ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 508

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 508

จื่ออันเอ่ยออกมา “ไม่รีบร้อนดูคนไข้นัก รบกวนให้ท่านแม่ทัพนำข้าเดินรอบหมู่บ้านสักเล็กน้อยเถอะ”

“เดินรอบหมู่บ้าน?” แม่ทัพหลี่ตกตะลึงไปชั่วครู่ ท่านหมอที่เข้ามานั้นล้วนแต่มักจะเข้ามาดูคนไข้กันก่อนทั้งสิ้น เดินรอบหมู่บ้านนั้นมีความหมายเช่นไรกัน?

“ใช่แล้ว ข้าอยากที่จะดูลักษณะภูมิประเทศของหมู่บ้านศิลานี้” จื่ออันเอ่ยออกมาอย่างคลุมเครือ

หมู่บ้านศิลานั้นเป็นพื้นที่แรกที่เกิดการระบาดโรคผีดิบนี้ขึ้นมา สามารถที่จะคาดเดาได้ว่าในตอนนั้นมีการนำผู้ป่วยจากเกาะวิปลาสมาซ่อนเอาไว้ในหมู่บ้านศิลา

แต่ว่าในตอนนั้นยังไม่ได้เป็นที่สนใจนัก เพราะอย่างไรเสีย ก็มีผู้ป่วยเพียงแค่คนเดียว

จื่ออันรู้สึกว่า ในตอนนั้นที่พบว่ามีการกัดคนเกิดขึ้นนั้น อาจจะเป็นแค่เพียงอุบัติเหตุเท่านั้น ผู้ป่วยประเภทนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเพียงแค่ระยะเวลาประมาณสิบวันเท่านั้นก็จะตายไป ดังนั้นเมื่อพวกเขามองดูเวลาที่เหมาะสมในการลงมือแล้วนั้น ก็จะต้องทำให้เกิดโรคนี้ต่อไป

โรคประเภทนี้จะต้องใช้วิธีการกัดคนเพื่อแพร่ระบาดออกไป ซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาครั้งเดียวสามารถกัดได้หลายคน ส่งต่อเมล็ดพันธ์นี้ออกไป

ก่อนหน้านั้นที่หมู่บ้านศิลานั้นพบผู้ที่กัดคนนั้น ก็ถูกคุมขังไว้ยังศาลาว่าการ สุดท้ายก็ตายไป

หากเอ่ยว่าพวกเขาหนึ่งครั้งกัดผู้คนไปได้เพียงแค่สองคนแล้วนั้น ถ้าอย่างนั้นแล้วหลังจากที่ถูกศาลาว่าการพบเข้าแล้ว โรคชนิคนี้ก็ควรที่จะไม่มีแล้ว แต่ว่าระยะเวลาไม่นานเท่านั้น ก็แพร่กระจายออกมาอีก นี่ก็หมายความว่า พวกเขาจะต้องมีสถานที่หนึ่ง ที่กักขังผู้ป่วยนี้เอาไว้โดยเฉพาะ และในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ปล่อยออกมา

จื่ออันต้องการที่จะหาสถานที่นี้ให้พบ หลังจากที่เอาออกมาจนหมดแล้ว ก็จะเริ่มทำการรักษา ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ทางด้านนี้ศึกษาวิธีการรักษา ทางด้านนั้นก็แอบปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ต่อให้ในที่สุดจะสามารถศึกษาวิธีรักษาออกมาได้ ก็อาจจะกลายเป็นที่น่าตื่นตกใจยิ่งนัก และจะมีผู้คนตายไปมากมาย

ผู้ป่วยประเภทนี้นั้นมีลักษณะที่พิเศษอย่างหนึ่งก็คือ กลิ่นสาบเหม็นบนกาย

หากว่าอยากที่จะปิดบังกลิ่นเหม็นนี้แล้ว ก็จะต้องใช้กลิ่นที่แรงยิ่งขึ้น ไม่ก็เป็นกลิ่นหอม หรือไม่ก็ต้องเป็นกลิ่นเหม็นที่แรงยิ่งนัก

จื่ออันเดินไปในหมู่บ้านมาหนึ่งรอบ แต่ก็ไม่พบสิ่งใด

ภายในหมู่บ้านนั้นสิบห้องว่างเปล่า ไปเสียแล้วเก้าห้อง ผู้ที่ไม่มีอาการป่วยก็จะรวมอยู่ด้วยกัน ส่วนผู้ที่มีอาการป่วยก็จะถูกขังเอาไว้ในห้องโถงบรรพบุรุษ

หมู่บ้านศิลานั้นอยู่ติตกันกับภูเขา กลับล้วนเป็นเพียงภูเขาหิน ป่าไม้นั้นก็มีเช่นกัน แต่ไม่นับว่าลึกลับอะไรนัก แอบซ่อนอันใดเอาไว้ไม่ได้

“แม่ทัพหลี่ ที่นี่มีที่ใกล้ ๆ ที่มีถ้ำอะไรอยู่บ้างหรือไม่?” จื่ออันเอ่ยถาม

แม่ทัพหลี่ส่ายศีรษะออกมา “ไม่มีขอรับ ในตอนที่ข้านำเหล่าทหารมายังที่นั้น ทั่วทิศรอบบริเวณนี้ต่างก็ได้ตรวจสอบหมดแล้ว บริเวณนี้ไม่มีถ้ำใดอยู่เลยขอรับ”

“ไม่มีถ้ำอยู่หรือ? ถ้าอย่างนั้นแล้วมีที่ใดที่สามารถจะแอบซ่อนคนอยู่ได้บ้างกัน?”

“ไม่มีเช่นกันขอรับ!”

จื่ออันอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมา หรือว่านางคาดเดาผิดไป?”

ถึงแม้ว่าหมู่บ้านรอบเมืองหลวงนั้นจะมีมากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะเป็นพื้นที่ราบทั้งสิ้น มีเพียงแค่หมู่บ้านศิลาเท่านั้นที่อยู่ใกล้กับภูเขา

นางเองรู้สึกว่ามิอาจที่จะอยู่ภายในเมืองหลวงไปได้ กลิ่มเหม็นสาบเยี่ยงนี้มิอาจจะหลบซ้อนได้ อีกทั้งเมืองหลวงในช่วงระยะเวลานี้มีการตรวจค้นกันอย่างเข้มงวด สามารถเอ่ยได้ว่าขุดดินลงไปลึกถึงสามลี้แล้ว โรคผีดิบนี้มิอาจที่จะหลบซ่อนอยู่ในเมืองหลวงได้

แม่ทัพหลี่เมื่อพบว่านางทำเพียงแต่เดินไปรอบๆ ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาเล็กน้อย เขาคิดว่าเซี่ยจื่ออันผู้นี้คงจะมีแต่เพียงชื่อเท่านั้น คงจะใช้วิธีการต่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงก็เท่านั้น

แต่ว่าซูชิงเองก็อยู่ที่นี่ เขาจึงไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมาให้ชัดเจนนัก ทำได้เพียงเอ่ยบอกใบ้มาว่า “ท่านหมอเซี่ย ท่านมองดูลักษณะภูมิประเทศของที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อันใด ลักษณะภูมิประเทศนั้นไม่ได้มีส่วนช่วยเหลืออันใดแก่คนไข้มากนัก อย่างไรเสีย ไปดูคนไข้กันหน่อยจะดีกว่านะขอรับ”

จื่ออันเดินไปรอบ ๆ “ไม่รีบร้อน”

นางเอ่ยออกมา พร้อมทั้งเดินไปยังบนเขา

แม่ทัพหลี่ดึงซูชิงเอาไว้ “แม่ทัพซู ท่านหมอเซี่ยผู้นี้สามารถรักษาโรคระบาดนี้ได้จริงหรือไม่กัน? คนในหมู่บ้านศิลานี้กอดความหวังเอาไว้ที่นางมากนัก อย่าได้ทำให้ทุกคนผิดหวังกันเสียเล่า”

ซูชิงเอ่ยออกมา “นางจะทำให้เต็มความสามารถที่มี แต่ว่าจะสามารถรักษาจนหายดีได้หรือไม่นั้น ผู้ใดก็มิอาจจะรับประกันได้”

“ทำเต็มความสามารถ? ท่านดูนางสิ เข้ามาแล้วก็ยังไม่ยอมที่จะไปดูอาการของคนไข้ ทำเพียงเดินไปรอบภูเขาเท่านั้น นับอะไรมาวัดว่าทำเต็มความสามารถกัน?” แม่ทัพหลี่เองก็กำลังโมโหเป็นอย่างมาก อยู่ที่นี่มาเป็นเวลาหลายวันแล้ว ในทุกวันก็จะมีชาวบ้านที่ตายไป ในใจของเขานั้นรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก

“นางมีเหตุผลของนาง” ซูชิงเองก็ไม่รู้ว่าจื่ออันมีเหตุผลกันแน่ แต่ว่าเขาเชื่อในจื่ออัน

แม่ทัพหลี่ถอนหายใจออกมา “อย่างไรก็คงจะไม่ดีไปกว่าท่านหมอเหล่านั้นที่มาเพื่อเงินกัน พวกเขาอย่างไรก็ยังเข้าไปรักษาคนไข้”

ซูชิงเอ่ยถาม “ตอนนี้ในห้องโถงบรรพบุรุษมีท่านหมออยู่หรือไม่กัน?”

“มี ล้วนแต่เป็นท่านหมอที่มาจากหลากพื้นที่ พวกเขาไม่ได้ต้องการเงินทอง เพียงแต่ตั้งใจมาเพื่อรักษาชาวบ้านกันเท่านั้น” แม่ทัพหลี่เหลือบมองไปทางด้านหลังของจื่ออัน เอ่ยออกมาด้วยความหดหู่ใจ “คนเหล่านั้นสิถึงจะเป็นท่านหมอกันจริง ๆ รู้ว่ามาที่นี่เพื่ออะไร พวกเขาเสี่ยงชีวิต เสี่ยงอันตรายอยู่กันที่นี่ ทำให้ผู้คนรู้สึกชื่นชมยิ่งนัก”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท