ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 525
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ยกมือปิดปากเอาไว้ มองไปยังหลูซื่อ และทหารสามนายที่ถูกกัดเข้า อยู่ดี ๆ ก็มีคนถูกกัดเพิ่มขึ้นมาสี่คน อีกทั้งยังเกิดขึ้นต่อหน้าของพวกเขา พวกเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เบิกตากว้างมองทุกอย่างนี้ ช่างยากที่จะยอมรับได้
หลูซื่อตกใจเสียเกือบจะเป็นลมไป เอาแต่ร้องไห้ ร้องไห้อยู่ตลอด นางถูกกัดเข้าที่ลำคอ และตอนนี้ก็มีเลือดไหลออกมา นางยังคงไม่ใส่ใจ ยังคิดที่จะคลานเข้าไปสัมผัสกับหลี่เอ้อร์
จื่ออันลุกยืนขึ้นเอ่ยออกมากับโหรวเหย๋า “อย่ามัวแต่อึ้งตะลึงกัน ไปเตรียมยาฆ่าเชื้อมาทำความสะอาดบาดแผล”
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่มองจื่ออันด้วยความตะลึง ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างหดหู่ใจว่า “มีประโยชน์อย่างนั้นหรือ? พวกเราล้วนแต่รู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ใด”
คำพูดประโยคนี้ของโหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ทำให้ทหารทั้งสามนายที่ถูกกัดล้มลงไปกับพื้น มองไปยังบาดแผลของตนเอง ด้วยท่าทีเศร้าสร้อย
จื่ออันเหลือบมองออก เอ่ยเสียงดังออกมา “โหรวเหย๋า นำคนของเจ้าไปเตรียมยาฆ่าเชื้อเดี๋ยวนี้ ทุกคนล้วนแต่สามารถมีชีวิตอยู่ได้”
ทันใดนั้นท่านหมออาสาสมัครเยาว์วัยคนหนึ่งก็ทรุดลงกับพื้น กุมศีรษะร้องไห้ออกมา “ไม่ ไม่มีประโยชน์ พวกเรามาที่นี่กันหลายวันแล้ว ในทุกวันจำต้องคอยมองดูคนล้มตายไป อึดอัดเกินไปแล้ว”
นี่เป็นความโกรธที่ตนเองไม่มีพลังความสามารถ ขณะเดียวกันก็สงสารผู้ที่สูญเสียชีวิตไป ท่านหมอเหล่านี้ต่างก็ยินยอมที่จะเข้ามายังพื้นที่ภัยพิบัติ กระทั่งยังละทิ้งต่อความเป็นความตายของตนเองลง เห็นได้ว่าเป็นผู้ที่มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น
แต่ว่าพวกเขาอ่อนแอจนเกินไป
เมื่อหมออาสาผู้นี้ร้องไห้ออกมาเช่นนี้ ท่านหมอคนอื่นก็ก้มศีรษะแล้วนั่งลงอย่างเศร้าสลด
โหรวเหย๋าเองก็ร้องไห้ออกมา “จื่ออัน ขอโทษด้วย ข้าไม่ควรให้นางเข้ามา ตอนต้นนางเพียงแต่เอ่ยว่าของแค่มองดูชั่วแวบเดียว ทว่าเมื่อพบหน้ากันแล้ว นางก็ร้องไห้ออกมาขอร้องพวกเราให้นางได้เข้าไปสัมผัสเขาสักครู่ หลี่เอ้อร์ที่ไม่ได้สติอยู่ตลอดเวลา เมื่อมารดาเขาส่งเสียงเรียกออกมา จู่ ๆ เขาก็คลุ่มคลั่ง ดิ้นรนจนหลุดออกจากเชือก แล้วพุ่งเข้าจู่โจมผู้คน…”
แม่ทัพหลี่เองก็มีท่าทีเศร้าสร้อยและเสียใจ เขาไม่ได้เอ่ยอันใดออกมา เพียงแต่ยืนนิ่งเฉยราวกับรูปปั้น
