ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 493
เซี่ยหว่านเอ๋อคุณหนูรองของจวนมหาเสนาบดีฟ้องร้องคดีกับคุณหนูใหญ่ตระกูลหู ทำให้เมืองหลวงเกิดความโกลาหลเป็นอย่างมาก
หูฮวนสี่ไม่ยอมรับความผิดนี้ อีกทั้งยังบอกว่าหลังจากที่เซี่ยหว่านเอ๋อตบนางแล้วก็ไม่ได้เจอนางอีกเลย
นางยื่นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่านางไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น มีหลักฐานและประชาชนจำนวนมากที่เห็นด้วยตาว่าหลังจากที่เซี่ยหว่านเอ๋อจากไป นางก็เข้าไปในสำนักสืออ้ายหย้วน เป็นเวลานานหลายชั่วยามถึงจะออกมา
อีกทั้งคนที่อยู่ในสำนักสืออ้ายหย้วนยังพูดอีกว่านางอยู่ด้านในตลอด ไม่ได้ออกไปไหนเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ช่วงเวลาที่เซี่ยหว่านเอ๋อกล่าวถึงก็ไม่ตรงกันแล้ว
พอเซี่ยหว่านเอ๋อได้ยินที่ทางกรมอาญากล่าว ก็แทบจะกระอักเลือดออกมา ผู้หญิงคนนั้นหน้าด้านได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ทั้งยังกล้าให้ประชาชนคนทั่วไปเป็นพยานให้นางอีก? นางหลอกลวงพวกเขาแล้ว
“จริงสิ” จู่ ๆ เซี่ยหว่านเอ๋อก็นึกขึ้นได้ว่าหลังจากที่หูฮวนสี่ต่อยนางเสร็จแล้วก็เข้าไปในบ้านของชาวบ้าน “พวกท่านก็เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังนั้นให้ข้าหน่อย หลังจากที่นางต่อยข้าเสร็จ ก็ได้หนีไปทางบ้านหลังนั้น ในเวลานั้นในบ้านมีคนอยู่ และละแวกนั้นก็ล้วนเป็นของชาวบ้าน นางชกข้าเสียงดังถึงเพียงนั้น คนที่อยู่ใกล้ จะต้องได้ยินเสียงอย่างแน่นอน”
ทางกรมอาญาก็ทำได้แต่สั่งคนให้ไปตรวจสอบ แต่ว่าถามชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นแล้ว พวกเขาก็ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่ามีฉากสนุก ๆ เกิดขึ้นจริง แต่ที่ว่าสนุกนั้นเป็นเพราะพวกคนหาบเร่ขายน้ำมันต้นโหยวทะเลาะวิวาทกัน ไม่ใช่เรื่องที่คุณหนูใหญ่ตระกูลหูตบตีกับคุณหนูรองของจวนมหาเสนาบดี
สำหรับเรื่องที่บอกว่าหูฮวนสี่ได้หนีออกไปทางบ้านหลังหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ได้ไปถามแล้ว แต่เจ้าของบ้านก็บอกว่าไม่ได้เห็นใครเข้ามาเลย และก็ไม่รู้จักหูฮวนสี่ด้วย
เซี่ยหว่านเอ๋อรู้ว่าจะต้องเป็นเพราะหูฮวนสี่ซื้อคนพวกนั้นเอาไว้แล้ว นางร่ำรวยและอวดดี คนพวกนั้นพอเห็นเงินก็ตาลุกวาวแล้ว อยากให้คนเหล่านั้นหุบปากเงียบไปก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งนัก
นางโวยวายใส่กรมอาญา ให้เจ้าหน้าที่ตามตรวจสอบต่อไป เรื่องกระทบไปถึงมหาเสนาบดี ตอนที่เขารีบร้อนมา เรื่องก็ใหญ่บานปลายยากที่จะจัดการได้ไปแล้ว
ที่มันยากจะจัดการก็คือ ตระกูลหูก็ได้ไปฟ้องร้องที่ศาลาว่าการเหมือนกันว่าเซี่ยหว่านเอ๋อตบตีคนบนถนน
ทางศาลาว่าการก็ต้องไปตรวจสอบอีก และก็ได้รู้ว่าเรื่องที่เซี่ยหว่านเอ๋อตบตีคนนั้นเป็นเรื่องจริง อีกทั้งประชาชนจำนวนมากก็เห็นด้วยตาของตนเอง และในเวลานี้เองที่เซี่ยหว่านเอ๋อต้องถูกนำตัวไปคุมขัง
แต่ว่าทางศาลาว่าการก็รู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก เพราะว่า เซี่ยหว่านเอ๋อเป็นบุตรสาวของจวนมหาเสนาบดี อีกทั้งเป็นว่าที่พระชายาเอกขององค์รัชทายาทอีก หากจับนางแล้ว ฮองเฮาจะทรงกริ้วหรือไม่?
ใต้เท้าเหลียงที่เป็นเจ้าเมือง ไม่รู้ว่าควรจะจัดการอย่างไร ทำได้แต่ขอคำแนะนำจากท่านราชครูเหลียง
ราชครูเหลียงพอได้ยินว่าเป็นเรื่องสกปรกของจวนมหาเสนาบดีอีกแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะโมโหขึ้นมา “ท่านจะมาถามข้าทำไม? ไปหาหัวหน้าของท่านสิ เรื่องนี้ต้องให้กรมอาญาเป็นคนจัดการ”
“แต่ว่าหากให้ทางกรมอาญาเป็นคนจัดการ เกรงว่าทางนั้นจะจัดการอย่างเที่ยงตรง”
ราชครูเหลียงรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด เขาไม่อาจผิดใจกับตระกูลหูด้วยเรื่องในครั้งนี้ได้ แต่เรื่องที่เซี่ยหว่านตบตีคนบนถนนหากถูกลงโทษขึ้นมา คนที่มีความผิดจะเป็นพระชายาเอกขององค์รัชทายาทได้เช่นไร?
ถ้าเรื่องการอภิเษกล้มเหลว เกรงว่าคนโฉดเขลาอย่างเซี่ยหวายจุนผู้นั้นจะเปลี่ยนฝั่ง ตอนนี้ก็ได้ยินมาว่าเขากำลังไปมาหาสู่กับกุ้ยไท่เฟยกันอย่างลับ ๆ อยู่
แต่หากเขาออกหน้าเพื่อช่วยเซี่ยหว่านเอ๋อ แล้วจะอธิบายกับทางฝั่งของหูฮวนสี่ได้อย่างไร? ยากนักที่นางจะเชิญองค์รัชทายาทออกไป และครั้งนี้ก็เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์รัชทายาทอีกด้วย หากจัดการได้ไม่ดี ทำให้ตระกูลหูตีตัวออกห่าง พวกเขาก็จะสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
“เซี่ยหว่านเอ๋อผู้นี้ เหตุใดถึงก่อเรื่องวุ่นวายได้มากมายนัก? นางสมองหมูหรืออย่างไร? ตอนนี้องค์รัชทายาทไม่อยากจะพบหน้านางด้วยซ้ำ แต่นางก็ยังไปก่อเรื่องอีก?” ราชครูเหลียงก็จนปัญญาเหมือนกัน ได้แต่บ่นอย่างโมโหไปไม่กี่คำ
ใต้เท้าเหลียงกล่าว “เป็นจริงดังท่านว่า บุตรสาวของตระกูลไหน ๆ ก็ไม่มีใครสร้างเรื่องได้เท่าเซี่ยหว่านเอ๋อผู้นี้อีกแล้ว ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเพราะเหตุใดตอนนั้นองค์รัชทายาทถึงไปชอบพอกับนางได้? ตอนนี้ดูแล้ว คุณหนูใหญ่ของจวนมหาเสนาบดี เซี่ยจื่ออันจะโดดเด่นกว่านางเป็นร้อยเท่า”