ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 460
“เจ้าเป็นหมอมิใช่รึ?” อ๋องเหลียงดึงไหล่จื่ออันมา มองนางอย่างตั้งใจ “ได้ยินเจ้าบอกให้ข้ารวบรวมความกล้าไปแสวงหาชีวิตที่ต้องการ เจ้าจะทำหูทวนลมมิได้นะ”
“หม่อมฉันก็แค่พูดออกมาเฉย ๆ เพียงไม่กี่คำก็สามารถโน้มน้าวใจท่านได้มากขนาดนี้เชียวหรือ? หม่อมฉันเป็นเพียงหมอคนหนึ่ง” จื่ออันรู้สึกได้ว่า ความจริงแล้วเขาคิดเช่นนี้มาโดยตลอด เพียงแค่รอให้ใครสักคนพูดออกมา เขาก็จะก้าวไปสู่ขั้นที่โน้มน้าวใจตนเองได้
“เช่นนั้นเสด็จแม่ก็ให้เจ้ารักษาที่ส่วนนั้นของข้าด้วยใช่หรือไม่?” อ๋องเหลียงจ้องนางพลางถามไปพลาง
จื่ออันพยักหน้า “ใช่เพคะ นางเคยพูดกับหม่อมฉัน”
อ๋องเหลียงปล่อยนาง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที และยิ้มขึ้นมาอย่างเยือกเย็น “คิดไว้แล้วเชียว!”
จื่ออันชะงักไปเล็กน้อย “ท่านอ๋องหมายความว่าอย่างไร?”
อ๋องเหลียงยืนขึ้น พูดจาฟังดูเย็นชา “เจ้าไปได้แล้ว ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่อีก”
จื่ออันสับสนมึนงง เมื่อครู่นี้เขายังดูเป็นมิตรอยู่เลย เหตุใดจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนท่าทีไป
อ๋องเหลียงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไปซะ!”
จื่ออันได้แต่ถือกล่องยา เดินออกมาอย่างสงสัย
จู่ ๆ อ๋องเหลียงก็โมโหขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย นางเองก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดไป
พอออกมาที่หน้าประตูจวนอ๋องเหลียง องครักษ์จินที่รับใช้อยู่ข้างกายของเขาก็ตามนางออกมาด้วย และเรียกให้นางหยุด “คุณหนูใหญ่ ท่านอ๋องให้บ่าวมาบอกเรื่องบางอย่างกับท่าน”
“บอกมา!” จื่ออันกล่าว
องครักษ์จินกล่าว “อ๋องเหลียงไม่ได้จะโมโหใส่ท่าน อย่าได้เก็บเอาไปใส่ใจเลย เขาจะไปคุยกับฮองเฮาด้วยตนเอง บอกว่าท่านไม่จำเป็นต้องมารักษาเขาอีกแล้ว ฮองเฮาจะได้ไม่ตำหนิท่าน
จื่ออันไม่เข้าใจจึงถามออกไป “องครักษ์จิน เหตุใดท่านอ๋องถึงโมโหได้ถึงเพียงนั้นเล่า?”
องครักษ์จินกล่าวเสียงค่อย “มีบางเรื่อง ที่เป็นความลับระหว่างฮองเฮากับท่านอ๋อง อีกทั้ง ท่านอ๋องก็ยังเคยพูดไว้ว่า ไม่ให้ฮองเฮาเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร และก็จะไม่รับการรักษาใด ๆ อีกด้วย”
จื่ออันอุทานอ๋อออกมา ดูแล้วท่าทางที่กระตือรือร้นของเขาที่แสดงออกมาเมื่อครู่นี้ ก็เพื่อหยั่งเชิงนางก็เท่านั้น
“เรื่องนี้ต้องขอให้คุณหนูใหญ่ช่วยเก็บไว้เป็นความลับด้วย” องครักษ์จินมีสีหน้าที่แลดูวิงวอน
จื่ออันมีท่าทางที่จริงจัง “วางใจเถิด ข้ารู้อะไรควรไม่ควร ไม่ไปบอกใครแน่นอน”
“เช่นนั้นบ่าวขอส่งคุณหนูใหญ่ตรงนี้” องครักษ์จินกล่าว
เมื่อขึ้นไปบนรถม้าแล้ว จื่ออันก็นึกถึงสายตาที่ดูกระตือรือร้นของอ๋องเหลียงขึ้นมา ความจริงแล้ว เขาบอบช้ำจากชีวิตของตนเองที่เป็นอยู่ ทว่าเขาก็ไม่กล้าพอที่จะพยายาม เพราะมันเกี่ยวข้องกับความภาคภูมิใจของบุรุษที่แท้จริง
เขาเองก็ไม่กล้าที่จะหวังอะไร เพราะอาการบาดเจ็บที่ขาทำให้เขาผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว
จื่ออันคิดไม่ตกตลอดทางที่ไปจวนผู้สำเร็จราชการ
แม้ว่าอ๋องเหลียงจะโกรธ แต่คำแนะนำเมื่อครู่นี้ของเขา นางก็ได้พิจารณาอย่างจริงจัง หากกุ้ยหยวนเต็มใจ แต่การแสวงหาประสบการณ์ในกองทัพอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี แน่นอนว่า ต้องให้ทั้งสองฝ่ายเห็นดีด้วย นอกจากที่ต้องถามความคิดเห็นของกุ้ยหยวนแล้ว ก็ยังต้องถามความคิดเห็นของมู่หรงเจี๋ยอีก
มาถึงจวนผู้สำเร็จราชการแล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะมีแขก
เป็นบุรุษที่สูงมากคนหนึ่ง ใบหน้าหมองคล้ำ หน้าตามีส่วนคล้ายเซียวท่าอยู่บ้าง ทว่าดูเย็นชากว่าเซียวท่ามากนัก เยือกเย็นจนทำให้คนตัวสั่นได้โดยไม่มีเหตุผล
เขามีไอสังหารอยู่รอบตัว ราวกับว่าในมือของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด จุดนี้คล้ายกับตอนที่นางเจอกับมู่หรงเจี๋ยครั้งแรก แต่มู่หรงเจี๋ยก็ไม่ได้เยือกเย็นถึงเพียงนี้ เพราะโดยปกติเขาก็เป็นคนเฉยชาอยู่แล้ว ทว่ากลับซ่อนความอำมหิตเอาไว้
เขาสวมเสื้อเกราะสีทอง ดูเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง นั่งหลังตรงมาก ท่านั่งแบบนี้ เป็นท่าของทหาร พอเห็นนางเข้ามา เขาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าแลดูไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ ราวกับใบหน้านั้นแกะสลักมาจากน้ำแข็ง
จู่ ๆ ก็ผุดชื่อหนึ่งขึ้นมาในสมองของจื่ออัน นั่นก็คือ เซียวเซียวแม่ทัพใหญ่แห่งราชวงศ์ต้าโจว