ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 540
“ข้าให้เวลาเจ้าสองวัน นำตัวเซี่ยจื่ออันกลับมา มิฉะนั้นแล้ว ตำแหน่งมหาเสนาบดีของเจ้า ก็เปลี่ยนคนเสีย”
“กระหม่อมน้อมรับคำสั่ง!” ในใจของมหาเสนาบดีเซี่ยรู้สึกรำคาญขึ้นมาเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าเซี่ยจื่ออันจู่ ๆ ก็ออกจากเมืองหลวงไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเชื่อว่าเซี่ยจื่ออันจะหลบหนีไป แต่ทว่าคนกลับหายไปจริง
เขาสงสัยกระทั่งว่า เป็นคนของราชครูเหลียงที่จับตัวนางไป
บางทีตอนนี้นางอาจจะตายไปแล้ว
หากว่าเป็นเช่นนี้แล้วจริง ๆ เช่นนั้นราชครูเหลียงก็เป็นดั่งคำของมารดา เป็นคนชั้นต่ำที่ละทิ้งผู้อื่นทันที เมื่อใช้จนหมดประโยชน์
ราชครูเหลียงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่อยากยืดยื้อไปอีกสองวัน เพราะว่าหากหลังจากสองวันแล้วเซี่ยจื่ออันกลับมารักษาโรคระบาดได้ ก็เท่ากับว่านางได้ทำประโยชน์ใหญ่หลวง
แต่ถ้าหากออกคำสั่งสังหารผู้ป่วยโรคผีดิบไปเสียตอนนี้ ต่อให้ภายหน้านางจะนำสูตรยากลับมา หวงไท่โฮ่วก็ไม่มีทางที่จะปล่อยนางไปโดยง่าย
“ไท่โฮ่ว เรื่องสำคัญยิ่งนัก กระหม่อมคิดว่าไม่จำเป็นต้องรออีกต่อไปแล้ว ควรจะออกคำสั่งให้เผาหมู่บ้านทิ้งเสีย”
สีหน้าของหวงไท่โฮ่วดูไม่พอใจนัก “วันนี้ ในตอนที่ว่าราชการยามเช้าท่านอ๋องว่าอย่างไรบ้าง?”
“ท่านอ๋องปกป้องเซี่ยจื่ออัน กระทำการโดยที่ไม่สนใจต่อเหตุผล กระทั่งอาจจะส่งผลหายนะต่อรากฐานของต้าโจวได้ เป็นอันตรายต่อชีวิตของราษฎร”
หวงไท่โฮ่วเอ่ยออกมาเรียบเฉย “เรื่องของราชกิจ ข้าเองก็คงจะไม่อาจถามออกไปได้ ในเมื่อท่านอ๋องได้ตัดสินใจจะทำเช่นนี้แล้ว ข้าเองก็ไม่ควรจะสงสัย ทำได้เพียงแต่เร่งให้มหาเสนาบดีรีบตามเซี่ยจื่ออันกลับมา”
ราชครูเหลียงไม่คิดเลยว่าหวงไท่โฮ่วจะสนับสนุนมู่หรงเจี๋ยอย่างแรงกล้าเช่นนี้ ตรงจุดนี้จะอยู่เหนือกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้
เดิมนั้นเขาคิดว่า มู่หรงเจี๋ยมิได้เกิดมาจากหวงไท่โฮ่ว นางคงจะมีความหวาดกลัวต่อมู่หรงเจี๋ยถึงจะถูก ก่อนหน้านี้ที่สนับสนุนการว่ากิจการบ้านเมืองของเขา สามารถอธิบายได้ว่าไม่ต้องการที่จะให้ผู้อื่นตำหนิได้ว่า นางที่เป็นไท่โฮ่วสร้างความลำบากให้กับลูกเลี้ยง
ทว่าคราวนี้ไม่เหมือนกัน หากคราวนี้นางลุกขึ้นยืน ราชสำนักก็จะมีคนมากมายที่สนับสนุนการตัดสินใจของนาง เพราะว่าผู้ป่วยโรคผีดิบนั้นทำให้คนมากมายเกิดความตื่นตระหนกและหวาดกลัว
ราชครูเหลียงเองก็ไม่มีวิธีการอื่นใดแล้ว ทำได้เพียงจากไปพร้อมกับมาเสนาบดีเซี่ย
สองยักษ์ใหญ่ในราชสำนัก ตั้งแต่ร่วมมือกันจนถึงตอนนี้ ก็ถือได้ว่าเกิดรอยร้าวขึ้นแล้ว
ด้านนอกตำหนัก มหาเสนาบดีเซี่ยเอ่ยถามออกไป “ราชครู เป็นคนซื่อตรง พูดความจริงมาอย่าอ้อมค้อม เซี่ยจื่ออันเป็นท่านที่จับไปใช่หรือไม่?”
ราชครูเหลียงส่ายศีรษะออกมา เอ่ยออกมาด้วยความจริงจัง “มหาเสนาบดี ก่อนหน้านี้ตัวข้าเองก็ต้องการที่จะใช้เรื่องนี้มายับยั้งเจ้า จึงขอให้องค์รัชทายาทเดิมพันด้วยตำแหน่งของเจ้าไป อย่างไรก็ตาม ตัวข้าสามารถสาบานออกไปกับฟ้าดินได้ว่า ไม่ได้จับตัวเซี่ยจื่ออันไป และก็ไม่รูว่าเซี่ยจื่ออันไปที่ใด”
“ท่านไม่รู้? หากท่านไม่รู้แล้วทำไมถึงได้บีบบังคับให้มู่หรงเจี๋ยออกคำสั่งเผาหมู่บ้านทิ้ง?”
“เพราะว่าข้าสงสัยว่า เซี่ยจื่ออันอาจจะหาสูตรยาพบแล้ว ไปที่ใดสักแห่งเพื่อตามหาวัตถุดิบยา นางมิได้หลบหนี เบื้องหลังของนางมีผู้สำเร็จราชการแทนอยู่ ทำไมนางถึงต้องไป? ในเมื่อไม่มีทางหลบหนี แล้วก็ไม่ใช่คนของข้าที่จับตัวไป เช่นนั้นจะต้องเป็นเพราะจากไปด้วยตนเอง ที่นางจากไปก็มีเพียงสาเหตุเดียว ก็คือหาสูตรยาในการรักษาผู้ป่วยโรคผีดิบพบแล้ว”
เมื่อเขายังเห็นว่ามหาเสนาบดีเซี่ยยังคงมีท่าทีที่ไม่เชื่อออกมา ก็เอ่ยออกมาอีก “มหาเสนาบดีเซี่ย หากว่านางได้สูตรยากลับมา รักษาโรคระบาดได้ ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านจะเผชิญกับภัยคุกคามใด? นั่นก็คือ เจ้าเสือน้อยตระกูลของเจ้า ฟันงอกยาวออกมาแล้ว อีกทั้งฟันยังยาวเสียยิ่งกว่าผู้ใด คนแรกที่นางจะกัด ก็คือท่าน แต่ถ้าหากมู่หรงเจี๋ยออกคำสั่งสังหารผู้ป่วยโรคผีดิบลงไป ต่อให้นางจะหาสูตรยากลับมาได้ แต่ก็เป็นเพราะว่านางจากไปโดยที่ไม่บอกกล่าวเอาไว้ จนทำร้ายชีวิตคนไปพันกว่า ต่อให้จะมีความชอบ แต่ก็ยังต้องถามหาความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน”