ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 572
แต่ทว่าก็ลดปัญหาเอาไว้ได้มาก เพราะไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงนั้นเป็นใคร ไม่จำเป็นต้องตระเตรียมพิธีการที่ใหญ่โตจนเกินไป และไม่จำต้องคำนึงถึงสินสอดทองหมั้น
แต่เวลาเพียงแค่สามวันสำหรับพิธีอภิเษกอันใหญ่โต ก็เพียงพอจะทำให้ผู้คนรู้สึกลำบากแล้ว
เพื่อที่จะประหยัดเวลาแล้ว กรมกิจการภายในให้หูฮวนสี่จากร้านติ้งเฟิง ให้นางเป็นคนจัดงานเลี้ยง ทั้งอาหาร วัตถุดิบ และพ่อครัวทั้งหมด ล้วนแต่อยู่ภายใต้การดูแลของร้านติ้งเฟิงที่เป็นผู้รวบรวมจัดการ เป็นเพราะว่าจวนอ๋องนั้นไม่เคยที่จะจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่มาก่อน บวกกับครั้งนี้เป็นพระราชเสาวนีย์ที่ไท่หวงไท่โฮ่วทรงประทานมาในราชการยามเช้า ขุนนางที่อยู่ในการว่าราชการยามเช้าวันนั้นล้วนแต่ต้องเข้าร่วม และนี่หมายความว่าจำนวนแขกจะต้องมีจำนวนมาก
สิ่งที่ทำให้กรมกิจการภายในปวดหัวมากที่สุดก็เห็นจะเป็นชุดอภิเษกสมรสของบ่าวสาว แล้วจะทำเช่นไรกันดี? มีเวลาเพียงแค่สามวันเท่านั้น ต่อให้จะเร่งช่างปักทำงานทั้งวันทั้งคืน ก็คงไม่อาจจะทำออกมาได้
เพราะว่าชุดอภิเษกของชินอ๋องนั้น การปักค่อนข้างจะซับซ้อน หากว่าความละเอียดค่อนข้างมาก ใช้เวลาถึงครึ่งปีก็มี และต่อให้จะไม่ได้มากพิธีนัก อย่างน้อยก็จะต้องใช้เวลาถึงหนึ่งเดือน
เพียงแค่สามวันนี้ จะไปเอาชุดอภิเษกของชินอ๋องออกมาจากที่ใดกัน?
ทางด้านของกรมกิจการภายในก็นับได้ว่าแทบจะระเบิดออกมาแล้ว มีเพียงทางเลือกสุดท้าย กรมกิจการภายในจึงทำได้เพียงไปหาหวงไท่โฮ่ว หวงไท่โฮ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงได้ตรัสออกมา “หากจะเร่งรีบก็คงจะไม่ทันการแล้ว เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน ในตอนที่อ๋องหลี่อภิเษกนั้น ชุดอภิเษกเป็นข้าที่สั่งคนที่รีบตัดเย็บ ข้าจะลองไปถามยืมมาจากเขาก็แล้วกัน”
กรมกิจการภายในทำเพียงยิ้มขมขื่นออกมา “ขอยืมสิ่งของจากอ๋องหลี่ นี่ไม่ใช่ยากเสียยิ่งกว่าเร่งตัดเย็บหรอกหรือ?”
