ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 523
ซีเหมินเสี่ยวเยว่จ้องมองมายังนาง “เจ้าว่าอะไรกัน?”
ทว่าฮูหยินหลิงหลงกลับหันหลังแล้วจากไป “ในเมื่อฮูหยินไม่ต้อนรับข้า ข้าก็จะไป”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ก้าวไปยังเบื้องหน้าหยุดนางเอาไว้ แล้วเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “เอ่ยออกมาให้ชัดเจน อะไรคือคุณหนูตระกูลหลิน? อะไรคือเข้าแถวกันแต่งเข้ามาทีละคน?”
ฮูหยินหลิงหลงแสร้งทำไปเล่นกับปอยผม เมื่อเทียบกับซีเหมินเสี่ยวเยว่ที่ดูตื่นตระหนกแล้ว นางเห็นได้ชัดว่าดูสงบกว่ามาก “ฮูหยินไม่รู้หรอกหรือ? จวนมหาเสนาบดีกำลังจะจัดงานมงคลแล้ว คราวนี้จะแต่งกับคุณหนูใหญ่ตระกูลหลิน หลานสาวของหลินซื่อหลาง”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่หรี่ตาลง “ข้าไม่เชื่อเจ้า เจ้าที่มีแต่เรื่องไร้สาระเต็มไปหมด”
“จะเชื่อหรือไม่ก็ดี ข้าตั้งใจมาที่นี้ไม่ใช่มาแสดงอำนาจ เพียงแต่ต้องการจะบอกความจริงบางอย่างกับเจ้าก็เท่านั้น อย่างไรแล้วเจ้าเองก็เคยจริงใจกับหว่านเอ๋อ อย่าได้ถูกผู้อื่นหลอกลวงเลย เรื่องของจวนมหาเสนาบดีและตระกูลหลิน ผู้คนในเมืองหลวงมากมายล้วนแต่รับรู้ เพียงแต่เจ้าที่หลบซ่อนอยู่ที่นี่ก็เลยไม่รู้เรื่องราว”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ยิ้มเย็นออกมา “เจ้าเป็นคนเช่นไรข้าจะไม่รู้หรอกหรือ? จะใจดีเพียงนี้ มาบอกกล่าวแก่ข้าอย่างนั้นหรือ?”
ฮูหยินหลิงหลงส่ายศีรษะ “เจ้าชอบนำความอับอายมาให้ตนเอง ข้าเองก็คงจะฉุดรั้งเจ้าเอาไว้ไม่ได้”
เมื่อเอ่ยจบแล้ว ก็หมุนกายขึ้นเกี้ยวไป
จู่ ๆ หัวใจของซีเหมินเสี่ยวเยว่ก็เต้นผิดจังหวะ ความตื่นตระหนกเข้าจู่โจมหัวใจนาง ทั้ง ๆ ที่เขาเอ่ยคำสาบานออกมาแล้วว่าจะแต่งตัวเองเข้าจวน แล้วทำไมถึงได้มีคุณหนูตระกูลหลินโผล่ออกมาอีกคนได้?
ไม่มีทาง จะต้องเป็นเฉินหลิงหลงที่ตั้งใจจะมาทำให้นางโกรธ เพื่อจะได้แยกพวกนางออกจากกัน เฉินหลิงหลงเป็นคนชั้นต่ำ สารพัดพิษร้ายกาจ กระทำการไม่ดี จะต้องเป็นเช่นนี้
เมื่อซีเหมินเสี่ยวเยว่คิดออกมาเช่นนี้ แต่ในใจก็ยังคงไม่อาจจะสงบลงได้ นางไม่อาจจะหลอกตนเองได้ เป็นเพราะว่านางรู้สึกได้ว่าเซี่ยหวายจุนดูจะรักษาระยะห่างกับนาง
“ใครก็ได้เข้ามา!” เมื่อเข้าประตูมา นางก็ตะโกนออกไปเสียงดัง
“ขอรับ!” เด็กรับใช้คนหนึ่งก้าวเข้ามาประสานมือแล้วเอ่ย
“เจ้าออกไปสืบข่าวดู คุณหนูตระกูลหลินจะแต่งเข้ามาเป็นภรรยาให้นายท่านหรือไม่” ซีเหมินเสี่ยวเยว่เอ่ยสั่งออกไป
เด็กรับใช้ส่งเสียงตอบรับ “ขอรับ!”
