ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 559

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 559

หยวนฉุ่ยยวี่ไม่ได้ใส่ใจต่อคำเสียดสีของนาง ริมฝีปากยกขึ้นน้อย “ป้าอย่าเพิ่งใจร้อน ข้าไม่ได้ให้เจ้าใส่ร้ายฮูหยินผู้เฒ่า ในใจเจ้าเองก็กระจ่างดีอยู่แล้วว่า ทุกอย่างนี้ล้วนแต่เป็นแผนการของฮูหยินผู้เฒ่าและมหาเสนาบดีเซี่ย ใช่หรือไม่? ข้าเพียงแต่อยากจะให้เจ้าเอ่ยความจริงออกมาเท่านั้น”

ป้าชุ่ยยู่เอ่ยประชดประชันออกมา “เสี้ยนจู่คงจะเลอะเลือนเสียแล้ว ดูเหมือนว่า วันนี้คงจะไม่มีอะไรให้ต้องเอ่ยออกมาแล้ว บ่าวขอลาก่อน”

หยวนฉุ่ยยวี่เองก็ไม่รีบร้อน เพียงแต่เอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย “ดี เช่นนั้นป้าก็กลับไปก่อนเถิด ใช่แล้ว หากว่ามีเวลาว่างแล้วก็กลับไปเยี่ยมคนในครอบครัวของเจ้าบ้างก็แล้วกัน”

ป้าชุ่ยยู่หันกลับมาในทันที จ้องมองไปยังหยวนฉุ่ยยวี่ “ท่านทำอะไรกับพวกเขา?”

หยวนฉุ่ยยวี่โบกมือ “ข้ายังไม่ถึงขั้นที่ต้องลงมือกับคนบริสุทธิ์เหล่านี้ ที่ป้าเอ่ยถามออกมาเช่นนี้ ดูเหมือนว่าคงจะนานมากแล้วที่ไม่ได้กลับไป หรือว่าเจ้าไม่รู้ว่าครอบครัวของเจ้าล้วนแต่ถูกผู้ป่วยโรคผีดิบกัดเข้าแล้ว? พี่ชายของป้าเองถูกพบเข้านั้น เป็นทหารลาดตระเวนที่จับผู้ป่วยโรคผีดิบเข้าพอดี ราชครูเหลียงได้ออกคำสั่ง เขาสั่งให้ทุบตีพี่ชายของเจ้าจนตายไปแล้ว”

ป้าชุ่ยยู่เอ่ยออกมาอย่างโกรธจัด “ท่านพูดจาไร้สาระ!”

“จะไร้สาระหรือไม่ ป้ารีบกลับไปดูก็รู้แล้ว ในคืนนั้นที่ผู้ป่วยโรคผีดิบก่อความวุ่นวายขึ้น กัดผู้คนบนถนนหยวนชังไปนับพันคน คนในครอบครัวของเจ้า ไม่มีใครเหลือรอด ทุกอย่างนี้เป็นใครที่ทำกัน? ในใจของป้านั้นย่อมรู้ดี ฮูหยินผู้เฒ่ารู้ดีว่าครอบครัวของเจ้าล้วนแต่อยู่ที่ถนนหยวนชัง แต่กลับก่อนที่ลงมือ ยังไม่ยอมบอกกับเจ้า เพื่อที่ให้เจ้าไปอพยพครอบครัวของเจ้าออกไปก่อน เพราะนางกลัวว่าข่าวจะหลุดออกไป”

“ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่าได้คิดจะแยกข้ากับฮูหยินผู้เฒ่า” ป้าชุ่ยยู่เอ่ยออกมาเสียงดัง ทว่าดวงตากลับแดงก่ำไปแล้ว ร่างกายสั่นไหวขึ้นเล็กน้อย

หยวนฉุ่ยยวี่ยกมือขึ้น แม่นมหยางหยิบรายชื่อฉบับหนึ่งออกมา “นี่เป็นรายชื่อของคนที่ถูกกัดไปในคืนนั้น เจ้าลองดูให้ละเอียดว่ามีคนในครอบครัวของเจ้าหรือไม่? นี่เป็นรายชื่อที่ท่านอ๋องส่งมาให้ ไม่มีทางผิดพลาด”

ป้าชุ่ยยู่คว้าออกไป พลิกดูรายชื่อ มือสั่นจนแทบไม่อาจพลิกเปิดหน้าได้ เมื่อเห็นรายชื่อของคนในครอบครัวของนางแล้วนั้น ทั่วทั้งกายของนางก็ราวกับว่าจะกลายเป็นหินไป ทะเบียนรายชื่อหลุดออกจากมือนางไป

น้ำตาเม็ดใหญ่ร่วงหล่นลงมา นางย่อกายลง กอดเข่าแล้วร้องไห้ออกมา

นางไม่เคยแต่งงานมาก่อนเลยทั้งชีวิต เพื่อติดตามฮูหยินผู้เฒ่ามา มิใช่เพื่อต้องการมีชีวิตที่มีเกียรติยศหรือร่ำรวยใด นางและหลานยู่นั้นไม่เหมือนกัน ที่นางทำมาทุกอย่างนั้นล้วนแต่เพื่อคนในครอบครัว

หยวนฉุ่ยยวี่ลุกขึ้นยืนประคองนางขึ้นอย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง “ข้าเสียใจกับป้าด้วย พี่ชายของเจ้าจากไปแล้ว แต่หลานชายของเจ้ายังอยู่ พวกเขาต่างถูกกัด ตอนนี้ถูกส่งไปยังพื้นที่ภัยพิบัติ เจ้าลองไปดูเถิด ข้าเองได้บอกกับพวกเขาเอาไว้แล้ว ทางด้านของพื้นที่ภัยพิบัติจะอนุญาตให้เจ้าได้เข้าไป”

เมื่อเอ่ยจบ นางก็ส่งสัญญาณให้กับแม่นมหยางนำตัวนางออกไป

ป้าชุ่ยยู่งอสองเข่าคุกเข่าลงไป นางไม่รู้ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงอันตรายที่จะล่วงเกินหยวนฉุ่ยยวี่ จึงเอ่ยถามไปถ้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก “เสี้ยนจู่ ท่านจะต้องมีวิธีรักษาผู้ป่วยโรคผีดิบใช่หรือไม่? คุณหนูใหญ่ยังไม่ตายใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

หยวนฉุ่ยยู่จับลงบนหน้าผาก ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เงยสายตาเศร้าสร้อยเอ่ยออกมา “ชุ่ยยู่ ตอนนี้จื่ออันเป็นหรือตายยังไม่แน่ชัด ข้าหวังมากกว่าผู้ใดให้นางยังมีชีวิตอยู่”

ป้าชุ่ยยู่นึกถึงคำของนักฆ่าขึ้นมา ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ จะยังมีชีวิตอยู่ได้นั้นยากยิ่งนัก

นางร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง

“ลุกขึ้นเถิด พี่ชายของเจ้ามองมาจากบนฟ้า เขาตายไปอย่างไม่เต็มใจ เขาถูกทุบตีจนตายไป เจ้าลองนึกภาพอันน่าเศร้านั้นดู”

หยวนฉุ่ยยวี่เอ่ยออกมา

ป้าชุ่ยยู่นึกถึงการตายอันน่าอนาถของแม่ชีขึ้นมา ในใจของนางเย็นชาจนสั่นสะท้านไปทั้งกาย

“ข้ารับปาก ข้ารับปากจะไปเป็นพยานยังกรมอาญา ขอร้องเพียงแค่เสี้ยนจู่รีบตามหาคุณหนูใหญ่กลับมา เพื่อช่วยเหลือคนในครอบครัวของข้า” ป้าชุ่ยยู่ไม่หยุดที่จะโขกหัวลง พร้อมร้องคร่ำครวญอย่างน่าสังเวชใจ

“ไปเถิด พาเจ้าไปพบกับครอบครัวของเจ้าเสียก่อน” แม่นมหยางเอ่ยออกมา

มีเพียงแค่พบหน้ากันเท่านั้น ถึงจะทำให้นางตัดใจไปเป็นพยานชี้ตัวฮูหยินผู้เฒ่าและมหาเสนาบดีเซี่ยได้ เพราะว่านั่นคือคนที่นางรับใช้มากว่าครึ่งค่อนชีวิต

หากไม่แตกหักกันอย่างสมบูรณ์ ก็ไม่มีทางที่จะทำการเลวร้ายลงได้อย่างสิ้นเชิงแน่

แม่นมหยางนำป้าชุ่ยยู่ไปยังพื้นที่ภัยพิบัติ นางเห็นหลานชายหลานสาวด้วยตาของตนเองอยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติ อย่างช่วยเหลืออะไรไม่ได้ เริ่มมีอาการออกมาแล้ว เมื่อมองเห็นนางเข้าก็มีเพียงเผยท่าทีที่ดุร้ายออกมา

พวกเขาอยู่รวมกับผู้ป่วยมากมาย ล้วนแต่ถูกมัดเอาไว้ ไม่มีแม้แต่ที่นอน ทำได้เพียงแต่เบียดเสียดกันอยู่ตรงพื้นที่โล่ง

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท