อยู่แล้ว และหม่อมฉันก็ไม่ได้ชอบซูชิงด้วย”
“พูดก็พูดเถิดนะ ข้าคิดว่าซูชิงจะต้องไม่ชอบเจ้าเช่นกัน ข้าแนะนำเจ้าให้นะ แสร้งไปมาหาสู่กับซูชิงก่อน แน่นอนว่า ซูชิงไม่เต็มใจแน่นอน เจ้าก็ให้ผลประโยชน์กับเขา” จื่ออันโน้มตัวเข้าไปใกล้ข้าง ๆหูนาง แล้วกระซิบบางอย่าง
พอเฉินหลิวหลิ่วฟังจบ ก็พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “เป็นวิธีการที่ดี”