ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 481
เดินลากเท้าที่หนักอึ้งกลับมายังจวนมหาเสนาบดี แม่นมหยางก็ได้ถือโคมไฟออกมา พอเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของนาง ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม “คุณหนูใหญ่ เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?”
จื่ออันส่ายหัว “ข้าไม่เป็นอะไร ท่านไปพักผ่อนเถิด ข้าอยากอยู่คนเดียวสักพัก”
แม่นมหยางมองนางอย่างสงสัย แต่ก็หาได้ถามสิ่งใดไม่ “ได้เจ้าค่ะ เช่นนั้นท่านก็ต้องรีบพักผ่อนด้วยนะเจ้าคะ”
นางเข้าไปช่วยจัดเตียงของจื่ออันให้เป็นระเบียบ เห็นจื่ออันที่นั่งข้างเตียงอย่างว่างเปล่า ก็มีท่าทีที่หนักใจ จากนั้นก็ถอนหายใจเบา ๆ “มีเรื่องอะไร ก็อย่าเพิ่งคิดถึงมันเลย พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ”
จื่ออันเงยหน้าขึ้น มองดูแม่นมหยางด้วยสายตาที่แลดูหมดหวังเล็กได้ “ได้ ข้ารู้แล้ว”
แม่นมหยางหันหลังจะเดินออกไป “บ่าวจะคอยเฝ้าอยู่นอกห้อง หากคุณหนูใหญ่อยากคุยกับใครสักคน บ่าวพร้อมเสมอนะเจ้าคะ”
นางปิดประตู จื่ออันได้ยินเสียงลากเก้าอี้ดังมาจากด้านนอก นางก็รู้ว่าแม่นมหยางจะอยู่เฝ้าที่นี่ทั้งคืน
จื่ออันนั่งขดตัวอยู่ตรงเก้าอี้ยาวริมหน้าต่าง นางรู้ว่ามู่หรงเจี๋ยจงใจพูดประโยคนั้น เพื่อให้นางจากไป
แต่ว่านางเองก็รู้ว่า ความจริงแล้วเขาก็โทษนางอยู่บ้าง เพียงแค่ไม่อยากจะตำหนิ นางอยากให้เขาดุนางบ้างเล็กน้อย เพราะนางถือดีเกินไป เรื่องลับลมคมในตอนนั้น อาจจะไม่เกี่ยวอะไรกับโรคผีดิบเลยก็ได้
นางทำร้ายหนี่หรง ทำร้ายสะใภ้ใหญ่หวาง และทำร้ายทหารองครักษ์คนนั้น
นางทำให้เซี่ยหลินต้องตาย ตอนนี้มีคนตายเพราะนางสามคนแล้ว
นางนอนไม่หลับทั้งคืน ในสมองเอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องโรคผีดิบ คิดว่าเหตุใดจู่ ๆ หวางหยูถึงฟื้นขึ้นมา มันแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
เส้นลมปราณถูกผนึกไว้ เข้าสู่สภาวะแกล้งตาย ขนาดมู่หรงเจี๋ยในเวลานั้นยังไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้ เพราะจำเป็นต้องให้นางดึงเข็มออกก่อนถึงจะทำได้
หวางหยูคลายเส้นลมปราณออกได้อย่างไร?
คิดไตร่ตรองทั้งคืน คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน
เช้าตรู่ในวันถัดไป เซียวท่าก็มา
เมื่อคืนนี้มู่หรงเจี๋ยสั่งคนให้มาแจ้งเขา เพื่อให้เขาพาจื่ออันออกจากเมืองหลวงไป
เขาเองก็รู้เรื่องของหนี่หรงทุกเรื่อง วันนี้พอมาถึงจวนมหาเสนาบดี มองเห็นหลังของจื่ออันจึงพูดขึ้นมาประโยคแรก “เจ้าจะไปทั้ง ๆ แบบนี้น่ะเหรอ?”
จื่ออันไม่พูดอะไร นางไม่อยากไป ทว่าถ้าไม่ไปแล้วอยู่ที่นี่ต่อจะมีประโยชน์อันใด?
นางช่วยอะไรไม่ได้
“ถ้าไปตอนนี้ ทางจวนมหาเสนาบดีจะหยุดเจ้าไว้ไม่ได้ แต่หากผ่านไปสองวันแล้ว เกรงว่าพอถึงตอนนั้นถึงอยากจะไปก็คงไปไม่ได้แล้ว” เซียวท่าพูดขึ้นมาอีกครั้ง
จื่ออันมองดูเขา “เช่นนั้น เจ้าอยากให้ข้าจากไป หรือว่าอยากให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อไปเล่า?”
“ข้าไม่รู้ ท่านอ๋องให้ท่านไป ท่านก็จำต้องไป แต่ว่าข้าก็หวังว่าจะได้ยินข่าวดีจากปากของท่าน” เซียวท่ามองดูนาง มีความหวังที่โชติช่วงผุดขึ้นในดวงตา
เพียงแค่ความหวังนั้นก็ค่อย ๆ ดับลง เมื่อเขาเห็นความมืดหม่นบนใบหน้าของจื่ออัน
นางก็หมดสิ้นหนทาง
เซียวท่าไม่ปล่อยให้นางพูดอะไรต่อ “ไปกันเถิด!”
หยวนฉุ่ยยวี่เก็บของเสร็จตั้งนานแล้ว แม่นมหยาง ตาวเหล่าต้าและเสี่ยวซุนหอบของเอาไว้ยืนรออยู่หน้าประตู ทุกคนต่างมองไปที่จื่ออัน เพื่อรอนางออกคำสั่ง
จื่ออันกลับนั่งลงตรงขั้นบันไดหิน
“ข้าไปไม่ได้!” จู่ ๆ จื่ออันก็เงยหน้าขึ้นมองเซียวท่า “เจ้ากลับไปแจ้งท่านอ๋องด้วยว่า ข้าจะไม่ไป”
“ไม่ได้ ท่านอ๋องบอกว่า หากเจ้าหมดหนทางจัดการกับโรคนี้แล้ว ก็จำเป็นจะต้องจากไป”
“ไม่” จื่ออันตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในทันที “ข้าไม่ไป”
เซียวท่ารู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว “เจ้ายังคิดจะทำอะไรต่ออีก? ตอนนี้ก็ทำให้หนี่หรงถูกกัดไปแล้ว ต้องทำร้ายคนอีกกี่คนถึงจะสาแก่ใจเจ้ากันเล่า?”