ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 487

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 487

หลังจากจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เซียวท่าจึงเข้าไปแจ้งมู่หรงเจี๋ยว่าจื่ออันยังไม่ได้ออกจากเมืองหลวง มู่หรงเจี๋ยจึงโกรธมาก

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าวันนี้ในที่ประชุม มีคนเสนอขึ้นมาว่า ได้ยินข่าวลือว่าเซี่ยจื่ออันสามารถรักษาโรคผีดิบนี้ได้? หลักจากที่ข่าวนี้แพร่ออกไป จะมีคนมากมายเท่าไหร่ที่จะบีบบังคับให้ข้าออกคำสั่งให้นางไปยังเขตที่มีการระบาด?”

“มีข่าวนี้แพร่ออกมา? ใครเป็นคนแพร่ข่าวกัน? นี่เป็นการทำร้ายนางชัด ๆ?” เซียท่าตกใจมาก

“จะมีใครอีกเล่า? ใครเป็นคนก่อเรื่องนี้ก็คนนั้นนั่นแหละที่เป็นคนปล่อยข่าว” เห็นได้ชัดว่ามู่หรงเจี๋ยโกรธมาก และเหนื่อยล้ามากเช่นกัน แค่จัดการกับความตื่นตระหนกกับการคาดเดาของขุนนางเหล่านั้น ก็ทำให้จะบ้าตายอยู่แล้ว นี่ยังมีข่าวลือแพร่ออกมาอีก

“เป็นเฉินไท่จวินที่เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ ให้เฉินหลิวหลิ่วพาตัวนางไป อีกทั้งเฉินไท่จวินก็ทราบข่าวมาว่า มีคนซุ่มโจมตีอยู่ตลอดทาง ดังนั้นจึงออกจากเมืองหลวงไปไม่ได้”

มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างโมโห “ในเมื่อข้าเตรียมการให้นางไป ก็ย่อมจะตระหนักถีงจุดนี้ ทางนั้นส่งคนมาซุ่มโจมตีตลอดทาง ข้าเองก็เตรียมคนไว้ต่อสู้กับมือสังหารเหล่านั้นไว้แล้วเหมือนกัน”

เซียวท่ารู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “ขออภัยที่ข้าจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี”

“ช่างเถิด” มู่หรงเจี๋ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มองเขาแล้วถาม “เช่นนั้นถ้านางจะอยู่ต่อ ได้บอกไหมว่าหาวิธีได้แล้ว? หรือพูดในทำนองที่ว่ามีสัญญาณในทางที่ดี?

“นางให้ตาวเหล่าต้ามาพาหนี่หรงไปที่เรือนเล็กของตระกูลเฉิน เพื่อทดลองรักษา”

มู่หรงเจี๋ยขมวดคิ้ว “เช่นนั้นอย่าให้ใครรู้โดยเด็ดขาดว่าในเมืองหลวงมีคนที่เป็นโรคผีดิบอยู่ มิเช่นนั้นเรือนเล็กของตระกูลเฉินก็จะถูกล้างบางในไม่ช้า”

“มีคนคอยสังเกตการณ์อยู่ด้านนอก แต่ว่าเรือนเล็กของตระกูลเฉินนี้มีประโยชน์ คือมีอุโมงค์และก็ห้องลับ สามารถทะลุออกไปนอกเมืองหลวงได้ หากเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ ก็สามารถหลบหนีออกไปทางอุโมงค์ได้ ตอนนี้พวกหนี่หรงถูกจัดให้อยู่ในห้องลับแล้ว”

มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างประหลาดใจ “อุโมงค์? เหล่าไท่จวินยังมีด้านที่เก่งอยู่สินะ? ยายเฒ่าผู้นี้ยากแท้หยั่งถึงจริง ๆ”

แม้ว่าเขาจะหงุดหงิดที่จื่ออันไม่เชื่อฟัง แต่พอได้ยินสิ่งที่เซียวท่าเล่าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันก็เป็นการจัดการที่ดี อย่างน้อยก็ดีกว่าการออกจากเมืองหลวงไป

อยู่ในสายตาเขา ก็วางใจได้เล็กน้อยแล้ว

ซูชิงเข้ามาพร้อมกับสายลมยามค่ำคืน และกล่าวเบา ๆ “ท่านอ๋อง ทหารองครักษ์ที่ไปยังเกาะวิปลาสได้กลับมาแล้ว”

มู่หรงเจี๋ยเงยหน้าขึ้นทันที “ให้เข้ามาได้!”

บุรุษอายุราว ๆ สามสี่สิบปีก็รีบเดินเข้ามา ยกมือคารวะ “ท่านอ๋อง กระหม่อมกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

มู่หรงเจี๋ยมองเขาแล้วเอ่ยถาม “สืบเจออะไรบ้าง?”

ทหารองครักษ์ผู้นั้นกล่าวตอบ “กราบทูลท่านอ๋อง คนบ้าผู้นั้นที่คนจากสำนักฮุ่ยหมินนำตัวกลับมา ก็คือลูกพี่ลูกน้องของหมอหลวงหลิว ตอนที่อายุได้ยี่สิบห้าปีก็เป็นบ้า หลังจากนั้นก็รักษาตัวอยู่สองสามปีก็ไม่เป็นผล อีกทั้งก็ออกมาทำร้ายคน ต้องขึ้นศาลท้องถิ่น หลังจากนั้นก็ไม่รู้เพราะอะไรเรื่องถึงเงียบไป จนกระทั่งต่อมาเขาได้สังหารลูกน้องสองคน จึงได้ถูกส่งตัวไปยังเกาะวิปลาส”

“หลิวฉ่างจาว?” มู่หรงเจี๋ยเงยหน้าขึ้น นึกถึงตอนที่อ๋องเหลียงป่วย เขาเคยรักษาอ๋องเหลียงโดยพละการ จนทำให้อาการของอ๋องเหลียงหนักขึ้น

เพียงแค่ไม่รู้ว่าเหตุใดทางวังจึงไม่จัดการกับเขา จนถึงตอนนี้ก็ไม่ปลดเขาออกจากตำแหน่งอีก

“ใช่ขอรับ เขาคือหลิวฉ่างจาว พูดถึงลูกพี่ลูกน้องของเขาก็น่าเสียดาย ในปีนั้นเขาเป็นหนุ่มรูปงามที่มากความสามารถ เขามีความสามารถด้านวรรณกรรมที่โดดเด่น ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนอย่างไร้สาเหตุ”

“หืม? ได้ยินเจ้ากล่าวเช่นนี้ต้องมีเรื่องราวอะไรอีกเป็นแน่ ไม่ต้องรีบร้อน เจ้าเล่าสถานการณ์ของเกาะวิปลาสมาสักหน่อย คนอื่น ๆบนเกาะมีใครติดโรคนี้บ้าง?”

ทหารองครักษ์ส่ายหัว “กราบทูลท่านอ๋อง ผู้ป่วยในเกาะวิปลาสหามีผู้ใดติดโรคนี้ไม่ นี่เป็นเรื่องที่แปลกเอาเสียมาก ๆ ไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะเป็นโรคนี้เพียงคนเดียว?”

ซูชิงถามอย่างสงสัย “หรือว่าโรคชนิดนี้ไม่ได้แพร่มาจากเกาะวิปลาส? หากเป็นเช่นนี้ การคาดเดาของพวกเราก่อนหน้านี้ก็ผิดหมดเลย แต่ว่าเหตุใดหมอจากสำนักฮุ่ยหมินถึงต้องพาตัวลูกพี่ลูกน้องของหมอหลวงหลิวกลับมาด้วยเล่า? หลังจากพากลับมา แล้วพาตัวเขาไปไว้ที่ไหน? ต้าโจวมีกฎหมายกำหนดไว้ หากมีคนบ้าสังหารคน จะต้องถูกขังไว้ที่เกาะวิปลาส ทุก ๆ สามปีก็จะให้เจ้าหน้าที่จากสำนักฮู่ยหมินเข้าไปตรวจสอบ คนที่รักษาหายเท่านั้นถึงจะกลับมาได้ แต่ก็ยังต้องถูกคุมขังเพื่อคอยดูอาการ”

เซียวท่ากล่าวอย่างเมินเฉย “ใครจะไปรู้กันเล่า? บางทีอาจจะมีคนซ่อนตัวอยู่ในจวนของเจ้าก็เป็นได้”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท