ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 436
อย่างน้อยตอนนี้ก็มีเพื่อนอยู่ ในยุคปัจจุบันนั้น นางไม่เคยจะคาดคิดว่าจะสามารถมีเพื่อนได้
เมื่อกลับไปยังเรือนเซี่ยจื่อหย่วน ไม่พบว่าเสี่ยวซุนและกุ้ยหยวนออกมาคอยต้อนรับ จื่ออันจึงส่งเสียงร้องตะโกนจึงได้พบตาวเหล่าต้าออกมาจากห้องหนังสือ “คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว?”
จื่ออันวางกล่องยาลง “ใช่แล้ว เสี่ยวซุนเล่า? ให้นางชงชาเข้ามาให้องค์หญิงและคุณหนูเฉิน”
“เสี่ยวซุนและกุ้ยหยวนออกไปแล้ว ยังไม่กลับมาขอรับ” ตาวเหล่าต้าเอ่ยออกมา
“ออกไปแล้ว? ไปที่ใดกัน?” จื่ออันนั่งลง สัมผัสได้ถึงเหงื่อของตน ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนเย็นแล้ว แต่แสงอาทิตย์ด้านนอกยังคงแรงอยู่ ร้อนเป็นอย่างมาก
“บอกเอาไว้ว่าจะออกไปจัดการธุระขอรับ เป็นคำสั่งของป้าหลานยู่” ตาวเหล่าต้าเอ่ยออกมา
จื่ออันลุกขึ้นยืนในทันที “หลานยู่เป็นคนออกคำสั่งให้พวกเขาออกไปจัดการธุระ? ในจวนนั้นไม่มีคนแล้วหรืออย่างไร? ทำไมถึงต้องให้พวกเขาไป?”
“ไม่ทราบขอรับ ข้าไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เป็นเสี่ยวซุนที่กลับมาแจ้ง นำกุ้ยหยวนออกไปด้วยกัน” ตาวเหล่าต้าพบว่าสีหน้าของจื่ออันค่อย ๆ เปลี่ยนไป ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา “นี่ก็เป็นเวลาสองชั่วยามเข้าไปแล้ว ยังไม่กลับมากันอีก มิใช่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเสียแล้ว?”
จ้วงจ้วงเอ่ย “อย่าเพิ่งกังวลกันไปเลย ระบายโทสะกับทาสรับใช้ ไม่ใช่ลักษณะการก่อเรื่องของฮูหยินผู้เฒ่า คนประเภทนางนั้น คงจะพุ่งเป้ามาที่เจ้าโดยตรง”
จื่ออันส่ายศีรษะ “ที่ข้ากังวลนั้นไม่ใช่ทางด้านของฮูหยิน ข้าเพียงแต่กังวลว่าบ่าวรับใช้ทั้งหลายจะทำการตัดสินใจด้วยตนเอง”
ฮูหยินผู้เฒ่าจริง ๆ แล้วคงจะไม่มามัวใช้กลเม็ดเล็ก ๆ เหล่านี้ สร้างความลำบากให้แก่ทาสรับใช้ สำหรับนางแล้วนั้น จะเป็นการลดทอนเกียรติของตน
แต่สำหรับหลานยู่คนผู้นี้นั้นเป็นคนที่จิตใจคับแคบ ก่อนหน้านี้ตนนั้นเคยตบตีนางมาแล้ว ไม่รู้ว่าจะอาศัยช่วงที่ตนนั้นไม่อยู่แก้แค้นเป็นการส่วนตัวหรือไม่
มู่หรงจ้วงจ้วงเอ่ยออกมา “หากว่าเจ้าเป็นกังวลแล้วนั้น ข้าจะให้คนออกไปตามหา”
จื่ออันเอ่ย “เพคะ รบกวนองค์หญิงแล้ว”
จื่ออันรู้ว่าจ้วงจ้วงนั้นมีคนคอยติดตามอยู่อย่างลับ ๆ ดังนั้นให้พวกเขากลับไปโยกย้ายคนออกตามหา เป็นผลดีกว่าการที่นางออกตามหาสุ่มสี่สุ่มห้ามากนัก
เมื่อออกตามหาแล้วนั้น ก็หาจนมืดค่ำ ก็ยังไม่มีข่าวคราวอันใดกลับมา
