ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 482
“เซียวท่า เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอะไร? หุบปากเจ้าซะ!” เสียงใสดังขึ้นมา มันคือเสียงของหลิวหลิ่ว
นางแบกห่อผ้าไว้บนหลัง พาสาวใช้เข้ามาด้วย พอได้ยินคำพูดของเซียวท่าจากด้านนอกประตู ก็โกรธขึ้นมาทันที
เซียวท่าเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยสีหน้าที่อึมครึม “เจ้ามาทำอะไร?”
หลิวหลิ่วมองไปที่จื่ออัน “ท่านย่าให้ข้ามา นางบอกว่าเจ้าจะออกไปจากเมืองหลวง จึงให้ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าด้วย
จื่ออันชะงักไปเล็กน้อย “ท่านย่าของเจ้ารู้ว่าข้าจะออกจากเมืองหลวงด้วยเหรอ?”
“ใช่ นางรู้”
“ใครบอกนาง?”
หลิวหลิ่วส่ายหัว “ข้าไม่รู้ แต่ว่ายายแก่หูตากว้างไกลมาโดยตลอด แม้ว่าจะไม่มีใครบอกนาง แต่นางก็จะรู้ได้เอง”
จื่ออันไม่ได้พูดอะไร แต่ก็รู้ว่ามีคนของเหล่าไท่จวินในกองทัพที่ในกองทัพมีโรคผีดิบระบาด ทำให้ราชสำนักหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง พวกหมอก็ต้องถูกเรียกตัวไป ดังนั้นเหล่าไท่จวินจึงคาดเดาว่าผู้สำเร็จราชการจะต้องให้นางออกไปด้วย
แต่สิ่งที่นางไม่เข้าใจก็คือ เหตุใดเหล่าไท่จวินถึงให้หลิวหลิ่วไปกับนางด้วย?
เซียวท่ามองเฉินหลิวหลิ่ว “เจ้าจะมาวุ่นวายอะไรอีก? รีบกลับไปซะ!”
หลิวหลิ่วมองเซียวท่าด้วยสายตาที่รู้สึกผิดหวังมาก “เดิมทีข้าคิดว่าท่านจะเป็นคนที่รู้จักแยกแยะบุญคุณและความแค้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนที่แยะแยะถูกผิดไม่ได้ เจ้าพูดว่าจื่ออันทำร้ายหนี่หรง แล้วนางต้องการให้เป็นเช่นนั้นหรืออย่างไร? นางเองก็อยากช่วยชีวิตคนเหมือนกันมิใช่หรือ?”
“เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?” เซียวท่าจ้องมองนาง
“ซูชิงบอกกับข้า” หลิวหลิ่วสับเท้าก้าวเข้าไป ดึงมือของจื่ออันมา “ท่านย่าบอกว่า เจ้าออกจากเมืองหลวงไปเป็นวิธีการที่ดีที่สุด พวกเราไปกันเถิด”
เซียวท่าจับแขนของเฉินหลิวหลิ่วเอาไว้ และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เหตุใดซูชิงต้องบอกเรื่องนี้กับเจ้าด้วย?”
“ไม่ว่าเรื่องอันใดซูชิงก็บอกข้าทุกอย่าง” เฉินหลิวหลิ่วผละออกจากเขา “อย่างไรเสียข้าก็รู้เรื่องแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ไปเสียเถิด ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าติดตามพวกเราไปด้วย เจ้ากลับไปแจ้งท่านอ๋อง บอกเขาว่าเฉินหลิวหลิ่วพาจื่ออันไป อีกทั้งการเดินทางครั้งนี้ก็มีคนที่ท่านย่าเตรียมไว้ให้คอยคุ้มกันแล้ว จะไม่มีใครทำร้ายพวกเราได้”
“ซูชิงบอกเจ้าทุกเรื่องเลยเหรอ? ทำไมกันเล่า? เหตุใดเขาถึงต้องบอกเจ้าด้วย?” เซียวท่ายังไม่ปล่อยประเด็นนี้ไป
“เรื่องนี้ข้าต้องขอบคุณท่านมิใช่เหรอ? ท่านแนะนำซูชิงให้ข้ารู้จัก รอวันที่เราทั้งสองได้แต่งงานกัน จะต้องเชิญท่านมาดื่มสุรามงคลอย่างแน่นอน”
เซียวท่ากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ใครจะไปสนสุรามงคลของพวกเจ้ากัน? เจ้าจะพานางไปใช่ไหม? ดี มีคนของตระกูลเฉินของพวกเจ้าออกไปด้วย ข้าจะได้ไม่ต้องคอยดูแล”
พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปทันที
จื่ออันมองไปที่เฉินหลิวหลิ่ว “เจ้าทำเกินไปหรือเปล่า? ขนาดเรื่องสุรามงคลยังพูดขึ้นมาได้?”
เฉินหลิวหลิวพูดออกมาอย่างกังวล “เปล่านะ ข้าไม่ได้พูดเล่น หากเขาไม่แต่งกับข้า แต่ซูชิงเต็มใจจะแต่ง อีกทั้งซูชิงยังบอกว่าอย่างไรเสียข้าก็ต้องหาใครสักคนมาแต่งงานด้วย ถึงเวลานั้นถ้าเขาเจอผู้หญิงดี ๆ ก็ค่อยหย่า ซึ่งข้าก็ยินดี”
ตอนนี้จื่ออันไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจเรื่องพวกนี้ เพียงมองไปที่นางแล้วกล่าว “ท่านย่าเจ้าต้องการคุ้มกันข้าให้ออกจากเมืองหลวงไปเหรอ?”
“เข้าไปคุยกันด้านใน” เฉินหลิวหลิ่วมองไปที่ด้านหลัง แล้วไม่เห็นใครจึงดึงตัวนางเข้าไป
หลังจากเข้ามาแล้ว นางก็ปิดประตู กล่าวออกมาอย่างจริงจัง “เจ้าไปไม่ได้แล้ว ท่านย่าบอกว่าตอนนี้ไท่เฟยกับฮูหยินผู้เฒ่าได้วางกำลังคนซุ่มโจมตีเจ้าเอาไว้ หากเจ้าไป เมื่อออกจากเมืองหลวงได้ไม่นานเท่าไหร่ก็จะเผชิญหน้ากับมือสังหาร เขาจะไม่เอาชีวิตเจ้าโดยตรง แต่จะบังคับให้เจ้ากลับมาเมืองหลวงไม่ก็กักขังเจ้าเอาไว้ ถึงเวลานั้นพอมีพระราชเสาวนีย์ลงมา พวกนางถึงจะปล่อยเจ้า”
“พวกนางร่วมมือกันอย่างนั้นเหรอ?” จื่ออันขมวดคิ้ว
“ใช่ ยายเฒ่าจากตระกูลของเจ้า ถ้าไม่มีผลประโยชน์คงไม่ร่วมมือด้วยหรอก กุ้ยไท่เฟยจะต้องให้ข้อเสนอที่ดีมากแน่ ๆ ถึงทำให้นางเปลี่ยนฝั่งไปช่วยเหลือได้”
“แต่ว่า พวกนางแน่ใจเหรอว่าจะมีพระราชเสาวนีย์ลงมา?”
“แน่นอนอยู่แล้ว หวงไท่โฮ่วเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของกุ้ยไท่เฟย ความสัมพันธ์ของพวกนางก่อนหน้านี้ก็ถือว่าดีอยู่ ท่านย่าบอกว่า กุ้ยไท่เฟยเข้าวังไปบอกกับหวงไท่โฮ่วแล้ว นางรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย ตอนนี้สถานการณ์แย่ลง ที่สุดแล้วฮวงไท่โฮ่วก็ต้องมีพระราชเสานีย์ลงมา พวกนางเป็นคนเตรียมพื้นที่โรคระบาด หากเจ้าเข้าไปในพื้นที่นั้น เจ้าก็คงจะรู้ผลที่จะตามมา?”
จื่ออันกล่าวถามอย่างสงสัย “ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ เหตุใดท่านย่าของเจ้าถึงยังให้ติดตามข้าออกไปอีก?”
เฉินหลิวหลิ่วเข้าไปพูดให้นางฟังใกล้ ๆ “ท่านย่าบอกให้ข้าเล่าสถานการณ์เหล่านี้ให้เจ้าฟัง แล้วเจ้าก็จะคิดหาทางออกได้เอง”