จื่ออันเมื่อเห็นว่าทุกคนล้วนแต่ยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ก็อดที่จะเอ่ยออกมาด้วยความโกรธเคืองไม่ได้ “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาถกเถียงกันว่าผู้ใดผิดผู้ใดถูก หากแม้แต่พวกเจ้าเองก็ถอดใจกันแล้ว พวกเขาจะยังมีความหวังใดอีก? โหรวเหย๋า เจ้ารีบนำคนของเจ้าไปเตรียมยาฆ่าเชื้อ พยายามทำความสะอาดบาดแผลให้มากที่สุด”
ความโกรธของจื่ออันยังคงมีประโยชน์อยู่บ้าง โหรวเหย๋าลากเหล่าท่านหมอทั้งหลายออกไป จากนั้นก็นำยาฆ่าเชื้อพิเศษของจื่ออันเข้ามา
นางเปิดกล่องยา ด้านในนั้นแต่เดิมมีสารหนูอยู่บางส่วน และถึงแม้ว่าการใช้สารหนูเป็นยาจะมีผลไม่มากนัก ได้แต่หวังว่าการใช้แต่เนิ่น ๆ จะสามารถส่งผลยับยั้งได้เร็วขึ้น อย่างน้อยก็สามารถลดความความเร็วของการเกิดโรคลงได้
หลังจากที่ทำความสะอาดบาดแผลแล้ว โหรวเหย๋าเมื่อเห็นว่าจื่ออันกำลังผสมยาอยู่ จึงได้หันมามอง ก็ต้องตะลึงขึ้นในทันที “เจ้า…เจ้ารู้หรือไม่ว่านี้คืออะไร?”
จื่ออันเอ่ยเสียงเคร่งขรึมออกมา “รู้!”
“เจ้าจะวางยาพวกเขาให้ตายอย่างนั้นหรือ?” โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ลดเสียงลงต่ำ แต่มาพร้อมกับความโกรธ
จื่ออันไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “เจ้าสนใจแต่เพียงทำความสะอาดบาดแผลก็พอ ส่วนเรื่องการจ่ายยานั้น เจ้าไม่ต้องใส่ใจ”
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่ดึงนางออกไปด้านนอก แม่ทัพหลี่เมื่อเห็นเข้า ก็ตามออกไปด้วยเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น?” แม่ทัพหลี่เอ่ยถาม
โหรวเหย๋าเสี้ยนจู่เอ่ยออกมาอย่างโมโห “นางถึงกับกล้าที่จะใช้สารหนู”
แม่ทัพหลี่ตะลึงไปชั่วครู “เป็นเรื่องจริงหรือ?”
จื่ออันที่รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก ในตอนที่จะเข้ามานั้นควรที่จะเอ่ยออกไปกับมู่หรงเจี๋ยว่าที่แห่งนี้ให้นางเป็นผู้ตัดสินใจ
นางเอ่ยออกมาจริงจัง “ไม่ผิด ที่ข้าจะใช้คือสารหนู ข้ามีประสบการณ์การรักษามาก่อน ใช้สารหนูแล้วสามารถชะลอการเกิดโรคขึ้นได้”
“เหลวไหล สารหนูเป็นสารพิษ” แม่ทัพหลี่เอ่ยออกมาด้วยความโมโห
“โหรวเหย๋า เจ้าเองก็เรียนการแพทย์ หรือว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องที่ใช้สารหนูเป็นยาอย่างนั้นหรือ?” จื่ออันขมวดคิ้วขึ้น อดไม่ได้ที่ถามออกมาด้วยความโกรธ
โหรวเหย๋าเอ่ย “ไม่ผิด สารหนูสามารถใช้เป็นยาได้ แต่ทว่าตอนนี้มียามากมายที่สามารถใช้แทนสารหนูได้ ทำไมจะต้องใช้มัน? เจ้ารู้หรือไม่ว่าใช้ในจำนวนที่ไม่เหมาะสม ก็จะเป็นอันตรายไปจนถึงชีวิตของผู้คน? อีกทั้งเมื่อครู่นี้เจ้าไม่ได้ต้องการจะใช้เป็นยา แต่จะใช้มันโดยตรง ข้ามองเห็นจำนวนที่เจ้าใช้ มันมากเพียงพอที่เป็นพิษฆ่าคนตายได้เลย”