จื่ออันในที่สุดอดทนไม่ไหวแล้ว เอ่ยกับตาวเหล่าต้าว่า “ไปยังเรือนฮูหยินผู้เฒ่า เชิญป้าหลานยู่มา”
แม่นมหยางเอ่ย “เชิญก็คงจะเชิญมาไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”
จื่ออันแววตาส่องประกายเย็นชา “ไม่ว่าจะใช้วิธีการใด เชิญมาให้ได้ก็พอ”
ตาวเหล่าต้าเข้าใจคำสั่งของจื่ออัน จึงออกไปในทันที
จ้วงจ้วงเอ่ยปลอบโยน “เจ้าอย่าเพิ่งได้กังวลใจไป คนมากมายออกไปตามหา คงจะรู้ข่าวในเร็ว ๆ นี้”
จ้วงจ้วงและหลิวหลิ่วต่างก็คิดว่าคงจะไม่เกิดเรื่องขึ้น บางทีอาจจะเรียกพวกเขาทั้งสองออกไปจัดการจัดการธุระจริง ๆ ท้ายที่สุดแล้ว ในช่วงระยะสำคัญเช่นนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าไม่จำเป็นที่จะต้องยั่วยุจื่ออัน เพราะว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนั้นเพิ่งจะผ่านพ้นไปเพียงไม่นาน ตอนนี้กรมอาญาเพิ่งจะแจ้งปิดคดีไป แต่ว่าสายตายังคงจับจ้องมายังจวนมหาเสนาบดีอยู่
โดยเฉพาะในตอนนี้ยังคงมีการช่วงชิงที่ดินตรงสวนดอกไม้ด้านหลังกับจวนมหาเสนาบดีอยู่ ฮูหยินผู้เฒ่าเข้าใจเป็นอย่างดี หากในตอนนี้นางก่อความรำคาญให้แก่จื่ออันแล้ว ก็จะไม่มีผลดีอันใดกับนาง
แต่ว่ามู่หรงจ้วงจ้วงในใจนั้นยังคงเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย จริง ๆ มีป้าสองท่านที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายฮูหยินเฒ่านั้น หลายปีมานี้ในจวนเสนาบดีนั้นได้รับควมยำเกรงเป็นอย่างมาก บางทีอาจจะปิดบังฮูหยินผู้เฒ่าแล้วก่อเรื่องทำร้ายกุ้ยหยวนแล้วเสี่ยวซุนจริงก็เป็นได้
นางและเฉินหลิวหลิ่วสบตากัน เฉินหลิวหลิ่วนั้นภายในใจค่อนข้างที่จะสั่นไหว ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ได้พบปะกับเสี่ยวซุนค่อนข้างมาก ไม่พูดถึงว่ามีหรือไม่มีความรู้สึก แต่นางนั้นชื่นชอบเสี่ยวซุนเป็นอย่างมาก ไม่หวังให้นางเกิดเรื่องอันใดขึ้น
หยวนชุ่ยอวี่และจื่ออันต่างไม่มีความสุขนัก โดยเฉพาะหยวนชุ่ยอวี่มองเห็นว่าจื่ออันเป็นกังวล นางเองก็เศร้าเสียใจ นางตั้งแต่สูญเสียการมองเห็นเป็นต้นมา ก็ไม่อาจที่จะดูหนังสือได้ เมื่อดวงตาฟื้นฟูดีขึ้นมา ก็สามารถบังคับตนให้อ่านตัวอักษรขึ้นมาได้ นางวันนี้จึงกระโจนเข้าใส่ห้องหนังสือ กลับไม่รู้ว่าเซี่ยจื่อหย่วนเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นขนาดนี้
ตาวเหล่าต้าเข้าไปยังเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า ป้าหลานยู่ที่กำลังปรนนิบัติรับใช้ฮูหยินผู้เฒ่าทานอาหารอยู่