ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 522
แต่ว่าต่อให้จะเกลียดหญิงสาวผู้นี้เพียงไร ท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงต้องใส่ใจต่อหน้าตา
“ขอโทษด้วย ข้าทำเรื่องผิดพลาดไปมาก ทว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่กับท่านมากว่าสิบปีนี้ ข้าไม่เคยแม้แต่จะมีใจเป็นอื่น ข้ารู้ว่าตอนนี้ข้าเอ่ยอันใดออกไปท่านล้วนแต่ไม่เชื่อ แต่ว่าใจของข้าดวงนี้ พระอาทิตย์และดวงจันทร์ล้วนแต่สามารถเป็นพยานให้ข้าได้ หากว่าท่านไม่ไล่ข้าออกไป ข้าจะเป็นบ่าวรับใช้ข้างกายท่านก็พึงพอใจแล้ว”
มหาเสนาบดีเซี่ยออกไป เขาไม่อยากได้ยินคำพูดเช่นนี้ และไม่อยากให้ตนเองใจอ่อน
หลังจากที่เขาจากไปแล้ว ฮูหยินหลิงหลงส่งเสียงเรียกออกมาเบา ๆ “ชู่อวี่!”
ชู่อวี่เข้าไปแล้ว ก็โค้งกายเอ่ย “ฮูหยิน!”
นางก้มศีรษะลงต่ำ ระงับอารมณ์ในดวงตาเอาไว้
ฮูหยินหลิงหลงนั่งลงพิงเข้ากับขอบเตียง เหลือบมองมายังแวบหนึ่ง “ในใจของเจ้าไม่มีสบอารมณ์ใช่หรือไม่?”
“มิกล้า!” ชู่อวี่เอ่ยตอบ ไม่เพียงแต่ไม่สบอารมณ์? แต่กลับรู้สึกเกลียดนาง
ฮูหยินหลิงหลงยิ้มออกมาจาง ๆ “นายท่านไม่ได้ต้องตาเจ้า เจ้าเองก็อย่าน้อยเนื้อต่ำใจไป เรื่องที่ข้าเคยรับปากเจ้าเอาไว้ จะต้องทำได้ ขอเพียงแค่ข้าได้กลับไปยังเรือนด้านหน้า เจ้าก็ยังคงมีความหวัง”
ชู่อวี่เงยหน้าขึ้น แล้วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยบ่นออกมา “ฮูหยินรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่านายท่านไม่มีทางที่จะรั้งอยู่กับบ่าวใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
ฮูหยินหลิงหลงส่ายศีรษะ “ไม่ ข้าเพียงแต่ประเมินจากความหลักแหลมของเขา ข้าเพียงแต่ต้องการจะช่วยเจ้าขึ้นไป เอ่ยอะไรออกมาที่เห็นแก่ข้า ว่าเจ้าเป็นคนข้างกายของข้า เมื่อเจ้ามีหน้ามีตาแล้ว ข้าเองก็พลอยมีหน้ามีตาตามไปด้วย อย่างไรก็ดีกว่าอยู่ที่นี่เพียงลำพัง”
สีหน้าของชู่อวี่ถึงได้เปลี่ยนไปบางส่วน “ฮูหยินเต็มใจที่จะช่วยบ่าวจริง ๆ อย่างนั้นหรือเจ้าคะ?”
“แน่นอน เจ้ากับข้าร่วมมือกัน อย่างน้อยก็ไม่ถูกผู้อื่นรังแก เจ้ามานี่ ข้าจะเอ่ยอะไรบางอย่างกับเจ้า” ฮูหยินหลิงหลงเรียกให้ชู่อวี่เข้ามา แล้วเอียงหูเข้าไป
เมื่อได้ยินแล้ว นางย่อกายลงก่อนจะเอ่ย “บ่าวจะหาคนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”
ฮูหยินหลิงหลงหยิบเงินออกมาส่งให้กับนางแล้วโบกมือ “ไปเถิด ภายในจวนแห่งนี้ไม่อาจจะมีฮูหยินอีกคนได้อีก”
มีบางสิ่งเมื่อถูกสะสมไปเรื่อย ๆ สะสมจนสามารถนำมาใช้ก่อเหตุได้
ทั้งเขาและฮูหยินผู้เฒ่าล้วนแต่ไม่คาดคิดมาก่อน ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เฉินหลิงหลงที่แทบจะถูกกำจัดทิ้งไปแล้วจะออกมาขัดขวางทางเดิน
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ วันนี้มีแขกท่านหนึ่งมาเยี่ยม
ผู้ที่มานั้นก็คือฮูหยินหลิงหลงของมหาเสนาบดีเซี่ย
หลังจากที่ซีเหมินเสี่ยวเยว่แต่งเข้ามาแล้วไม่เคยพบกับฮูหยินหลิงหลงมาก่อน แต่ก่อนหน้านั้นเคยผ่านหน้ากัน เพราะฉะนั้นนางจึงจดจำได้
“ท่านมาทำอะไรที่นี่?” ซีเหมินเสี่ยวเยว่เอ่ยออกมาอย่างระมัดระวัง ตั้งแต่ที่ถนนซีเป่ยปรากฏผู้ป่วยโรคผีดิบขึ้นมา ทางราชสำนักจึงได้มีคำสั่งห้ามมิให้ทุกคนที่อยู่ทางด้านเหนือออกไปไหนโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นนางจึงนับได้ว่าถูกคุมขังเอาไว้ที่นี่
ฮูหยินหลิงหลงให้คนชู่อวี่หาคนมาตรวจสอบ ชู่อวี่จึงให้เงินไปกับเด็กรับใช้ของมหาเสนาบดีเซี่ย รู้ว่ามหาเสนาบดีเซี่ย และซีเหมินเสี่ยวเยว่ยังมีการไปมาหาสู่กันเป็นการส่วนตัว อีกทั้งยังมีคำสัญญาต่อกันอีก
ฮูหยินหลิงหลงมองมายังนางด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินจะไม่เชิญข้าเข้าไปนั่งด้านในหรอกหรือ?”
“ไม่มีความจำเป็นเช่นนั้น ท่านออกไปเถอะ” ซีเหมินเสี่ยวเยว่ไล่นางออกไป กระทั่งแม้แต่การจะพูดคุยกับนางก็ยังรู้สึกไร้ราคา
เฉินหลิงหลงกับนางนั้นไม่อาจจะเปรียบเทียบกันได้ พวกนางมีชาติกำเนิดที่แตกต่างกัน และต่อให้จะอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน นางก็ยังคิดว่าเฉินหลิงหลงไม่อาจที่จะยืนอยู่ต่อหน้าตนเองด้วยความเชื่อมั่นใดได้
หากว่าทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกันแล้ว เฉินหลิงหลงก็ไม่อาจจะเชิดหน้าขึ้นมาได้
เฉินหลิงหลงยิ้มออกมาจาง ๆ มองไปยังรอยแผลเป็นบนใบหน้าของนาง “ถึงแม้ว่าฮูหยินจะหน้าตางดงาม แต่เมื่อเทียบกับคุณหนูตระกูลหลินแล้วก็ยังห่างชั้นอยู่ไกล จวนมหาเสนาบดีนี่เองก็ประหลาด เพิ่งจะเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมามากมาย แต่ก็ยังมีคุณหนูของตระกูลใหญ่ไม่น้อย เข้าแถวต้องการจะแต่งเข้ามาทีละคน”