อ๋องหลี่ไม่ใช่คนที่ตระหนี่หรือว่าใจแคบแต่อย่างใด เขาเพียงแต่คิดว่า ของบางอย่างเป็นเพียงของเขาท่านั้น ไม่อาจที่จะให้ผู้อื่นหยิบยืมได้
หวงไท่โฮ่วยิ้มออกมา “แน่นอนว่าข้าย่อมมีทางเกลี้ยกล่อมเขาได้”
หลังจากที่หัวหน้ากรมกิจการภายในจากไปแล้ว หวงไท่โฮ่วก็รับสั่งให้ซุนกงกงดำเนินการ เบิกตัวอ๋องหลี่ให้เข้าวัง
และแน่นอนว่า เมื่ออ๋องหลี่ได้ยินหวงไท่โฮ่วทรงถามขอยืมชุดอภิเษกแล้ว ก็ชักสีหน้าอย่างไม่พอใจเอ่ยออกมา “นี่มันไม่อาจยืมกันได้ จะให้ผู้อื่นยืมได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ? หากของสิ่งนี้ยังยืมกันแล้ว เช่นนั้นกางเกงชั้นในก็คงจะยืมกันได้”
“เจ้าสาม นี่ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะที่พึ่งสุดท้ายแล้วอย่างนั้นหรือ?” หวงไท่โฮ่วทรงตรัสเกลี้ยกล่อมออกมา
“ก็สามารถยืมจากผู้อื่นได้นี่ ทำไมถึงได้ต้องมาถามจากข้ากันด้วย?” อ๋องหลี่เอ่ยออกมา
“อาเจี๋ยเป็นผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ ในบรรดาชุดอภิเษกชินอ๋อง ชุดของเจ้าปราณีตมากที่สุดแล้ว”
อ๋องหลี่บ่นออกมา “แต่งงานใช่เรื่องใหญ่อะไร จะต้องพิถีพิถันเช่นนี้หรือ? ถึงกับไม่อาจใส่ชุดอะไรไปก็ได้อย่างนั้นหรือ? สามารถใช้ชุดว่าราชการชินอ๋องของเขาเองก็ย่อมได้ ชุดว่าราชการของผู้สำเร็จราชการแทนก็ได้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”
“ก็ได้ เช่นนั้นข้าก็จะไม่ถามเจ้าแล้ว จำได้ว่าก่อนหน้านั้นเจ้าเคยบอกกับข้าไว้ว่า ชุดอภิเษกของเจ้านั้นสำคัญเป็นอย่างมาก ภายหน้าหากว่าจำต้องอภิเษกใหม่แล้วล่ะก็ เจ้าต้องเก็บมันเอาไว้ เพื่อที่ภายหน้าจะไม่ต้องทำชุดใหม่ออกมาอีกชุดหนึ่ง” หวงไท่โฮ่วตรัสออกมา
อ๋องหลี่ตกตะลึง ก่อนจะเอ่ยพึมพำออกมา “ก่อนหน้านั้นไม่ใช่ว่าบอกกันว่าเป็นเรื่องตลกหรอกหรือ?”
วันนั้นในตอนที่แต่งงาน เขาไม่ชอบพระชายาเป็นอย่างมาก คนไม่งดงาม แถมยังดุเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นในตอนที่เข้าวังเพื่อถวายพระพรนั้น ทุกคนต่างก็พากันพูดถึงเรื่องนี้ ต่างก็บอกกันว่าภรรยาของเขานั้นดุ เขาจึงได้บอกออกมาว่า ต่อไปยังจะได้แต่งอีกครั้ง
คำพูดนี้ในตอนนั้นเป็นเพราะว่าความกรุ่นโกรธ จนกลายเป็นเรื่องตลกมาตลอดชีวิตเขา
“จะเป็นเรื่องตลกก็ดี หรือเป็นจากใจจริงก็ดี ข้าเองก็ได้ยินมาหลายครั้งว่าเจ้าบอกว่าภรรยาของเจ้านั้นไม่ใช่ มาตอนนี้เมื่อคิด ๆ ดูแล้ว เก็บชุดอภิเษกนี้เอาไว้ก็ดี ข้าไม่รู้ว่าเมื่อใดกันที่จะต้องเปลี่ยนลูกสะใภ้”
อ๋องหลี่เบิกตากว้าง “เสด็จแม่พูดจาไร้สาระ ข้าเคยบอกเสียเมื่อไหร่กันว่านางไม่ใช่?”
“เจ้าเคยบอกว่านางดุร้าย ใช่หรือไม่?”
อ๋องหลี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เคยบอกออกมาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าบอกว่านางหยาบคาย?”
อ๋องหลี่พยักหน้า “เหมือนว่าจะเคยบอกออกมา”
“เจ้าบอกว่านางดูไม่น่ามอง?”
อ๋องหลี่กลืนน้ำลายลงไป “นี่ ดูดีหรือไม่ก็เท่านั้น หากว่ามองเพลินแล้วก็ไม่เป็นอันใด”
“หย๋า นางเป็นถึงองค์หญิงเป่ยอันที่อภิเษกให้กับเจ้า ถูกเจ้าว่าทั้งหยาบคาย ทั้งดุร้าย ทั้งไม่งดงาม นี่มันช่างน่าน้อยใจยิ่งนัก?” หวงไท่โฮ่วตรัสออกมาพร้อมกับถอนหายใจ