ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 452

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 452

หลานยู่กล่าวอย่างเหยียดหยาม “ร้องทุกข์? นางไม่ใช่คนเปิดศาลเสียหน่อย ถึงนางบอกว่าจะไปร้องทุกข์แต่ก็ต้องมีหลักฐาน จะว่าไปแล้วกับอีแค่บ่าวรับใช้เพียงสองคน ทางศาลคงจะไม่รับเรื่องร้องทุกข์หรอกเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ามองนางด้วยสายตาอันว่างเปล่า แทบจะไม่เชื่อเลยว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของนางได้

นึกถึงเมื่อครั้งเก่าก่อนที่เลือกพวกนางสองคนให้มาอยู่ข้างกาย นั่นก็เพราะพวกนางฉลาดและมีไหวพริบ ทว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พวกนางเปลี่ยนไปเป็นคนที่อวดดีเจ้ากี้เจ้าการ อีกทั้งโง่เขลาเบาปัญญา?

“เจ้าหมายความว่า บุตรตรีของจวนเสนาบดีผู้สง่างามไปร้องทุกข์ แล้วทางศาลจะไม่รับฟ้องอย่างนั้นเหรอ?” ฮูหยินผู้เฒ่าถามด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

“บ่าว…” ป้าหลานยู่เห็นฮูหยินผู้เฒ่าที่จู่ ๆ ก็โกรธขึ้นมา ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าตนเองได้ล้ำเส้นนางเข้าให้แล้ว จึงได้รีบคุกเข่าลง “ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดระงับโทสะด้วยเจ้าค่ะ นางบอกว่าจะไปร้องทุกข์ ท่านก็แค่ไม่ให้นางไปก็ได้นี่เจ้าคะ? ท่านสามารถคุมขังนางไว้ได้ อีกทั้งคนในจวนก็ล้วนเป็นคนของท่าน ฟังแต่คำสั่งของท่าน เพียงแค่คุมขังนางไว้ และไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วน นางก็ไม่อาจต่อกรกับท่านได้แล้วเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ จากที่โมโหถึงขีดสุดแปรเปลี่ยนมาเป็นยิ้ม “ดีมาก หลานยู่ เจ้าช่างมองข้าสูงส่งเสียจริง ข้าไม่มีความสามารถที่จะคุมขังนางได้หรอก เจ้าคิดว่านางคือเซี่ยจื่ออันคนเดิมอย่างนั้นรึ? และเจ้าคิดว่าข้าสามารถห้ามไม่ให้ผู้สำเร็จราชการกับองค์หญิงใหญ่มาหานางที่จวนนี้ได้สินะ?”

ชุ่ยยู่กล่าวอย่างอดไม่ได้ “หลานยู่ เจ้าก็น่าจะรู้ หากไปร้องทุกข์จริง ๆ เจ้ามีเจตนาทำร้ายคนและค้ามนุษย์ ถึงไม่โดนประหารชีวิต แต่ชั่วชีวิตนี้ของเจ้าก็อย่าหวังว่าจะลืมตาอ้าปากได้”

ตอนนี้เองที่ป้าหลานยู่เกิดวิตกกังวลขึ้นมา รีบโขกศีรษะ “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านจะต้องช่วยบ่าวนะเจ้าคะ บ่าวแค่ต้องการจะให้บทเรียนนางสักเล็กน้อย ไม่ได้ต้องการให้เกิดเรื่องร้ายแรงถึงเพียงนี้เลยเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างนิ่งสงบ “ดังนั้น ข้าถึงได้บอกไปเมื่อครู่นี้ไงเล่าว่า ข้าจะปกป้องเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ให้เจ้าออกไปจากจวนมหาบดีนี่เสีย”

นางไม่ต้องการให้ที่คนโง่เขลาถึงขนาดนี้มาอยู่ข้างกาย หากไม่คำนึงถึงเรื่องที่หลานยู่รู้ความลับของนางมากมาย อีกทั้งยังรับใช้นางมาหลายปี ครั้งนี้นางจะไม่ช่วยเหลือบ่าวคนนี้โดยเด็ดขาด

แถมวิกฤตการณ์ครานี้ นางไม่อาจไปแทรกแซงการทำงานของศาลได้

หลานยู่ทรุดตัวลงนั่งที่พื้น ใบหน้าแลดูสิ้นหวัง นางไม่เคยคิดถึงเรื่องที่จะต้องออกไปจากจวนมหาเสนาบดีมาก่อน เดิมทีนางคิดว่าจะสามารถพึ่งพาอาศัยฮูหยินผู้เฒ่า ได้เสพสุขชั่วชีวิต แม้ว่าจะเป็นเพียงบ่าวรับใช้ ทว่าในตอนนี้นางที่อยู่ในจวนมหาเสนาบดีก็ถือว่าเป็นที่โปรดปรานมาก ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ

เมื่อออกจากจวนมหาเสนาบดีไปแล้ว นางก็จะไม่เหลืออะไร

ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ไปกัน!”

จื่ออันนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ ทุกคนในห้องต่างรู้ดีว่านางมาถามหาความชอบธรรม จึงไม่มีใครกล้าเมินเฉย ยกชาและขนมมาให้นางได้ทานอย่างชื่นอารมณ์

พวกเขาทำไมถึงแปลกไปขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่านางก็คือคน ๆ นั้นที่ก่อนหน้านี้ไม่มีปากเสียงอะไร ไม่มีใครใส่ใจนาง ทว่าตอนนี้นางที่หอบเอาความโกรธมาด้วย กลับทำให้ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นนางได้อีก

“ฮูหยินผู้เฒ่า!” บ่าวรับใช้ที่อยู่หน้าประตูพอเห็นว่าฮูหยินผู้เฒ่ามาแล้วก็รู้สึกโล่งอก รีบคำนับจากนั้นก็ถอยไปด้านข้าง

ฮูหยินผู้เฒ่าก้าวเข้ามา แต่ก็ไม่ได้มองจื่ออัน เดินตรงไปนั่งลงยังที่นั่งที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งอยู่เบื้องหน้าของนาง

ชุ่ยยู่อยู่ข้าง ๆ นาง ส่วนหลานยู่อยู่ที่ประตู ดูลังเลเล็กน้อย แต่ก็ตามเข้ามา

หลังจากนั่งลงแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าก็มองดูท่าทางที่ดูอึมครึมของจื่ออัน “บอกมา เจ้ามาหาข้าดึกดื่นขนาดนี้ด้วยเรื่องอันใดกัน?”

จื่อเงยหน้าขึ้น กวาดสายตามองไปที่ใบหน้าของป้าหลานยู่ แล้วค่อย ๆ ไปหยุดอยู่ตรงหน้าฮูหยินผู้เฒ่า “คนในเรือนข้าทั้งสองคน มีคนหนึ่งถูกขายไปที่โรงเหล้าเดือนค้างฟ้า อีกคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่ในป่านอกเมือง ฮูหยินผู้เฒ่าจะอธิบายให้ข้าฟังอย่างไร?”

“เจ้าต้องการให้ข้าอธิบายสิ่งใด?” ฮูหยินผู้เฒ่าหรี่ตามองจื่ออัน ความอดทนต่อเซี่ยจื่ออันถึงขีดสุด แต่ก็ต้องทนต่อไปเพียงอีกไม่กี่วันเท่านั้น

จื่ออันแบมือทั้งสองออกอย่างช่วยไม่ได้ “ทำร้ายคน ขายสาวใช้ของข้าให้โรงเหล้าเดือนค้างฟ้า นี่เป็นความผิดทางอาญา ข้าต้องไปร้องทุกข์เจ้าค่ะ”

“ร้องทุกข์?” ฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้ว “เจ้าคิดว่านี่เป็นวิธีการจัดการที่ดีที่สุดแล้วอย่างนั้นหรอกรึ? ในตอนนี้จวนมหาเสนาบดีของพวกเราก็มีข้อพิพาทมากมายอยู่แล้ว การร้องทุกข์ ก็แค่ทำให้จวนของเราเป็นขี้ปากชาวบ้านมากขึ้นก็เท่านั้น ข้าไม่เห็นด้วย”

จื่ออันกล่าวอย่างเมินเฉย “หากฮูหยินผู้เฒ่าไม่เห็นด้วย เช่นนั้น ช่วยแนะนำข้าหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ? ข้าได้เสนอความคิดเห็นไปแล้วว่าต้องการเจรจากับท่าน หวังว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะแสดงความจริงใจออกมาบ้างนะเจ้าคะ”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท