ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 512
จื่ออันเอ่ยออกมาด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก “พวกเจ้าทั้งหลายอยู่ห่างจากสุราไม่ได้สักวันเลยหรืออย่างไรกัน”
“สุราเป็นของดี อย่างเจ้าจะไปเข้าใจอะไร?” ซูชิงนั่งลง ก่อนจะดื่มลงไปหนึ่งคำแล้วส่งไปให้จื่ออัน “ดื่มสักคำเถอะ ผ่อนคลายความกดดันลงสักเล็กน้อย”
จื่ออันรู้สึกเหนื่อยล้าจริง จึงดื่มเข้าไปหนึ่งคำก่อนจะส่งกลับไปให้ซูชิง
ซูชิงรับมาดื่มต่อไป แล้วถูกโหรวเหย๋าเสี้ยนจู่แย่งออกไปอย่างเร็ว “ข้าเองก็ต้องการดื่มบ้าง”
ซูชิงผายมือ “ยังจะมาว่ากล่าวข้า พวกท่านแต่ละคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือในเรื่องสุรากันทั้งสิ้น”
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ดื่มติดต่อกันไปหลายคำ จากนั้นจึงได้เอ่ยออกไปกับจื่ออัน “เจ้าออกมาสักประเดี๋ยว ข้ามีเรื่องต้องการจะถามกับเจ้า”
จื่ออันเงยหน้าขึ้นไปมองยังนาง “มีเรื่องอะไรค่อยว่ากันภายหลังเถิด”
“ไม่ได้ ข้าเป็นคนใจร้อน เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ ก็จะเอ่ยออกมาทันที”
ซูชิงหยิบสุราขึ้นมา ก่อนจะถอยหลังออกไปสองก้าว “พวกท่านกำลังจะทะเลาะกันอย่างนั้นหรือ? ทะเลาะกันเพียงเพื่อชายหนุ่มมันไม่คุ้มค่าหรอกนะ ชายหนุ่มในใต้หล้านี้มีอยู่อีกมากมาย”
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ ท่าทีก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที จากนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่งคว้าเอาข้อมือของจื่ออันเอาไว้ “ไป!”
จื่ออันถูกนางลากออกมา ภายในหมู่บ้านยามค่ำคืนมืดสนิท โถงบรรพชนถึงแม้ว่าจะแขวนโคมไฟเอาไว้ ทว่าแสงไฟริบหรี่นัก จนแทบจะมองไม่เห็น
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ดึงนางจนมาถึงใต้ต้นไทรต้นใหญ่ แล้วจ้องมองยังนาง “เป็นเจ้าที่หมั้นกับญาติผู้พี่ของข้าใช่หรือไม่?”
จื่ออันกอดอกเอาไว้ด้วยแขนสองข้าง “ไม่ผิดแล้ว” ประกาศสงครามหรือ? ดี ใครจะกลัวใครกัน? นางเป็นถึงคู่หมั้นที่ถูกต้องตามชอบธรรม
“เพราะอะไร?” โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่เอ่ยถามออกมาอย่างเย็นชา
“เพราะอะไร?” จื่ออันยิ้มออกมาเล็กน้อย “เพราะอะไรอย่างนั้นหรือ? ข้าชื่นชอบในตัวเขา เขาเองก็ชื่นชอบในตัวข้าเป็นพิเศษ พวกเราก็เลยหมั้นหมายกัน ง่าย ๆ เพียงเท่านี้”
“เช่นนั้นหรือ? มีความรู้สีกลึกซึ้งกันจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?” โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ดูเหมือนว่าจะไม่เชื่ออย่างชัดเจน
“จะไม่ใช่อย่างนั้นได้อย่างไร? จื่ออันเอ่ยออกมาด้วยท่าทีหยิ่งผยอง “เขาขอข้าแต่งงานมาตั้งกี่คราว ข้าไม่เคยตอบรับสักครั้ง ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเห็นว่าเขาบีบบังคับ และยังใช้อำนาจเข้ากดดัน ข้าก็เลยต้องตอบตกลงไป”
“เขาข่มขู่เจ้า?” โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ราวกับว่าถูกกระทบกระเทือนเข้าอย่างแรง “ญาติผู้พี่ของข้าไม่มีทางที่จะทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้”
“ความจริงเป็นเช่นนี้ เป็นเขาที่ยินดีจะแต่งกับข้า”
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่จ้องมายังนาง “ความหมายของเจ้าคือ เป็นเขาที่บีบบังคับให้เจ้าแต่งกับเขา เจ้าไม่ได้อยากแต่งกับเขา? เจ้ามีคนผู้อื่นที่อยู่ในใจอยู่แล้ว?”
จื่ออันตะลึงงันไป เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะคุยโวไปเสียใหญ่โตเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่าตนเองจะทำให้เกิดผลร้ายกับตนเสียแล้ว
และแน่นอนว่าโหรวเหย๋าเสี้ยนจู่เอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นคู่สมรสกับญาติผู้พี่ แต่ทว่าเจ้ามีบางอย่างที่อยู่ในใจ? เช่นนั้นเจ้าก็ไม่คู่ควรกับญาติผู้พี่ของข้า คนที่เจ้าพึงพอใจผู้นั้นเองก็ไม่มีทางที่จะชมชอบสตรีที่โลเลเช่นเจ้าแน่”
จื่ออันรู้ดีว่าตนเองยืนอยู่ภายใต้อำนาจ ทว่าไม่จำต้องรีบร้อน “จะคู่ควรหรือไม่คู่ควรนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ข้าหรือท่านจะเอ่ยออกมาได้ เขาต้องการจะแต่งกับข้าข้าเองก็ไม่อาจทำอันใดได้ อย่างไรเสียตำแหน่งพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนนั้น ข้าได้เป็นอย่างแน่นอนแล้ว หากว่ามีผู้ใดกล้ามาแย่งชิงชายของข้าแล้ว ข้าจะทำให้นางต้องตายชนิดที่แทบดูไม่ได้ไปเลยทีเดียว”
ไม่รู้ว่ามีนักปราชญ์ท่านใดที่เคยกล่าวเอาไว้ ต่อกรกับสตรีเหล่านั้นที่อยากได้ในผู้ชายของตน จำต้องใช้ถ้อยคำข่มขู่ออกไปอย่างรุนแรง เพื่อที่ให้พวกนางได้ถอยออกไปอยู่ห่าง ๆ
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ส่งเสียงดัง ฮึ ออกมา “ต่อให้เป็นเช่นนี้ เจ้าเองก็ควรที่จะรักญาติผู้พี่ของข้าให้มากถึงจะถูก แล้วทำไมถึงยังต้องทำดีกับชายอื่นกัน? สตรีเช่นเจ้า ข้าไม่ชอบเป็นที่สุด เจ้าหลอกลวงญาติผู้พี่ของข้าก็ช่างมันเถอะ แต่ยังกล้าที่จะหลอกลวงซูชิงอีก?”
“อะไรกัน? ข้าหลอกลวงซูชิง? เรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องอะไรกันกับซูชิง?”