ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 536
ราชครูเหลียงไม่คิดเลยว่ามู่หรงจ้วงจ้วงเองก็อยู่ที่นี่ เขาตกตะลึงเล็กน้อย “คารวะองค์หญิง”
เซียวเซียวที่ยืนอยู่ข้างกายของเขาจ้องมองมายังเสี้ยนจู่นิ่งเฉย จากนั้นก็ประสานมือออกมา “กระหม่อมเซียวเซียว คารวะองค์หญิง”
ภายในโถงบรรพบุรุษอันสกปรกยุ่งเหยิง รอบทิศเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น จ้วงจ้วงเงยหน้าขึ้น มองไปยังเซียวเซียวที่ไม่ได้พบกันมาเนิ่นนาน เกิดความรู้สึกราวกับอยู่กันคนละโลกขึ้นมา
ทว่าก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกชั่วคราวเท่านั้น ทุกอย่างล้วนแต่กลับคืนมาเป็นปกติ “แม่ทัพใหญ่กลับมาแล้ว?”
“ใช่แล้ว!” เซียวเซียวมองมายังนาง ในสายตามีบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ออกมา “ข้ากลับมาแล้ว”
ข้ากลับมาแล้ว ข้ากลับมาแล้ว!
เหมือนกับก่อนหน้านั้นที่คอยติดตามกันอยู่ในวัง และบางคราวที่ออกจากวัง กลับจวนไปหลายวัน เมื่อกลับเข้าวังไป เขาจะต้องไปหานางก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็บอกกับนางว่า ข้ากลับมาแล้ว
“ท่านอา!” อ๋องหลี่โค้งกายคำนับตามมารยาท
“อืม เจ้าสามเองก็มาด้วย!” จ้วงจ้วงเหลือบมองยังเขาด้วยความเรียบเฉย “พื้นที่ภัยพิบัติไม่ต้องการคนจำนวนมากเช่นนี้ เจ้าสามจำต้องระวังผู้อื่นหลอกใช้ให้เป็นหุ่นเชิดเข้า”
อ๋องหลี่รู้ว่าจ้วงจ้วงหมายความว่าอย่างไร ทว่าเขาไม่ได้ใส่ใจ เพราะอย่างไรแล้ว เขามุ่งเป้าไปยังเรื่องราวมิใช่ตัวคน
จ้วงจ้วงมองไปยังท่านหมอเมื่อครู่นี้ “ข้าเพิ่งจะได้ยินเจ้าบอกออกมาว่า ก่อนที่จื่ออันจะจากไปนั้นบอกกับเจ้าเอาไว้ว่าไม่อาจจะรักษาให้หายได้ จึงต้องจากไป ใช่หรือไม่?”
หมอผู้นั้นตอบกลับมา “ทูลองค์หญิง เป็นเช่นนี้ ก่อนที่องค์เพิ่งจะมาถึงนั้น ได้บอกให้พวกเราเอ่ยออกมากับทุกคน ให้เหมือนกันว่าท่านหมอเซี่ยออกไปเก็บยา แต่ข้านั้นไม่เห็นด้วย หากว่าท่านหมอเซี่ยหลบหนีไปแล้วจริง ก็ควรจะแจ้งราชสำนักไปแต่โดยเร็ว ให้ทางราชสำนักส่งคนมารับช่วงต่อเรื่องของพื้นที่ภัยพิบัติ”
“หนีไป? เจ้าบอกว่าหนีไป?” เจ้าหน้าที่คนนั้น ที่ราชครูเหลียงนำมาจ้องมองไปยังหมอผู้นั้นก่อนจะเอ่ยถาม “เจ้าแน่ใจว่านางหลบหนีไปแล้ว?”
หมอผู้นั้นเอ่ยตอบกลับมา “สองวันมาแล้วที่ไม่พบนางกลับมา อีกทั้งก่อนที่นางจะไปนั้น ยังเอ่ยคำพูดเช่นนั้นออกมา เพราะฉะนั้นสามารถคาดได้ว่านางจะต้องหลบหนีไปแล้ว”
ราชครูเหลียงเอ่ยถาม “ในวันที่องค์รัชทายาทมานั้น บอกว่าไม่ได้พบนาง ตั้งแต่ที่องค์รัชทายาทเข้ามาตรวจสอบ นางก็ไม่ได้กลับมาใช่หรือไม่?”
“ขอรับ!” หมอผู้นั้นเอ่ยออกมา
ราชครูเหลียงเย้ยหยันออกมา “หากมิใช่ว่าหลบหนีไป แล้วทำไมถึงสองวันแล้วก็ยังไม่กลับมา? องค์หญิงพอจะบอกได้หรือไม่ว่าเพราะอะไร!”
จ้วงจ้วงเอ่ยออกมาใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใด “ข้าเคยบอกเอาไว้แล้ว นางไปเก็บยา กำหนดเวลายังไม่ทันมาถึง ราชครูจะร้อนรนไปทำไมกัน?”
ราชครูเหลียงเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย “เก็บยาคงจะต้องพาคนไปด้วย? อีกทั้งเก็บยาแล้วทำไมถึงต้องบอกกับหมอเอาไว้ว่านางไม่อาจรักษาได้?”
“ใช่แล้ว หากว่านางจะหลบหนีไป แล้วทำไมถึงต้องบอกกับผู้อื่นว่านางไม่อาจรักษาได้? ราชครูคงคิดว่าจื่ออันโง่เขลาจนเกินไปกระมัง?”
คำพูดนี้เซียวเซียวเคยกล่าวออกมาก่อน ในตอนที่จ้วงจ้วงเอ่ยออกมานั้น เขาก็มองไปยังจ้วงจ้วง
ราชครูเหลียงหัวเราะออกมาอย่างประหลาด “ดี เช่นนั้นก็ถือเสียว่าเป็นที่องค์หญิงเอ่ยออกมา นางไปเก็บยา แต่เมื่อไปแล้วก็สองถึงสามวัน ดูจะไม่มีความรับผิดชอบจนเกินไป? มียาชนิดใดกันที่ต้องเป็นนางไปเก็บด้วยตนเอง? ชีวิตคนห้าสิบกว่าที่รอนางอยู่ที่นี่ หลายวันมานี้นางไม่กลับมา ต่อให้ไม่ถือว่าหลบหนีไป แต่ก็ถือว่าละเลยหน้าที่”
“ละเลยหน้าที่? จื่ออันมีตำแหน่งหน้าที่อย่างเป็นทางการอย่างนั้นหรือ? ทำไมข้าถึงได้ไม่รู้?” จ้วงจ้วงเย้ยหยันออกมา
ราชครูเหลียงมองไปยังเซียวเซียว “แม่ทัพใหญ่คิดเห็นเช่นไร? นางได้รับคำสั่งให้มายังพื้นที่ภัยพิบัติ แต่กลับไม่พบตัวคนมาหลายวันแล้ว คำสั่งทหารที่ออกมาจะยังมีความหมายอะไร? หากว่าอยู่ในกองทัพ ผู้ที่ได้รับคำสั่งทหารกระทำการเช่นนี้ จะต้องได้รับโทษอย่างไร? หวงไท่โฮ่วให้แม่ทัพใหญ่มาตรวจสอบพื้นที่ภัยพิบัติ สถานการณ์ที่นี้ แม่ทัพคงจะแจ้งหวงไท่โฮ่วไปตามความเป็นจริงใช่หรือไม่?”