ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 521
ฮูหยินหลิงเอนกายครึ่งตัวอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าระเบียง คลุมด้วยชุดบางเบา ใบหน้าที่ไม่ได้แต่งแต้มถึงแม้ไม่นับว่างดงามอ่อนเยาว์ แต่ผมยาวเพิ่งสระที่ปล่อยลงมา มีกลิ่นหอมจาง ๆ ทำให้ทั้งคนมองรู้สึกสดชื่นอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มมีบางคราวที่ชื่นชอบร่างกายที่สดใหม่อ่อนเยาว์ แต่ว่ามีบางคราวที่หวนคิดถึงความสัมพันธ์ครั้งเก่า เสื้อผ้าไม่ดีเท่าใหม่ คนไม่ดีเท่าเก่า
นางแหงนหน้าขึ้นมองไปยังพระจันทร์เต็มดวงที่สว่างไสว น้ำตาค่อย ๆ หยดไหลลงมาอย่างเงียบ ๆ
แต่นางก็เช็ดออกไปอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นท่าทีที่ดื้อดึง
นางรู้ดีว่าไม่ไกลออกไปมีเงามืดที่คอยจับตามองดูนางอยู่
นางค่อย ๆ หลับตาลง ในคืนนี้มีความเป็นไปได้อยู่สองทาง
อย่างแรกคือ ชู่อวี่จะกลายเป็นคนของเขา เช่นนั้นก็ยังมีประโยชน์ต่อตนเองอยู่บ้าง เพราะว่าเป็นมือข้างหนึ่งของนางที่เป็นคนผลักชู่อวี่ออกไป ชู่อวี่จะต้องเอ่ยถึงเรื่องดี ๆ ของตนเองต่อหน้าของเขาบ้าง
ความเป็นไปได้ข้อที่สองคือ เขามองชู่อวี่ได้ทะลุปรุโปร่ง แล้วเอ่ยถามชู่อวี่ เด็กชู่อวี่จะต้องไม่กล้าปิดบังแล้วเอ่ยบอกความจริงออกไป ดังนั้นเขาจะต้องมา อีกทั้งยังมาด้วยความกรุ่นโกรธ หลังจากที่ได้กลิ่นของธูปหอมเข้าไป
ด้านนอกของเรือนจรัส มีดอกกระดังงาดอกใหญ่ที่แบ่งบานออกมา ภายในเรือนกลับจุดเป็นกลีบของดอกมันดาลา ในปริมาณที่นางควบคุมเอาไว้ได้ ตั้งแต่เรื่องนั้นที่เกิดขึ้นในเรือนจรัสคราวที่แล้ว นางก็เริ่มศึกษาเกี่ยวกับเครื่องหอม นางที่แพ้เครื่องหอมในมือ ท้ายที่สุดแล้ว นางก็สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องหอมเหล่านี้เพื่อยืนหยัดขึ้นมาได้
เดิมทีนั้นนางยังคงหวังในบุตรสาวของตนเอง ทว่า ในใจของนางชัดแจ้งดี ไม่ว่าเซี่ยหว่านเอ๋อจะมีความคืบหน้าหรือไม่ นางไม่มีทางที่จะสนใจตนเอง
หลังจากที่รุ่งโรจน์มากว่าสิบปี นางไม่อาจที่จะกลับไปใช้ชีวิตที่ไม่ได้รับความสำคัญเช่นนี้ได้อีก
โชคดีที่หลายปีมานี้นางพอจะสะสมเงินทองเอาไว้บ้าง เงินทองเหล่านี้ เพียงพอให้ซื้อตัวเด็กรับใช้ภายในจวนได้บางส่วน
เรือนจรัสที่กำลังจะถูกรื้อทิ้ง เรือนด้านหน้าเองก็ไม่มีที่สำหรับนาง หากว่าเมื่อถูกรื้อออกไป นางก็จำต้องย้ายออก เมื่อออกจากจวนมหาเสนาบดีไปแล้ว นางก็จะไม่มีโอกาสอะไรอีกแล้ว เพราะฉะนั้นนางจึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่ที่นี่
เสียงฝีเท้าดังขึ้นมา นางเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองเขาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ ออกมา “ท่านมาแล้ว?”
สายตาของมหาเสนาบดีเซี่ยเต็มไปด้วยความโกรธ จ้องมองไปยังหญิงสาวที่เคยทำให้เขารักมาก่อนและยังเกลียดมาก่อนคนนี้
หลังจากที่ความโกรธถูกระบายออกไป ความสุขสมราวกับเทพธิดาอูซานที่บันดาลฝนลงมา
ชู่อวี่กลับมายังเรือนจรัส ยืนอยู่ด้านนอกประตู ร่างกายสวมใส่ชุดของเซี่ยหว่านเอ๋อ บนหัวปักปิ่นหยกสีขาวเอาไว้ การแต่งหน้างดงามปราณีต ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนแต่น่าขันเสียจริง?
นางรู้มาตลอดว่าเฉินหลิงหลงหลอกใช้นาง ทว่าไม่คิดเลยว่านางจะใช้ประโยชน์เช่นนี้
นางกำหมัดแน่น ดวงตาเกิดร่องรอยของความไม่พอใจออกมา
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ฮูหยินหลิงหลงสวมใส่เสื้อผ้าให้มหาเสนาบดีอย่างอ่อนโยน ผมยาวสลวย ท่าทีดูยอมจำนน ไม่ส่งเสียงใดออกมา
มหาเสนาบดีเซี่ยเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมากับนาง ความผิดพลาดของเมื่อคืนนี้ ทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างมาก เขาดูแคลนเฉินหลิงหลง และก็ไม่หลงเหลือความรักใด เดิมก็เป็นคนที่เขาไม่ควรยั่วยุด้วยที่สุด
“นายท่านเดินดี ๆ นะเจ้าคะ!” ฮูหยินหลิงหลงย่อกายบอกลาด้วยน้ำตาปริ่มขอบตา
มหาเสนาบดีหันหลังจากไป ใบหน้าไม่มีอารมณ์ใด
“ช้าก่อน!” จู่ ๆ ฮูหยินหลิงหลงก็พุ่งออกไปแล้วกอดเขาจากด้านหลัง แล้วรีบเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “นายท่านปล่อยให้ข้าได้กอดสักครู่เถิด ข้ารู้ว่าหลังจากคราวนี้แล้ว ท่านเองก็ไม่มีทางมาหาข้าอีก ส่วนข้าก็ต้องออกจากจวนมหาเสนาบดีไป สามีภรรยากัน อย่างไรแล้วก็ยากที่จะปล่อยวางลงได้ ข้าไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใด เพียงแต่อยากจะกอดท่านไปเช่นนี้ครู่หนึ่ง”
น้ำตาเปียกชื้นลงบนเสื้อผ้าด้านหลังของเขา ท่ามกลางความรำคาญใจของมหาเสนาบดีเซี่ย ยังเผยความสงสารออกมา และความสงสารนี้ทำให้เขาทำการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่
“ใครบอกว่าเจ้าต้องออกจากจวนมหาเสนาบดีกัน? จวนมหาเสนาบดีใหญ่โตเพียงนี้ จะต้องมีที่สำหรับเจ้า” มหาเสนาบดีเซี่ยเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย
ท่าทางของฮูหยินหลิงหลงดูยินดีขึ้นมาทันที “ท่านยังให้ข้าอยู่ในจวนมหาเสนาบดีได้อีกหรือ?”
“เจ้าเป็นมารดาของหว่านเอ๋อ ไม่ควรจะออกจากจวน หากเจ้าจากไป เรื่องที่ผู้คนคาดเดาก็จะกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา” มหาเสนาบดีเซี่ยเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้น ก็ยังรู้สึกโกรธจนต้องกัดฟันออกมา