ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 568
ท่านผู้เฒ่ายังคงนั่งอยู่บนหาดทราย ใบหน้าปกคลุมไปด้วยผ้าผืนบาง สายตากวาดมอองบนใบหน้าจื่ออันอย่างแผ่วเบา กวักมือเรียกป้าอาเฉอไปนั่งข้างกายโดยที่ไม่สนใจนางอีก ดูเหมือนต้องการจะพูดคุยกัน
จื่ออันต้องการเอียงตัวเข้าไปฟัง ป้าอาเฉอขว้างส้อมมาให้นางก่อนจะเอ่ย “ไปตกปลา”
จื่ออันหยิบส้อมขึ้นมา เดินไปข้างหน้าได้สองสามก้าว จู่ ๆ ก็หันศีรษะกลับมา แล้วโยนส้อมลงบนพื้นอย่างแรง เอ่ยออกมาอย่างโกรธจัด “พวกท่านพอแล้วหรือยัง ข้าอดทนมานานมากพอแล้ว ตกลงแล้วพวกท่านเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงต้องขังข้าเอาไว้ที่นี่ด้วย?”
“ไปตกปลาซะ!” ป้าอาเฉอเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา
“ข้าจะตีพวกท่านซะ หากว่าพวกท่านยังไม่ปล่อยข้าไป หากคู่หมั้นของข้ารู้เข้า จะต้องไม่ปล่อยพวกท่านไปแน่” จื่ออันเสียสติไปแล้ว สบถคำด่าหยาบคายออกมา ช่างน่ารำคาญเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีบุญคุณช่วยชีวิตเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจลักพาตัวนางเพื่อไปแต่งงานกับคนโง่ได้
“คู่หมั้นของนางมีที่มาใหญ่โตอย่างนั้นหรือ?” ท่านผู้เฒ่ามองไปยังป้าอาเฉอ ก่อนจะเอ่ยถามออกมา
ป้าอาเฉอเอ่ย “ถือว่าใหญ่โต เป็นถึงผู้สำเร็จราชการแทน”
จื่ออันอ้าปากค้างออกมา พวกนางรู้? ตกลงแล้วพวกพวกนางเป็นใครกัน? ในเมื่อรู้ว่าคู่หมั้นนางเป็นถึงผู้สำเร็จราชการแทน แล้วทำไมถึงได้ยังจะให้นางแต่งงานกับหลานชายโง่งมคนนั้นอีก?
คนของกุ้ยไท่เฟยหรือ? คนของฮูหยินผู้เฒ่า? หรือว่าจะเป็นราชครูเหลียง?
แย่แล้ว ศัตรูมีมากจนเกินไป
เมื่อจื่ออันคิดมาจนตรงจุดนี้ ก็หยิบส้อมที่พื้นขึ้นมาอย่างเร็ว ก่อนจะพุ่งไปยังป้าอาเฉอ
ทันใดนั้น “ฟรึ่บ ฟรึ่บ ฟรั่บ ฟรั่บ” ดังขึ้นแล้ว จื่ออันหยิบส้อมขึ้นมา เดินตรงไปยังชายฝั่งเพื่อตกปลาอย่างว่าง่าย
นางย่อกายอยู่ครึ่งหนึ่งในทะเล ใช้น้ำล้างใบหน้าและศีรษะที่บวมแดง กัดฟันเอ่ยออกมา “ผู้เฒ่าผู้นี้ ลงมือช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ!”
อีกทั้งอาวุธของอีกฝ่ายยังเป็นเพียงแค่รองเท้าปักลายดอกไม้เท่านั้น
นางที่เป็นถึงแพทย์ทหารพิเศษที่มีเกียรติ กลับถูกรองเท้าปักลายดอกไม้ทุบตีเสียจนล้มลงกับพื้น คนที่ทุบตีนางยังเป็นหญิงชราอีกด้วย ช่างน่าอับอายจริง ๆ
น่าโมโห!
ในตอนที่นางตกปลาอยู่นั้น ป้าอาเฉอที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ของท่านผู้เฒ่า เท้าคางและมองมายังจื่ออันที่ตกปลาอยู่ “หญิงสาวคนนี้ ช่างอารมณ์เสียได้ง่ายจริง ๆ”
“หากว่าไม่มีนิสัยเผ็ดร้อนสักเล็กน้อย แล้วจะควบคุมเจ้าหลานชายโง่ของข้าได้อย่างไร?” ท่านผู้เฒ่าเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย
“นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ดื่มเหล้ามงคล” ป้าอาเฉอถอนหายใจออกมา “ทว่าตอนนี้ข้าอยากจะเห็นใบหน้าไข่เล็ก ๆ กรุ่นโกรธของเจ้าเจ็ดเป็นที่สุดแล้ว น่ารักเป็นอย่างยิ่ง”
ท่านผู้เฒ่าเอ่ยออกมาเสียงดัง “เจ้ายังคิดว่าเขายังเป็นเด็กอยู่อีกอย่างนั้นหรือ? เด็กโดยทั่วไปแล้วเมื่ออายุเกินหกขวบก็ไม่ได้น่ารักอีกแล้ว”
“ไม่อาจเอ่ยออกมาเช่นนี้ได้ ในปีนั้นท่านเองก็ยังบอกออกมาตลอดว่า ฮุ่ยจู่น่ารักไม่ใช่หรือ?” ป้าอาเฉอเอ่ยออกมา ก่อนชะงักไปครู่หนึ่ง “เกรงก็แต่ว่าเจ้าเจ็ดอาจจะไม่ได้เข้าใจในความพยายามของท่าน ท่านเล่นตลกกับเขาเสียยกใหญ่ อีกทั้งเขายังไม่เห็นด้วยกับงานมงคลนี้อีกด้วย”
“ถ้าหากข้าไม่ทำเช่นนี้ แล้วจะผ่านด่านมารดาของเขาไปได้อย่างนั้นหรือ?” สายตาของท่านผู้เฒ่าเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “ในตอนที่นางเข้าวังมานั้น ข้าก็ไม่ค่อยจะชอบนางนัก คนคนหนึ่งมีใจทะเยอทะยานหรือไม่ สามารถมองออกได้จากดวงตา เดิมนั้นสามารถจัดเตรียมงานแต่งดี ๆ ได้ เพราะอย่างไรแล้วทุกวันนี้เขาเป็นถึงผู้สำเร็จราชการแทน การที่รีบแต่งงานนั้นเป็นกระทำที่ไม่ดีกับเขาเลย”
“ใช่แล้ว หลังจากที่เซี่ยจื่ออันกลับไปแล้ว ก็จะกลายเป็นพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทน ถึงจะต่อสู้กับนางได้ มิฉะนั้นแล้ว รอหวงไท่โฮ่วก็คงไม่รู้ว่างานแต่งนี้จะถูกกำหนดขึ้นมาได้ อีกทั้ง งานแต่งยังไม่กำหนด ทางด้านของกุ้ยไท่เฟยก็จะต้องลงมือแน่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะต่อสู้กันไปถึงปีไหนเดือนไหนกัน? เกรงว่าปีหน้าก็คงจะยังไม่อาจจะได้แต่งงาน”
“เรื่องงานแต่งงานนี้ เดิมทีข้าเองก็ไม่อยากจะเกี่ยวข้องนัก แต่ว่าเจ้าเจ็ดคงจะไม่อาจรับมือกับความทะเยอทะยานของมารดาได้ เขายังมีเรื่องที่เขาต้องทำอีก ผู้หญิงคนนั้น ก็ปล่อยให้เซี่ยจื่อคอยช่วยเขาขัดขวาง อีกทั้งผู้หญิงกับผู้หญิงลงมือกันค่อนข้างจะโหดเหี้ยม อาเจี๋ยเองก็ไม่ต้องแบกรับชื่อว่าอกตัญญู ราชวงศ์ต้าโจวของข้า หากว่ายังถูกผู้หญิงคนนี้เข้ามาวุ่นวายในราชสำนักอีก ก็จะต้องมีคนป่าเถื่อนบุกเข้ามาอีกแน่ ตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย เกลียดก็เพียงแต่คนพวกนั้น ที่ดวงตามืดบอดมองไม่เห็นความจริง”
ท่านผู้เฒ่าผู้นี้ ก็คือไท่หวงไท่โฮ่วในทุกวันนี้ บุตรสาวของมหาเสนาบดีหลงในอดีต หลงจ่านเหยียน