พื้นที่ภัยพิบัติ
ในโถงบรรพบุรุษมีผู้ป่วยโรคผีดิบอยู่คนหนึ่ง มีชื่อว่าหลี่เอ้อร์ ถูกคุมขังมาเป็นเวลาเจ็ดวันแล้ว ชีวิตตกอยู่ในอันตราย เป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกปี บิดาตายลงไปนานแล้ว เป็นมารดาที่เลี้ยงดูจนเติบใหญ่อย่างยากลำบาก
สถานการณ์ของเขาค่อนข้างจะคล้ายคลึงกับหวางหยู พี่ชายก็ตายลงในสนามรบเช่นกัน
หลี่เอ้อร์ถูกลุงรองของเขากัดเข้า ลุงรองของเขาตายไปแล้ว และก็ตายหลังจากที่มีอาการป่วยได้สิบวัน
หลูซื่อมารดาของหลี่เอ้อร์ในใจเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา นางรู้ว่าบุตรชายของตนเองจะตายลง ดังนั้นคืนนี้นางจึงมาร้องขอกับแม่ทัพหลี่ พอจะเห็นแก่ทุกคนล้วนแต่แซ่หลี่เช่นกัน ให้นางได้เข้าไปดูบุตรชายด้วยตาตนเองสักครั้ง ป้อนน้ำให้บุตรชายจากมือตนสักคราวได้หรือไม่
แม่ทัพหลี่ที่เป็นคนหยาบกระด้าง ทว่าจิตใจอ่อนโยน เดิมนั้นท่านอ๋องมีคำสั่งเอาไว้ห้ามมิให้มีชาวบ้านคนใดเข้าไปยังโถงบรรพบุรุษได้ แต่เมื่อเห็นว่าหลูซื่อคุกเข่าลงร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนาแล้ว
และในตอนนั้นจื่ออันบังเอิญเขียนใบสั่งยาอยู่ด้านนอก และบอกปริมาณของยาให้กับเด็กปรุงยาสำนักฮุ้ยหมินอยู่ เมื่อหันกลับไปเห็นหลูซื่อเดินเข้าไป นางจึงรีบร้อนเอ่ยออกมา
“ช้าก่อน ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปได้”
แม่ทัพหลี่เอ่ยออกมา “ไม่เป็นอันใดหรอก ตัวข้าจะจับตามองอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีเชือกมัดเอาไว้ ไม่จำต้องกลัว”
จื่ออันส่ายศีรษะ “ไม่ ไม่อาจเข้าไปได้ แม่ลูกเมื่อพบกัน ยากที่จะหลีกเลี่ยงที่จะตื่นเต้นขึ้นมาได้ ผู้ที่ป่วยโรคผีดิบมีพละกำลังมากไร้ขีดจำกัด เมื่อตื่นเต้นขึ้นมา ก็จะดิ้นรนจนหลุดออกจากเชือกได้”
หลูซื่อเมื่อได้ยินว่าจื่ออันไม่ยินยอมให้ตนเองเข้าไป ก็คุกเข่าลงให้กับจื่ออัน ร้องไห้พร้อมเอ่ย “ท่านหมอเซี่ย ข้าเพียงแต่เข้าไปพบเขาเพียงแวบเดียว ข้าจะไม่ทำอันใด จะไม่เอ่ยอะไรกับเขา ได้หรือไม่? ขอร้องท่านแล้ว”
จื่ออันรู้ดีว่าผู้ที่รักบุตรมากกว่าทุกอย่าง หากว่าเห็นบุตรชายต้องทนทุกข์ทรมาน จะยินยอมพบหน้าเพียงแค่ประเดี๋ยวแล้วจากไปได้อย่างไร? ในตอนยังไม่อาจศึกษาใบสั่งยาออกมาได้ นางไม่อาจทำให้ราษฎรต้องเสี่ยงอันตรายได้ ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดความผิดพลาดของหวางหยูมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้พี่สะใภ้ใหญ่หวาง และทหารองค์รักษ์ต้องถูกกัดเข้า นางไม่อาจจะใจอ่อนลงได้อีกครั้ง